ตรวจพบ! สารปนเปื้อนในอาหาร 6 ชนิดนี้ อันตรายมาก!!!

ตรวจพบ! สารปนเปื้อนในอาหาร 6 ชนิดนี้ อันตรายมาก!!!

การรับประทานอาหารทุกวันนี้คุณมั่นใจแค่ไหน? ว่าอาหารเหล่านั้นสะอาดปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน ทานแล้วแทนที่จะได้สุขภาพดีกลับได้สารเคมีสะสมในร่างกายไปเรื่อย ๆ ทุกวัน จะมีอาหารชนิดใดบ้างที่ตรวจพบมาดูกันค่ะ

สารปนเปื้อนในอาหาร หากคุณคิดว่า…การทานอาหารให้ครบทุกมื้อให้ถูกหลักโภชนาการ แค่นี้ก็เพียงพอในการดูแลสุขภาพแล้ว…คุณคิดถูก แต่ไม่ครบถ้วนทั้งหมด…เพราะในยุคปัจจุบันที่แม้จะมีอาหารให้เลือกซื้อ เลือกทานมากมาย…แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อาหารเหล่านั้นปลอดภัยต่อสารปนเปื้อนหรือไม่? คุณกำลังเสี่ยงกับอันตรายแบบตายผ่อนส่งกันอยู่หรือเปล่า? รับรองว่า หลังจากคุณได้รู้จักกับ สารปนเปื้อนในอาหารทั้ง 6 ชนิดที่นำมาเตือนกันในวันนี้…คุณจะได้คำตอบว่า…อันตรายแบบตายผ่อนส่งนั้นเป็นอย่างไร และน่ากลัวแค่ไหน…

รู้ป้องกันภัยจาก “สารปนเปื้อนในอาหาร”

​สารฟอร์มาลีน (Formalin)

ทางเคมีเรียกว่าสารละลายฟอร์มาลดีไฮด์ คือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือน้ำยาดองศพนั่นเอง โดยมีลักษณะเป็นของเหลวใสๆ ไม่มีสี มีแต่กลิ่นฉุนๆ ซึ่งนิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมพลาสติก เคมีภัณฑ์ และสิ่งทอเพื่อไม่ให้ผ้าย่นหรือยับ

ฟอร์มาลิน-สารปนเปื้อนในอาหารจริงๆ แล้วฟอร์มาลินไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับอาหารเพื่อการบริโภค แต่ด้วยความเห็นแก่ตัว มักง่ายของผู้ประกอบการที่ต้องการให้อาหารคงความสด ไม่เน่าเสียง่าย ลดความเสี่ยงในการขาดทุน จึงนำฟอร์มาลินมาใช้กับอาหาร ซึ่งมักพบในอาหารจำพวก อาหารทะเลสด เครื่องในสัตว์ รวมถึงผักสดหลายๆ ชนิด

อันตรายของสารปนเปื้อนในอาหารอย่าง : “ฟอร์มาลีน” หากเกิดการตกค้างในร่างกาย จะให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร และเป็นสารที่ก่อมะเร็งได้อีกด้วย ไม่เพียงเฉพาะผู้ที่บริโภคสารปนเปื้อนนี้เข้าไปเท่านั้น ผู้สัมผัสสารนี้บ่อยๆ ก็มีความเสี่ยงเกิดการสะสมจนเป็นมะเร็งร้ายในระยะยาวได้เช่นกัน

วิธีป้องกัน : ดมกลิ่นวัตถุดิบ อาหารที่ต้องการซื้อว่ามีกลิ่นฉุนๆ ของสารฟอร์มาลีนหรือไม่? หลีกเลี่ยงแหล่งจำหน่ายที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย

สารบอแรกซ์ (Borax)

โดยมีชื่อทางการค้าว่า “น้ำประสานทอง” มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมบอเรต (Sodium borate) โซเดียมเตตราบอเรต (Sodium tetraborate) ซึ่งมีลักษณะเป็นผลึกละเอียด หรือผงสีขาว ไม่มีกลิ่น ละลายน้ำได้ดี นิยมนำมาใช้ในทางอุตสาหกรรม แต่มีผู้ลักลอบนำเอาสารบอแรกซ์ผสมในอาหารเพื่อให้เกิดความหยุ่น กรุบกรอบ อยู่ได้นาน ไม่เสียง่าย อาหารที่เสี่ยงมีสารบอแรกซ์คือ ลูกชิ้น หมูบด หมูเด้ง ทอดมัน ไส้กรอก ทับทิมกรอบ ผัก-ผลไม้ดอง

อันตรายของสารปนเปื้อนในอาหารชนิดนี้คือ : ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร อุจจาระร่วง และอาจส่งผลเป็นพิษต่อตับ ไต สมองได้

วิธีป้องกัน : หลีกเลี่ยงการซื้อหมูบดสำเร็จรูป ควรนำเนื้อหมูมาบดสับเอง หลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อหมูที่ดูผิดปกติจากธรรมชาติ ไม่ทานอาหารที่กรอบเด้ง อยู่ได้นาน

สารฟอกขาว หรือผงซักมุ้ง

โดยทางเคมีเรียกว่า สารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ (Sodium Hydrosulfite) เป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยไม่ให้อาหารเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล เมื่อถูกหั่น/ตัด แล้ววางทิ้งไว้ และเป็นสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ยีสต์ ซึ่งนิยมใช้สารนี้ในการฟอกแหวน ฟอกแห อวน แต่มีผู้ประกอบการหัวใส ไร้จรรยาบรรณหลายคนนำมาใช้ฟอกขาวในอาหาร เพื่อให้อาหารดูขาวสะอาด น่ารับประทาน และยืดอายุอาหารให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น

สำหรับอาหารที่เสี่ยงสารปนเปื้อนในอาหารอย่าง : “สารฟอกขาว” ได้แก่ กระท้อน ยอดมะพร้าว น้ำตาลมะพร้าว ขิงฝอย ตีนไก่ ถั่วงอก หน่อไม้ดอง และอันตรายของสารชนิดนี้คือ ทำให้ผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นแดงในบริเวณที่สัมผัสกับสาร หากสารเข้าสู่ร่างกายจะเกิดอาการหายใจขัด ปวดท้อง อุจจาระร่วง ความดันโลหิตต่ำ บางรายแพ้จนอาจช็อค หมดสติ หรือเสียชีวิตได้สำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด

วิธีป้องกัน : ควรเลือกซื้ออาหารที่ดูมีสีปกติธรรมชาติ เน้นความปลอดภัยมากกว่าความสวยงามของหน้าตาอาหาร-วัตถุดิบ

สารกันรา หรือกรดซาลิซิลิค

ซึ่งมีอันตรายต่อร่างกายมาก จึงมีข้อกำหนดห้ามไม่ให้นำมาเจือปนในอาหาร แต่ด้วยคุณสมบัติของสารกันราที่ช่วยให้อาหารอยู่ได้นาน ไม่เสียง่าย จึงถูกลักลอบนำมาใช้กับอาหารจำพวก อาหารแห้ง พริกแกง น้ำดองผัก-ผลไม้ ขนมปัง

อันตรายของสารปนเปื้อนในอาหารอย่าง : “สารกันรา” คือเมื่อสารนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายจะไปทำลายเซลล์ และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ หากได้รับสารกันราในปริมาณมาก เยื่อบุในกระเพาะอาหารและลำไส้อาจถูกทำลาย ถึงขั้นอาเจียน หูอื้อ มีไข้ ความดันโลหิตต่ำ ช็อคและอาจเสียชีวิตได้

วิธีป้องกัน : เลือกทานอาหารที่สดใหม่ หลีกเลี่ยงของหมัก-ดอง เลือกซื้อวัตถุดิบ-อาหารจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีเครื่องหมาย อย. รับประกันความปลอดภัย

สารเร่งเนื้อแดง

หรือ “สารซาลบูตามอล” ซึ่งใช้เป็นยารักษาหอบหืดในคนและสัตว์ ช่วยขยายหลอดลม กระตุ้นการเต้นของหัวใจ แต่ถูกลักลอบมาฉีดให้กับสุกรเพื่อเพิ่มเนื้อแดง ลดไขมันตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ผลที่ตามมาคือสารตกค้างในเนื้อหมูมาสู่ผู้บริโภค

อันตรายของสารปนเปื้อนในอาหารอย่าง : “สารเร่งเนื้อแดง” คือทำให้กล้ามเนื้อกระตุก มือสั่น ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นตะคริว และอาจส่งผลกระทบแก่ระบบประสาทหากได้รับสารในปริมาณมากๆ

วิธีป้องกัน : เลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสีปกติธรรมชาติ สีไม่แดงมาก และมีชั้นมันหนา

ยาฆ่าแมลง

หรือ “สารเคมีสำหรับกำจัดศัตรูพืช” ซึ่งคุณสมบัติของสารชนิดนี้คือ ป้องกันไม่ให้ศัตรูพืชมาทำลายผลผลิต ป้องกันการสูญเสียผลผลิต ผลที่ตามมาคือยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในพืช-ผัก อาหาร หลังการเก็บเกี่ยวมาจำหน่ายให้ผู้บริโภค

อันตรายของยาฆ่าแมลงเมื่อเข้าสู่ร่างกายคือ : ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ปวดศีรษะ มึนงง แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ปวดท้อง อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก จนอาจถึงขั้นชัก หมดสติได้

วิธีป้องกัน : เลือกทานผัก-ผลไม้ตามฤดูกาล ผักพื้นบ้านเติบโตง่าย ไม่ต้องพึ่งยาฆ่าแมลง และควรเลือกผักที่มีรูพรุนเจาะบ้าง อย่าเน้นแต่ความสวยงามจนลืมเรื่องของความปลอดภัย อีกทั้งควรล้างให้สะอาดก่อนนำไปปรุง หรือไปรับประทานสด

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับ สารปนเปื้อนในอาหารทั้ง 6 ชนิด…เรียกว่าอยู่ใกล้ตัวเรามาก มีโอกาสพบเห็นในทุกมื้ออาหารของเราเลยก็ว่าได้…แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกว่า…อันตรายแบบตายผ่อนส่งได้อย่างไรกัน…เมื่อรู้ถึงอันตราย และวิธีการป้องกันตนเองจากสารปนเปื้อนในอาหารกันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปฝึกสังเกต เลือกอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดี และชีวิตที่ยืนยาว ห่างไกลโรคภัยกันนะคะ

ขอขอบคุณ : www.sukkaphap-d.com