Home »
รู้ทันโรค
»
“บ้านหมุน หน้ามืด” อาจเป็นสาเหตุโรค “น้ำในหูไม่เท่ากัน” อย่าละเลยจนหูหนวก!!
“บ้านหมุน หน้ามืด” อาจเป็นสาเหตุโรค “น้ำในหูไม่เท่ากัน” อย่าละเลยจนหูหนวก!!
ใครที่เคยมีอาการหน้ามืด ตื่นนอนมาแล้วเวียนหัว มีอาการหูอื้อ หรือยืนๆ
อยู่แล้วบ้านหมุนจนล้มพับ ทรงตัวไม่ได้
นี่ไม่ใช่อาการของคนนพักผ่อนไม่เพียงพอ
แต่คุณอาจจะเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
หากคุณเคยมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา
หากปล่อยไว้นานคุณอาจสูญเสียการได้ยินไปตลอดกาล
เราไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้เพื่อทำความรู้จักและป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ
สาเหตุของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
ในปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด
ว่าทำไมน้ำในหูถึงเกิดการไหลเวียนอย่างผิดปกติ มีแต่ข้อสันนิษฐาน เช่น
หูชั้นกลางอักเสบ การกินอาหารรสเค็มจัด การดูดซึมของน้ำในหูผิดปกติ
ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ความเครียด เสียงดัง ภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคภัยบางชนิด
เช่น ไทรอยด์ ซิฟิลิส เบาหวาน ก็อาจเป็นสาเหตุได้
หรืออาจเกิดจากของเหลวในท่อหูมีปัญหา เช่น น้ำในหูชั้นในคั่ง
ทำให้เซลล์ประสาทควบคุมการทรงตัวและการได้ยินทำงำานผิดปกติ จึงเกิดอาการ
หูอื้อ บ้านหมุน เวียนหัว
อาการโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
บางคนหน้ามืดเหมือนยืนอยู่บนเรือที่โคลงเคลง หูอื้อ หูแว่ว อึดอัดในรูหู
คลื่นไส้ ปั่นป่วนในกระเพาะอาหาร อาจเจียน เหงื่อออกมากผิดปกติ สายตาพร่า
นอนไม่หลับ บางรายยืนอยู่เฉยๆ ก็รู้สึกบ้านหมุนทรุดลงฉับพลัน
อาการเวียนหัว บ้านหมุน อาจเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ได้อีก เช่น
-เวียนหัวแต่ไม่มีอาการหูอื้อ 2-3 วินาที อาจหมายถึง หินปูนชั้นในหลุด
-หูอื้อ บ้านหมุนนานประมาณ 1 นาที อาจหมายถึง สมองขาดเลือดชั่วขณะ
-มีเสียงในหู เวียนหัวบ้าน หูอื้อ นานมากกว่า 1 นาทีหรือเป็นชั่วโมง แปลว่า น้ำในหูไม่เท่ากัน
-ถ้ามีอาการเหล่านี้เป็นวันถึงสัปดาห์ อาจหมายถึง เส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ ควรพบพทย์โดยด่วน
รักษาอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน อาจหายได้เพียงแค่อาการ เวียนหัว มึนหัว อาเจียน
แต่ถ้าคนที่เป็นหนักถึงขั้นสูญเสียการได้ยินไปแล้วนั้น
จะไม่สามารถกลับมาได้ยินเป็นปกติได้อีก
การรักษาทางการแพทย์ส่วนมากจึงทำได้เพียงรักษาไปตามอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้น
เพื่อลดความเสี่ยงเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน นอกจากรักษาทางการแพทย์แล้วต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณร่วมด้วย
-หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดัง อากาศร้อนอบอ้าว หรือที่ที่มีแสงแดดรุนแรง
-กินอาหารให้ครบ 5 หมู่และถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ชา กาแฟ บุหรี่ แอลกอฮอล์
-งดอาหารรสเค็มจัด เพื่อปรับระดับโซเดียมและน้ำในร่างกายในสมดุล
-งดอาหารหวาน ไขมันสูง คอเลสตอรอลสูง พวกขนมขบเคี้ยวหรือเนื้อติดมัน
-ห้ามอดนอน อย่าทำงานหรือออกกำลังกายแบบหักโหม
-ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ เพื่อให้เลือดลมสูบฉีด ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ
-ห้ามเครียด หาเวลาผ่อนคลาย ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง แจ่มใส
ขอบคุณข้อมูล : หนังสือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เขียนโดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ แพทย์หญิงสุจิตรา ประสานสุข, goodlifeupdate