วิธีลดน้ำหนัก ด้วยการออกกำลังกายแบบไหนได้ผลดีที่สุด มาดูแล้วไปรีบไปจัดเต็มซะ ที่อ้วน ๆ อยู่ผอมลงแน่นอน
การออกกำลังกายเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายของเราเผาผลาญได้มากขึ้นกว่าปกติ และการออกกำลังกายแต่ละชนิดก็ช่วยเบิร์นแคลอรีได้ต่างกัน ซึ่งสำหรับการลดน้ำหนักแล้ว ยิ่งเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นนั่นก็แปลว่าโอกาสที่จะผอมลงก็มีมากขึ้นด้วย อย่างเช่นการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักเหล่านี้ที่หยิบมาแบ่งปันกันในวันนี้ ขอคอนเฟิร์มว่าเป็นวิธีการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและช่วยเบิร์นแคลอรีได้ดี ถ้าอยากจะผอมด้วยการออกกำลังกาย ต้องรีบจัดไปอย่าให้เสีย !
1. กระโดดเชือก (120 ครั้ง/นาที)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 667 - 990 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
ใครจะเชื่อล่ะว่าแค่กระโดดเชือกก็เผาผลาญแคลอรีได้มากขนาดนี้ ซึ่งการกระโดดเชือกถือเป็นการออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ได้ผลดีแบบสุด ๆ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ต้องออกแรงมาก อีกทั้งแขนกับไหล่ก็ได้ขยับอยู่ตลอด นับเป็นการออกกำลังกายที่เรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี ถ้าอยากผอมก็อย่ารอช้า รีบหยิบเชือกมาเริ่มกระโดดกันเลยค่ะ
2. วิ่ง (10 นาที/1.6 กิโลเมตร)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 566 - 839 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
วิธีออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างการวิ่ง เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้มาก แถมยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญได้ต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วและระยะเวลาในการวิ่งด้วย โดยถ้าอยากให้ร่างกายเผาผลาญหลังออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ก็แนะนำให้ใช้สูตรการวิ่งแบบ 2:1 นั่นก็คือ วิ่ง 60 วินาที แล้วพักเดิน 30 วินาที นอกจากนี้ถ้าวิ่งในระยะทางไกล ๆ ก็ยังช่วยลดสัดส่วน อาทิ ลดต้นขา ลดก้น ลดสะโพกได้เป็นอย่างดีเลย
3. การบริหารร่างกายด้วยเคตเทิลเบลแบบความเข้มข้นสูง
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 554 - 822 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
เคตเทิลเบลเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าหากนำมารวมกับการออกกำลังกายแบบ HIIT จะยิ่งช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแขนและไหล่แข็งแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดน้ำหนักได้แถมได้กล้ามเนื้อฟิตแอนด์เฟิร์ม คุ้มสองต่อเลยเห็นไหมล่ะ
4. คิกบ็อกซิ่ง (Kickboxing)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 582 - 864 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ประยุกต์มาจากมวยไทยชนิดนี้ สามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งสูตรการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ที่ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักมากที่สุดก็ได้แก่ สูตร 3:1 นั่นก็คือ คิกบ็อกซิ่ง 90 วินาที พัก 30 วินาที การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นทั้งในขณะออกกำลังกายและหลังการออกกำลังกายค่ะ
5. การปั่นจักรยานอยู่กับที่ (Stationary bike)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 489 - 738 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
การปั่นจักรยานอยู่กับที่เป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้เองที่บ้านมีแค่เพียงเครื่องปั่นจักรยานเท่านั้น โดยเคล็ดลับออกกำลังกายที่ได้ผลดีสุด ๆ ก็คือเน้นที่ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย โดยเริ่มจากปั่นด้วยความเร็ว 10 วินาที แล้วพัก 50 วินาที หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 15 วินาที พัก 45 วินาที และปั่น 20 วินาที พัก 40 วินาที และควรปรับเพิ่มแรงต้านทานเข้าไปเพื่อให้การออกกำลังกายได้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น การปั่นจักรยานอยู่กับที่นี้ ไม่เพียงแค่ช่วยเบิร์นแคลอรีได้ทั้งตอนที่ออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้กล้ามเนื้อขาฟิต แอนด์ เฟิร์มได้อีกด้วย
6. ออกกำลังกายกับเครื่องกรรเชียงบก (Rowing machine)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 481 - 713 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
อุปกรณ์ออกกำลังกายแบบกรรเชียงบก เป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างเข้มข้น และให้ผลดีเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออีกหลายชนิด ยิ่งถ้าหากทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ อาทิ สควอช วิดพื้น หรือการแพลงก์ จะยิ่งเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงกว่าเดิม และช่วยเบิร์นแคลอรีออกไปได้แบบจัดเต็มเลยเชียวล่ะ
7. ขึ้น-ลงบันได (77 ขั้น/นาที)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 452 - 670 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
การเดินสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ แต่ถ้าหากเพิ่มจากการเดินในทางเรียบเป็นการเดินขึ้น-ลงบันไดละก็ จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากยิ่งขึ้น และถ้ายิ่งถือดัมเบลในมือทั้งสองข้างในขณะที่ขึ้นลงบันไดด้วยละก็ จะยิ่งทำให้ร่างกายส่วนบนของคุณทำงานมากขึ้น เสริมความแข็งแรงไปได้ในตัวแบบนี้ไม่แปลกเลยที่ทำให้การออกกำลังกายแบบนี้มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม !
8. ออกกำลังกายกับเครื่องเดินวงรี : Elliptical (แรงต้านทานระดับ 8)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 322 - 478 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
เครื่องออกกำลังกายประเภทนี้อาจจะไม่ถึงขั้นต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงแต่ก็ได้ผลดีกับการเผาผลาญอย่างน่าอัศจรรย์ และถ้าอยากให้การออกกำลังกายได้ประสิทธิภาพมากขึ้นก็ลองปรับเพิ่มแรงต้านทานให้มากขึ้น ก็จะยิ่งช่วยในเรื่องการเผาผลาญแคลอรีและทำให้การออกกำลังกายสนุกมากขึ้นค่ะ
9. พาวเวอร์โยคะ (Power yoga)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 226 - 335 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
พาวเวอร์โยคะเป็นการฝึกโยคะที่ต่อเนื่องและต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายมาก อีกทั้งยังเป็นการฝึกหายใจที่ดีอีกด้วย ซึ่งการฝึกโยคะวิธีนี้ไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแรงแต่ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญหลังจากการออกกำลังกายไปได้ตลอดทั้งวัน ใครที่ไม่ชอบออกกำลังกายหนัก ๆ การฝึกโยคะนี่ล่ะเหมาะที่สุด
การออกกำลังกายที่คัดกันมานี้ก็ล้วนแต่ได้ประสิทธิภาพดีแบบสุด ๆ ถ้าคิดจะลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายก็ลองเลือกวิธีการออกกำลังกายเหล่านี้ไปใช้กันได้นะคะ แต่ทั้งนี้ก็ควรออกกำลังกายในแบบพอดี ๆ อย่าหักโหมเกินไป ไม่อย่างนั้นร่างกายพังไม่รู้ด้วยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
womenshealthmag.com
prevention.com
การออกกำลังกายเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายของเราเผาผลาญได้มากขึ้นกว่าปกติ และการออกกำลังกายแต่ละชนิดก็ช่วยเบิร์นแคลอรีได้ต่างกัน ซึ่งสำหรับการลดน้ำหนักแล้ว ยิ่งเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นนั่นก็แปลว่าโอกาสที่จะผอมลงก็มีมากขึ้นด้วย อย่างเช่นการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักเหล่านี้ที่หยิบมาแบ่งปันกันในวันนี้ ขอคอนเฟิร์มว่าเป็นวิธีการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและช่วยเบิร์นแคลอรีได้ดี ถ้าอยากจะผอมด้วยการออกกำลังกาย ต้องรีบจัดไปอย่าให้เสีย !
1. กระโดดเชือก (120 ครั้ง/นาที)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 667 - 990 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
ใครจะเชื่อล่ะว่าแค่กระโดดเชือกก็เผาผลาญแคลอรีได้มากขนาดนี้ ซึ่งการกระโดดเชือกถือเป็นการออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ได้ผลดีแบบสุด ๆ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ต้องออกแรงมาก อีกทั้งแขนกับไหล่ก็ได้ขยับอยู่ตลอด นับเป็นการออกกำลังกายที่เรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี ถ้าอยากผอมก็อย่ารอช้า รีบหยิบเชือกมาเริ่มกระโดดกันเลยค่ะ
2. วิ่ง (10 นาที/1.6 กิโลเมตร)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 566 - 839 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
วิธีออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างการวิ่ง เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้มาก แถมยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญได้ต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วและระยะเวลาในการวิ่งด้วย โดยถ้าอยากให้ร่างกายเผาผลาญหลังออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ก็แนะนำให้ใช้สูตรการวิ่งแบบ 2:1 นั่นก็คือ วิ่ง 60 วินาที แล้วพักเดิน 30 วินาที นอกจากนี้ถ้าวิ่งในระยะทางไกล ๆ ก็ยังช่วยลดสัดส่วน อาทิ ลดต้นขา ลดก้น ลดสะโพกได้เป็นอย่างดีเลย
3. การบริหารร่างกายด้วยเคตเทิลเบลแบบความเข้มข้นสูง
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 554 - 822 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
เคตเทิลเบลเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าหากนำมารวมกับการออกกำลังกายแบบ HIIT จะยิ่งช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแขนและไหล่แข็งแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดน้ำหนักได้แถมได้กล้ามเนื้อฟิตแอนด์เฟิร์ม คุ้มสองต่อเลยเห็นไหมล่ะ
4. คิกบ็อกซิ่ง (Kickboxing)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 582 - 864 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ประยุกต์มาจากมวยไทยชนิดนี้ สามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งสูตรการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ที่ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักมากที่สุดก็ได้แก่ สูตร 3:1 นั่นก็คือ คิกบ็อกซิ่ง 90 วินาที พัก 30 วินาที การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นทั้งในขณะออกกำลังกายและหลังการออกกำลังกายค่ะ
5. การปั่นจักรยานอยู่กับที่ (Stationary bike)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 489 - 738 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
การปั่นจักรยานอยู่กับที่เป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้เองที่บ้านมีแค่เพียงเครื่องปั่นจักรยานเท่านั้น โดยเคล็ดลับออกกำลังกายที่ได้ผลดีสุด ๆ ก็คือเน้นที่ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย โดยเริ่มจากปั่นด้วยความเร็ว 10 วินาที แล้วพัก 50 วินาที หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 15 วินาที พัก 45 วินาที และปั่น 20 วินาที พัก 40 วินาที และควรปรับเพิ่มแรงต้านทานเข้าไปเพื่อให้การออกกำลังกายได้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น การปั่นจักรยานอยู่กับที่นี้ ไม่เพียงแค่ช่วยเบิร์นแคลอรีได้ทั้งตอนที่ออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้กล้ามเนื้อขาฟิต แอนด์ เฟิร์มได้อีกด้วย
6. ออกกำลังกายกับเครื่องกรรเชียงบก (Rowing machine)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 481 - 713 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
อุปกรณ์ออกกำลังกายแบบกรรเชียงบก เป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างเข้มข้น และให้ผลดีเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออีกหลายชนิด ยิ่งถ้าหากทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ อาทิ สควอช วิดพื้น หรือการแพลงก์ จะยิ่งเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงกว่าเดิม และช่วยเบิร์นแคลอรีออกไปได้แบบจัดเต็มเลยเชียวล่ะ
7. ขึ้น-ลงบันได (77 ขั้น/นาที)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 452 - 670 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
การเดินสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ แต่ถ้าหากเพิ่มจากการเดินในทางเรียบเป็นการเดินขึ้น-ลงบันไดละก็ จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากยิ่งขึ้น และถ้ายิ่งถือดัมเบลในมือทั้งสองข้างในขณะที่ขึ้นลงบันไดด้วยละก็ จะยิ่งทำให้ร่างกายส่วนบนของคุณทำงานมากขึ้น เสริมความแข็งแรงไปได้ในตัวแบบนี้ไม่แปลกเลยที่ทำให้การออกกำลังกายแบบนี้มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม !
8. ออกกำลังกายกับเครื่องเดินวงรี : Elliptical (แรงต้านทานระดับ 8)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 322 - 478 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
เครื่องออกกำลังกายประเภทนี้อาจจะไม่ถึงขั้นต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงแต่ก็ได้ผลดีกับการเผาผลาญอย่างน่าอัศจรรย์ และถ้าอยากให้การออกกำลังกายได้ประสิทธิภาพมากขึ้นก็ลองปรับเพิ่มแรงต้านทานให้มากขึ้น ก็จะยิ่งช่วยในเรื่องการเผาผลาญแคลอรีและทำให้การออกกำลังกายสนุกมากขึ้นค่ะ
9. พาวเวอร์โยคะ (Power yoga)
ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญได้ : 226 - 335 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
พาวเวอร์โยคะเป็นการฝึกโยคะที่ต่อเนื่องและต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายมาก อีกทั้งยังเป็นการฝึกหายใจที่ดีอีกด้วย ซึ่งการฝึกโยคะวิธีนี้ไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแรงแต่ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญหลังจากการออกกำลังกายไปได้ตลอดทั้งวัน ใครที่ไม่ชอบออกกำลังกายหนัก ๆ การฝึกโยคะนี่ล่ะเหมาะที่สุด
การออกกำลังกายที่คัดกันมานี้ก็ล้วนแต่ได้ประสิทธิภาพดีแบบสุด ๆ ถ้าคิดจะลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายก็ลองเลือกวิธีการออกกำลังกายเหล่านี้ไปใช้กันได้นะคะ แต่ทั้งนี้ก็ควรออกกำลังกายในแบบพอดี ๆ อย่าหักโหมเกินไป ไม่อย่างนั้นร่างกายพังไม่รู้ด้วยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
womenshealthmag.com
prevention.com