หิวตอนดึก กินอะไรดี ? สำหรับคนที่รู้สึกหิวจนนอนไม่หลับ และไม่อยากอ้วน ก็ไม่ต้องทนหิวกลางดึกอีกต่อไป และไม่ต้องกลัวจะอ้วนด้วย !
บางคนพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร พยายามกินมื้อเย็นเบา ๆ น้อย ๆ แต่มาตกม้าตายก็ตอนค่ำ เกิดหิวตอนกลางคืนขึ้นมาซะงั้น เอ้า ! ทำไงดีล่ะทีนี้ อยากผอมก็อยาก ไม่อยากอ้วนก็ด้วย เราก็มีตัวช่วยมาฝาก อย่างอาหาร 5 ชนิดต่อไปนี้ไงคะ แคลอรีต่ำ กินแก้หิวตอนดึกได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วน แถมแก้นอนไม่หลับก็ได้อีก เริดอะไรอย่างนี้ล่ะ !
อ๊ะ ! และเผื่อใครจะลังเลใจในเรื่องแคลอรีในอาหารที่เรากำลังจะนำเสนอ เราก็ขออ้างอิงปริมาณพลังงานอาหารแต่ละชนิดในจำนวน 100 กรัม ตามที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุไว้ เอาล่ะ...มาดูกันสิว่า ถ้าเกิดหิวตอนดึกขึ้นมาควรกินอะไรดี
1. กล้วย
กล้วยทุกชนิดมีวิตามิน B1 และ B2 ตัวช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ จึงมีสรรพคุณดูดซับน้ำและทำให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้อง ที่สำคัญกล้วย 1 ลูก ปริมาณ 40 กรัม ให้พลังงานเพียง 67 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วการกินแก้หิวในตอนดึกก็ควรจะกินกล้วยแค่เพียง 1 ลูก หรือกล้วยหอมครึ่งลูกก็พอ (ปริมาณ 44 กรัม ให้พลังงาน 67 กิโลแคลอรี) เพราะหากกินกล้วยมากเกิน 1 ลูกก็อาจอิ่มแน่นท้องจนนอนไม่สบายเอาได้
นอกจากนี้กล้วยยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและทริปโตเฟน สารประกอบสำคัญของการสร้างเซโรโทนินในสมอง ซึ่งเปรียบเสมือนยาระงับประสาทแบบธรรมชาติ ดังนั้นคนที่นอนหลับยากหรือนอนหลับด้วยความกระสับกระส่ายเพราะความหิวตอนดึกมาโดยตลอด กล้วยนี่แหละคำตอบที่ดีที่สุด
2. นมอุ่น ๆ
นมมีโปรตีนสูง แต่ให้แคลอรีต่ำ ในปริมาณ 100 กรัม (97 มิลลิลิตร) จะให้พลังงานอยู่ราว ๆ 44-58 กิโลแคลอรีเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อนมพร่องมันเนยแต่ละชนิด) ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้องแล้ว ก็ยังจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมกรดอะมิโนทริปโตเฟนได้มากขึ้น จากนั้นกรดอะมิโนชนิดนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายสร้างสารเซโรโทนินออกมาควบคุมการนอนหลับ ทำให้เราอิ่มสบายและหลับสนิท
3. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตไขมันต่ำปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานราว ๆ 90-120 กิโลแคลอรี แต่ให้โปรตีนสูงมาก อีกทั้งการรับประทานโยเกิร์ตยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกอิ่มสบายท้อง นอกจากนี้โปรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตยังช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรีย ทำให้ร่างกายย่อยโปรตีน และดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการนอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย
4. ส้ม
ส้มเขียวหวาน 1-2 ลูกย่อม ๆ ปริมาณ 136 กรัมโดยประมาณ จะให้พลังงานอยู่ที่ 67 กิโลแคลอรี และส้มยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ที่มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ช่วยให้เราหลับสบาย ส่วนไฟเบอร์ในเนื้อส้มก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้แบบไม่แน่นท้องเกินไปนัก ที่สำคัญเจ้าไฟเบอร์ในส้มยังดีต่อระบบขับถ่ายในตอนเช้าด้วยล่ะ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรกินส้มเกิน 2 ผลนะคะ ไม่งั้นอาจได้แคลอรีที่เกินพอดีจนเป็นน้ำตาลสะสมในร่างกายแทน
5. ปลาทูน่าในน้ำสลัด
ปลาทูน่าเป็นแหล่งรวมวิตามิน B6 ตัวช่วยกระตุ้นการสร้างเซโรโทนินและเมลาโทนิน ทำให้รู้สึกง่วงนอนได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรจำกัดการรับประทานทูน่าในน้ำสลัดให้ไม่เกิน 100 กรัมนะคะ เพราะในปริมาณเท่านี้ก็ให้พลังงานประมาณ 86 กิโลแคลอรีแล้ว เพราะบางคนอาจอยากกินปลาทูน่ากับขนมปังโฮลวีทสักแผ่น จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับแคลอรีที่สูงจนอาจทำให้อ้วนได้
ในเมื่อมีอาหารปราบความหิวตอนดึกและเป็นอาหารแคลอรีต่ำอย่างนี้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทนนอนท้องร้องกันอีกต่อไปล่ะเนอะ ;p
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
popsugar
huffingtonpost
allwomenstalk
บางคนพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร พยายามกินมื้อเย็นเบา ๆ น้อย ๆ แต่มาตกม้าตายก็ตอนค่ำ เกิดหิวตอนกลางคืนขึ้นมาซะงั้น เอ้า ! ทำไงดีล่ะทีนี้ อยากผอมก็อยาก ไม่อยากอ้วนก็ด้วย เราก็มีตัวช่วยมาฝาก อย่างอาหาร 5 ชนิดต่อไปนี้ไงคะ แคลอรีต่ำ กินแก้หิวตอนดึกได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วน แถมแก้นอนไม่หลับก็ได้อีก เริดอะไรอย่างนี้ล่ะ !
อ๊ะ ! และเผื่อใครจะลังเลใจในเรื่องแคลอรีในอาหารที่เรากำลังจะนำเสนอ เราก็ขออ้างอิงปริมาณพลังงานอาหารแต่ละชนิดในจำนวน 100 กรัม ตามที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุไว้ เอาล่ะ...มาดูกันสิว่า ถ้าเกิดหิวตอนดึกขึ้นมาควรกินอะไรดี
1. กล้วย
กล้วยทุกชนิดมีวิตามิน B1 และ B2 ตัวช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ จึงมีสรรพคุณดูดซับน้ำและทำให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้อง ที่สำคัญกล้วย 1 ลูก ปริมาณ 40 กรัม ให้พลังงานเพียง 67 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วการกินแก้หิวในตอนดึกก็ควรจะกินกล้วยแค่เพียง 1 ลูก หรือกล้วยหอมครึ่งลูกก็พอ (ปริมาณ 44 กรัม ให้พลังงาน 67 กิโลแคลอรี) เพราะหากกินกล้วยมากเกิน 1 ลูกก็อาจอิ่มแน่นท้องจนนอนไม่สบายเอาได้
นอกจากนี้กล้วยยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและทริปโตเฟน สารประกอบสำคัญของการสร้างเซโรโทนินในสมอง ซึ่งเปรียบเสมือนยาระงับประสาทแบบธรรมชาติ ดังนั้นคนที่นอนหลับยากหรือนอนหลับด้วยความกระสับกระส่ายเพราะความหิวตอนดึกมาโดยตลอด กล้วยนี่แหละคำตอบที่ดีที่สุด
นมมีโปรตีนสูง แต่ให้แคลอรีต่ำ ในปริมาณ 100 กรัม (97 มิลลิลิตร) จะให้พลังงานอยู่ราว ๆ 44-58 กิโลแคลอรีเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อนมพร่องมันเนยแต่ละชนิด) ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้องแล้ว ก็ยังจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมกรดอะมิโนทริปโตเฟนได้มากขึ้น จากนั้นกรดอะมิโนชนิดนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายสร้างสารเซโรโทนินออกมาควบคุมการนอนหลับ ทำให้เราอิ่มสบายและหลับสนิท
โยเกิร์ตไขมันต่ำปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานราว ๆ 90-120 กิโลแคลอรี แต่ให้โปรตีนสูงมาก อีกทั้งการรับประทานโยเกิร์ตยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกอิ่มสบายท้อง นอกจากนี้โปรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตยังช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรีย ทำให้ร่างกายย่อยโปรตีน และดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการนอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย
4. ส้ม
ส้มเขียวหวาน 1-2 ลูกย่อม ๆ ปริมาณ 136 กรัมโดยประมาณ จะให้พลังงานอยู่ที่ 67 กิโลแคลอรี และส้มยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ที่มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ช่วยให้เราหลับสบาย ส่วนไฟเบอร์ในเนื้อส้มก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้แบบไม่แน่นท้องเกินไปนัก ที่สำคัญเจ้าไฟเบอร์ในส้มยังดีต่อระบบขับถ่ายในตอนเช้าด้วยล่ะ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรกินส้มเกิน 2 ผลนะคะ ไม่งั้นอาจได้แคลอรีที่เกินพอดีจนเป็นน้ำตาลสะสมในร่างกายแทน
5. ปลาทูน่าในน้ำสลัด
ปลาทูน่าเป็นแหล่งรวมวิตามิน B6 ตัวช่วยกระตุ้นการสร้างเซโรโทนินและเมลาโทนิน ทำให้รู้สึกง่วงนอนได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรจำกัดการรับประทานทูน่าในน้ำสลัดให้ไม่เกิน 100 กรัมนะคะ เพราะในปริมาณเท่านี้ก็ให้พลังงานประมาณ 86 กิโลแคลอรีแล้ว เพราะบางคนอาจอยากกินปลาทูน่ากับขนมปังโฮลวีทสักแผ่น จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับแคลอรีที่สูงจนอาจทำให้อ้วนได้
ในเมื่อมีอาหารปราบความหิวตอนดึกและเป็นอาหารแคลอรีต่ำอย่างนี้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทนนอนท้องร้องกันอีกต่อไปล่ะเนอะ ;p
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
popsugar
huffingtonpost
allwomenstalk