วิธีทำลูกชิ้นเอง สะอาดทำง่าย เนื้อเด้งอร่อยเหมือนร้านดังที่ชอบ
สวัสดีเพื่อนๆกันเช่นเคย และในวันนี้เราจะพามาเข้าครัวพร้อมกับทำลูกชิ้นอร่อยๆมาฝากด้วยกันถึง 2 สำหรับใครที่ชื่นชอบในการทานลูกชิ้นที่มักจะอยู่ในเมนูก๋วยเตี๋ยว หรือนำมาทอดทานคู่กับน้ำจิ้มมีผักกับแกล้ม แต่แน่นอนว่าลูกชิ้นที่หลายคนเคยเจอมักจะผสมแป้งเยอะ ไม่รู้สึกถึงรสชาติของเนื้อห มูเลย ปัญหานี้จะหมดไป เพราะที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นเนื้อล้วนไม่มีแป้งผสม ให้ความนุ่มความเด้งและรสชาติของความอร่อย
การทำแรก
ส่วนผสม / เครื่องปรุง
เนื้อห มูบด 1 กิโล , น้ำปลา 2 โต๊ะ , เกลือ 1 หยิบมือ , ผงฟู 1 ช้อนชา , แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ , พริกไท ยป่น มากน้อยตามชอบ
ขั้นตอนการทำ
1 นำเนื้อห มูมาปั่นว่ามีความเนียนดีแล้วเติมน้ำปลา เกลือ ผงฟู พริกไท ย แป้งข้าวโพด ปั่นให้เข้ากัน จากนั้นนำเข้าตู้แช่แข็งเป็นเวลา 30 นาที
2 เมื่อครบเวลาในการแช่ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นเราใส่เนื้อห มูที่เราแช่ เราจะใช้มือจุ่มน้ำและทำการปั้นให้เป็นก้อนแล้วใช้ช้อน ตักใส่ลงไปในหม้อต้ม ต้มลูกชิ้นสุกประมาณ 10 นาที คนอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะไม่ให้ความร้อนทั่วถึง ลูกที่ลอยขึ้นอาจจะยังไม่สุกดี ต้องตัดออกมาดูว่าด้านในสุกหรือยัง แค่พอเนื้อไม่แดงก็เป็นอันใช้ได้
3 เมื่อสุกดีแล้วให้เราใช้กระชอนตักใส่ในน้ำเย็นได้เลย จากนั้นให้เรารินน้ำออกให้หมด เราก็สามารถที่จะนำลูกชิ้นไปประกอบเมนูอาหารได้ตามใจชอบ
การทำที่สอง
ส่วนผสม / เครื่องปรุง
เนื้อห มูบดติดมัน 700 กรัม , แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ , แป้งสาลีอเนกประสงค์ 5 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น 1 ช้อนชาพูน ๆ , พริกไท ยป่น 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ , ผงชูรส 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้) , ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย , กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1 ผสมแป้งข้าวโพดเข้ากับแป้งสาลีอเนกประสงค์ พริกไท ย เกลือป่น น้ำตาลทราย ผงชูรส และผงฟูใส่ลงไปในอ่างผสม เทน้ำเย็นลงไป คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
2 ใส่เนื้อห มูบดที่ได้เตรียมเอาไว้ลงไป พร้อมกับการตีส่วนผสมด้วยเครื่องให้เข้ากันจนส่วนผสมมีความเหนียวเข้ากันดี เราจะใช้เครื่องตีในการทุ่นแรง หากใครไม่มีเครื่องตีก็สามารถใช้มือของเราเป็นตัวนวดได้ นวดให้เหนียวให้เข้ากันประมาณ 15 นาที
3 ส่วนผสมมีความเนื้อเหนียวดีแล้วให้นำไปแช่ในตู้เย็น 30 นาที
4 ครบเวลา 30 นาทีแล้วใส่น้ำลงไปในหม้อนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด แล้วทำการบีบส่วนผสมของลูกชิ้นใส่ลงไปในน้ำร้อน ทำการต้มให้สุกดีตักขึ้นพักไว้ในน้ำเย็น เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ นำไปประกอบเมนูอาหารในขั้นตอนถัดไปได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : kubkhao