Home »
ทั่วไป
»
ของดีจากแม่..เก็บไว้อ่าน ถ้ายังรักตัวเอง
ของดีจากแม่..เก็บไว้อ่าน ถ้ายังรักตัวเอง
ในวันนี้ดิฉันได้รวบรวมข้อมูลดีๆมาให้ทุกคนได้เก็บไว้อ่านกันค่ะ
ใครที่รักตัวเอง อยากมีสุขภาพดีๆ แนะนำให้เก็บไว้เลยนะคะ
เพราะว่าแม่ฉันได้อ่านทุกวัน จำไม่ได้ก็เปิดมาอ่าน แล้วทำตามบ่อยๆ
จนแม่ฉันสุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องไปพึ่งยาหมอเลยค่ะ ลองทำดูนะ
มีประโยชน์ทั้งนั้นเลย
แกนสับปะรด = มีสารบอบิเรน ลดมะเร็งปากมดลูก โดยให้ดูดแต่น้ำ แล้วคายกากทิ้ง
ทุเรียน = มี Anti – Oxidant, กำมะถัน (งด ข้าว) ช่วยลดมะเร็ง, ลดคลอเรสเตอรอล, ลดอ้วน, ลดไขมัน, ต้านแก่
น้ำแตงโม = ไวอาk้า ธรรมชาติ บำรุงเลือด, ละลายลิ่มเลือด ช่วยมือเท้าชา
จิบน้ำร้อน บ่อยๆ = ช่วยปรับสมดุลย์ ความดันเลือด, ลดเส้นเลือดสมองตีบ, เบาหวาน, ต้อที่ตา, ไต
จิบน้ำร้อน = 1 ถ้วยกาแฟ หรือ 250 CC ก่อนอาหาร ลดความอ้วน
การดื่มน้ำเย็นครั้งละมาก ๆ = จะมีผลให้น้ำซึมเข้าสู่สมอง ซึ่งเป็นเหตุของการเกิดภาวะสมองบวมน้ำ
เบาหวาน = กิน น้ำตาลธรรมชาติได้ น้ำตาลฟรุตโตส, น้ำตาลปี๊ป
(น้ำตาลปึก), โอวทึ้ง, น้ำผึ้ง หยุด น้ำตาลกรวด, น้ำตาลทรายแดง,
น้ำตาลทราย, ซูโครส
น้ำตาลทราย/น้ำตาลกรวด = จะสะสมที่ตับเป็นไขมัน ก่อให้เกิดไตรกลีเซอร์ไรด์ สำหรับน้ำตาลที่ฟอกขาวจะใช้สารคลอลีน ซึ่งมีสารก่อมะเร็ง
กล้วยไข่ = ช่วยหยุดผมร่วง, ป้องกันอัลไซเมอร์, บำรุงสมอง, บำรุงตับ ไต,
ป้องกันมะเร็ง, บำรุงกระดูก, บำรุงสายตา, รักษา Office Syndrome
กล้วยน้ำว้า = วันละ 2 ลูก เหมือนๆ กล้วยหักมุก ปิ้งไฟทั้งเปลือก ลดไข้, ลดเจ็บคอ, บำรุงตับอ่อน, รักษาเบาหวาน, แก้ทอนซิลอักเสบ
กล้วยหอม = (กล้วยเล็บมือนาง) 3 ผล / สัปดาห์ เป็น ฮอร์โมนหญิง
มีโปแทสเซียม ป้องกันโรคพากินสัน และ อัลไซเมอร์, บำรุงสมอง,
ป้องกันสมาธิสั้น
น้ำมะพร้าวอ่อน = ปรับสมดุลย์ ฮอร์โมน ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนวันละ 1 ลูก ช่วยฟอกเลือด และบำรุงไต ส่วนเนื้อมะพร้าวช่วยบำรุงตับ
กะทิ = ลดคอเลสเตอรอล(Cholesterol), ไม่อ้วน, ไม่เบาหวาน
น้ำมันมะพร้าว = ช่วยลดความอ้วน โดยกินก่อนอาหารเช้า 4 ช้อนกาแฟ ใช้เป็น
Hair Serum ลงหนังหัว, ลดหงอก, เพิ่มผม ใช้ล้างเครื่องสำอาง
ใช้เป็นเดย์ครีม ไนท์ครีมได้ มี SPF 90 (Sun block)
น้ำมันมะพร้าว = นำกะทิใส่ถุงแช่ตู้เย็น 3 ช.ม.
เพื่อให้เนื้อกับน้ำแยกตัวกัน นำเนื้อมะพร้าวส่วนบนไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมัน
เก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน
Oil Pulling คือการนำน้ำมันพืชชนิดสกัดเย็น มาบำบัดโรค = ใช้น้ำมันงา
น้ำมันมะพร้าว น้ำมันทานตะวัน ที่ผ่านกรรมวิธีแบบหีบเย็น ปริมาณ 2 ช้อน
อมไว้ประมาณ 15 นาที แล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยนำเชื้อโรคออกจากช่องปาก
หยุดใช้น้ำมันพืช = เนื่องจากมีส่วนผสมของสารเคมี
เมื่อน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิ 60 องศา จะเปลี่ยนสภาพเป็นไขมันทรานส์
ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น ควรบริโภคมะพร้าว น้ำมันหมู น้ำมันไก่
ตับจะทำหน้าที่ผลิต Cholesterol โดยที่ Cholesterol LDL
จะช่วยป้องกันผิวหนัง และผลิต Cholesterol HDL เพื่อดักจับ LDL ไปทิ้ง
การทำน้ำมันหมู = นำน้ำมันหมูเปลว 1 ก.ก. กับเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
เจียวบนกระทะ จะทำให้ไม่ติดกระทะ ไม่กระเด็น ได้น้ำมันเกือบ 2 ลิตร
กากหมูจะกรอบมาก เนื่องจากเกลือจะเป็นตัวช่วยดึงน้ำมันออกมาจนหมด
การสระผม = ควรสระผมด้วยสบู่เด็ก ควรสระผมช่วงเช้า ไม่ควรสระผมตอนเย็น
เพราะผมจะไม่สามารถแห้งได้ทัน เวลานอนจะเกิดเชื้อรากลางคืน
เป็นเหตุของอาการคันศีรษะ และ ลงน้ำมันมะพร้าวที่หนังหัว
เกลือ = การบริโภคเกลือ (เกลือทะเล เกลือเม็ด) ไม่ได้ทำให้ไตวาย
แต่เนื่องจากในอุตสาหกรรมการผลิตเกลือที่ขาวละเอียดมีการเติมโพลิเมอร์
โดยหยดลงบนเกลือ
ทำให้โครงสร้างจากเดิมโซเดียมคลอไรด์เปลี่ยนเป็นโซเดียมซัลเฟต
ซึ่งมีผลต่อไต เพราะไม่สามารถขับออกได้
ซึ่งเกลือชนิดนี้จะโรยบนอาหารแล้วยังคงทำให้อาหารกรอบ
แต่ถ้าเป็นเกลือที่เป็นโซเดียมคลอไรด์นั้น
จะมีคุณสมบัติดูดความชื้นทำให้อาหารไม่คงความกรอบ
ไมโครเวฟ = การใช้ไมโครเวฟ ระวังมะเร็ง เนื่องจากมีการกระจายคลื่นเข้าสู่เซลมีผลทำให้ตายได้
ตะไคร้แกง = นำมาหั่นแล้วต้มเป็นน้ำตะไคร้ ดื่มเพื่อช่วยลดเบาหวาน
กาแฟ มีคาเฟอีน มีไว้ดม ไม่ควรกิน เพราะจะมีผลยับยั้งไม่ให้แคลเซียมไปเกาะกระดูก จึงมีโอกาสเป็นโรค กระดูกผุ กระตุ้นเซลมะเร็ง
ไข่ = ไข่ต้ม ไข่เค็ม ไข่พะโล้ โดยเฉพาะไข่แดง หากกินวันละ 2 ฟอง
จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด (ลดเบาหวาน) เนื่องจากไข่แดงมีซิลิเนียม
งานวิจัยของฮาวาร์ด พบว่าหากบริโภคไข่วันละ 3 ฟอง (อายุต่ำกว่า 45 ปี) ;
บริโภควันละ 2 ฟอง (อายุ 45 ปี – 50 ปี) และบริโภควันละ 1 ฟอง (อายุเกิน 50
ปี) ไข่ต้ม 1 ฟอง มีสรรพคุณสูงกว่านม 5 กล่อง
ขอขอบคุณ : อาจารย์ ไกร มาศพิมล (นักโภชนาการบำบัด)