อ้วนลงพุง-อันตรายกว่าที่คิด
แม้คนส่วนใหญ่จะรู้ถึงอันตรายจากการมีน้ำหนักตัวมากเกินไป
เพราะไขมันที่พอกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้น
มีอันตรายมากกว่าที่เราคิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันที่สะสมอยู่บริเวณช่วงท้อง !!!
ไขมันช่องท้องสาเหตุของอ้วนลงพุง
ซึ่งเป็นอัตราของไขมันในร่างกายต่อความสูง
และอัตราส่วนของเอวต่อสะโพกเพื่อหาอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ
ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ แต่มีขนาดรอบเอวมาก
มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคต่างๆ
มากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติและขนาดรอบเอวปกติ 2.1 เท่า
ซึ่งอันตรายและโรคที่มาพร้อมกับการีอ้วนลงพุงก็คือ…
ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่
เมื่อเร็วๆ นี้มีผลการวิจัย
พบว่าผู้ที่อ้วนลงพุงนั้นจะทำให้การทำงานของปอดลดลง
เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ และไม่มีไขมันหน้าท้อง
ผลการวิจัยนี้พบว่าผู้ที่มีไขมันส่วนเกินทำให้อัตราการหายใจลดลง
ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ทำให้ทางเดินหายใจหดแคบลง
และก่อให้เกิดโรคปอดเรื้อรังอย่างหอบหืดตามมาได้
การทำงานของหลอดเลือดผิดปกติ
ผลการศึกษาจากปี 2012
พบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่อ้วนลงพุงกับภาวะการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตันและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
โดยนักวิจัยได้เปรียบเทียบระหว่างคนอ้วน คนอ้วนที่มีพุง
และคนที่มีสุขภาพดี พบว่าหากอัตราส่วนของเอวต่อความสูงเพิ่มขึ้นทุกๆ 0.1
ก็จะเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าวมากขึ้น ฉะนั้น
ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว
และการที่เส้นเลือดแดงแข็งตัวและตีบนั้นก็จะก่อให้เกิดโรคหัวใจตามมาได้
เสี่ยงต่อเบาหวาน
ไขมันในช่องท้องเป็นไขมันที่พบในคนที่มีภาวะอ้วนลงพุง
ไขมันนี้มีการผลิตฮอร์โมนซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย
และนอกจากนี้ฮอร์โมนดังกล่าวยังทำให้ตัวรับสัญญาณอินซูลินทำงานผิดปกติ
ซึ่งหมายความว่าอินซูลินซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายจะทำงานด้อยลง
ซึ่งทำให้เกิดโรคเบาหวานตามมานั่นเอง
ระดับคอเลสเตอรอลสูง
ไขมันที่อยู่บริเวณขาหรือก้นนั้นเป็นไขมันที่มีการเผาผลาญที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าไขมันบริเวณหน้าท้องของคนอ้วนลงพุง
ซึ่งการเผาผลาญไขมันที่อยู่บริเวณขาและก้นนั้นดีกว่าเนื่องจากได้ระดับน้ำตาล
ไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล
และอินซูลินต่ำกว่าไขมันที่เผาผลาญจากบริเวณช่องท้อง
นอกจากนั้นไขมันในช่องท้องสามารถเปลี่ยนเป็นกรดไขมันอิสระ
ซึ่งส่งผลให้ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอล LDL (ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ)
นอกจากนั้นกรดไขมันอิสระยังทำให้ระดับของไขมันดีหรือคอเลสเตอรอล HDL ลดลง
ซึ่งไขมันเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด
แต่ยังทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจวายตามมาได้
ยิ่งอ้วนยิ่งเสี่ยงโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์
ผลการศึกษาในปี 2010 พบว่ายิ่งรอบเอวคุณหนามากเท่าไหร่
รวมทั้งยิ่งอ้วนลงพุงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นเท่านั้น
โดยจากการศึกษาพบว่าผู้อ้วนลงพุงทำให้เซลล์สมองน้อยกว่าคนปกติ
ซึ่งก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ตามมาได้
โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าไขมันจะไปอุดตันในเส้นเลือดทำให้เลือดไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงเซลล์สมองไม่สะดวก
สมองจึงขาดออกซิเจน และทำให้เซลล์ตายนั่นเอง
วิธีรับมือกับอ้วนลงพุง
การรับประทานอาหารนั้นส่งผลโดยตรงต่อระดับไขมันในร่างกาย
นอกจากนั้นพันธุกรรมก็ส่งผลต่อความอ้วนด้วยเช่นกัน
ซึ่งหากคุณเป็นคนอ้วนลงพุง
อยากลดน้ำหนักเพื่อให้มีสุขภาพดีและลดอาการเสี่ยงของโรคต่างๆ นั้น
ผู้เชี่ยวชาญแนะว่าต้องออกกำลังกายเพื่อกำจัดไขมันในช่องท้องเหล่านี้
และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไขมันต่ำก็ช่วยได้
ลองหาเวลาออกกำลังกายให้ได้สักวันละ ½ หรือ 1 ชั่วโมง เป็นประจำ
เพียงเท่านี้ไขมันรอบเอวเหล่านั้นก็จะลดลงได้
จะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองจัดอยู่ในภาวะ ‘อ้วน’ หรือไม่
หากคุณเป็นคนผอมหรือน้ำหนักตัวปกติก็อย่าได้ชะล่าใจว่าคุณจะไม่ไขมันน้อยตามไปด้วย
ฉะนั้นหากอยากรู้ว่าตนเองอ้วนหรือไม่ ลองหาค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass
Index : BMI) เพื่อประเมินภาวะอ้วนหรือผอม โดยมีสูตรคือ BMI = น้ำหนักตัว
(กิโลกรัม) / ความสูง (เมตร)2 จากนั้น นำค่าที่ได้มาเทียบกับเกณฑ์