หากนึกถึงสิ่งของหรืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เรามักจะขาดไม่ได้เลย สิ่งๆ
นั้นก็อาจจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจาก Smartphone iPhone iPad หรือ Tablet
จากแบรนด์ต่างๆ ที่มีให้เลือกสรรมากมาย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมอบความบันเทิงได้ในทุกที่ทุกเวลา แม้แต่กระทั่งในช่วงเวลาก่อนเข้านอน ยอมรับกันมาซะดีๆ ว่าสิ่งสุดท้ายที่คุณมักจะทำก่อนเข้านอนก็คือการเล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง ตั้งแต่เล่นเฟสบุ๊ค เล่นเกม แชทคุยกับกลุ่มเพื่อน อ่านข่าวสาร เลื่อนดูรูปสวยๆ ในอินสตาแกรมไปจนถึงการเช็คสภาพอากาศในวันรุ่งขึ้นเลยใช่มั้ยล่ะคะ
คุณอาจจะไม่ได้ตระหนักถึงผลเสียที่ตามมาของการใช้โทรศัพท์ตอนกลางคืน ซึ่งนักวิจัยก็ได้จัดการปัญหาเหล่านี้มาให้แล้วล่ะค่ะ ซึ่งเหล่านักวิจัยก็ได้วิเคราะห์มาแล้วว่าผลกระทบของการใช้สมาร์ทโฟนต่อสุขภาพของมนุษย์เรานั้นต้องไม่ดีอย่างแน่นอนค่ะ เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินเรื่องของคลื่นรังสีจากโทรศัพท์ที่ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เจ้าแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตจะเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพร่างกายซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายเกี่ยวกับแสงสีฟ้าเอาไว้ว่า
“แสงสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่งของ Full light spectrum ที่สามารถสัมผัสมันได้ด้วยดวงอาทิตย์ แม้แต่กระทั่งในเวลากลางคืน คุณก็สามารถได้รับแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาในปริมาณมากจากสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งระบบสายตาและการมองเห็นจะเป็นอวัยวะส่วนแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเมลาโตนินที่ช่วยในการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่ม”
นอกจากผลกระทบดังกล่าวแล้วผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวเพิ่มเติมถึงภัยร้ายที่แฝงมากับสมาร์ทโฟนอีกด้วยค่ะ จะเป็นอะไรบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
1. เพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
แสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟนเปรียบเหมือนสิ่งรบกวนการนอนหลับของคุณที่จะนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งได้ในขั้นต่อไปหากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลานาน โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
เมลาโตนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระและยังเป็นอาวุธอันทรงพลังในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าแสงสีฟ้าจะไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ หากเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็คงไม่น่าหนักใจเท่าไหร่หนัก แต่ถ้าคุณเล่นมือถือก่อนนอนติดต่อกันทุกวัน ลองคิดดูสิคะว่าอะไรจะเกิดขึ้น
2. พักผ่อนไม่เพียงพอ
เมลาโตนินเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในร่างกายของมนุษย์เรา เนื่องจากมีหน้าที่ช่วยรักษาจังหวะเวลาชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติหรือการควบคุมนาฬิกาชีวิตในร่างกายของเรา (วงจรการนอนหลับและการตื่น) หากคุณเข้านอนผิดเวลาหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ วงจรการนอนหลับและการตื่นจะได้รับผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา เช่น
– น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
– ภาวะซึมเศร้า
– โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด
– ระบบความจำถูกทำลาย
– ผิวพรรณดูแก่กว่าวัย
– การตอบสนองช้าผิดปกติ
3. ระบบสายตาได้รับการกระทบกระเทือน
ระบบสายตา หรือดวงตาของมนุษย์เราเป็นอวัยวะส่วนที่ค่อนข้างเปราะบาง เมื่อคุณจ้องหน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือแท็ปเล็ตมากๆ แสงสีฟ้านั้นก็จะทำลายจอประสาทตา (Retina) และก่อให้เกิดอาการจอประสาทตาเสื่อม (Macular degeneration) ทำให้สายตาพร่ามัวและสูญเสียความสามารถในการโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนมากในกลุ่มอายุ 30 ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าสายตาของกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับสายตาของกลุ่มวัยชราที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเล่นสมาร์ทโฟนก่อนเข้านอนเป็นประจำทุกวันนั่นเอง
ดวงตา เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้อวัยวะส่วนอื่นๆ เลยใช่มั้ยคะเพื่อนๆ เมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็ควรที่จะบำรุงและรักษาให้ดวงตาอยู่คู่กับเราไปนานๆ โดยเริ่มจากการหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนสายตาเวลานอน หมั่นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ดีกว่าการต้องรักษาสายตาในระยะยาวอย่างแน่นอนค่ะ
Sources: www.greenclinic.in.th www.healthyfoodhouse.com
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมอบความบันเทิงได้ในทุกที่ทุกเวลา แม้แต่กระทั่งในช่วงเวลาก่อนเข้านอน ยอมรับกันมาซะดีๆ ว่าสิ่งสุดท้ายที่คุณมักจะทำก่อนเข้านอนก็คือการเล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง ตั้งแต่เล่นเฟสบุ๊ค เล่นเกม แชทคุยกับกลุ่มเพื่อน อ่านข่าวสาร เลื่อนดูรูปสวยๆ ในอินสตาแกรมไปจนถึงการเช็คสภาพอากาศในวันรุ่งขึ้นเลยใช่มั้ยล่ะคะ
คุณอาจจะไม่ได้ตระหนักถึงผลเสียที่ตามมาของการใช้โทรศัพท์ตอนกลางคืน ซึ่งนักวิจัยก็ได้จัดการปัญหาเหล่านี้มาให้แล้วล่ะค่ะ ซึ่งเหล่านักวิจัยก็ได้วิเคราะห์มาแล้วว่าผลกระทบของการใช้สมาร์ทโฟนต่อสุขภาพของมนุษย์เรานั้นต้องไม่ดีอย่างแน่นอนค่ะ เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินเรื่องของคลื่นรังสีจากโทรศัพท์ที่ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เจ้าแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตจะเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพร่างกายซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายเกี่ยวกับแสงสีฟ้าเอาไว้ว่า
“แสงสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่งของ Full light spectrum ที่สามารถสัมผัสมันได้ด้วยดวงอาทิตย์ แม้แต่กระทั่งในเวลากลางคืน คุณก็สามารถได้รับแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาในปริมาณมากจากสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งระบบสายตาและการมองเห็นจะเป็นอวัยวะส่วนแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเมลาโตนินที่ช่วยในการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่ม”
นอกจากผลกระทบดังกล่าวแล้วผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวเพิ่มเติมถึงภัยร้ายที่แฝงมากับสมาร์ทโฟนอีกด้วยค่ะ จะเป็นอะไรบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
1. เพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
แสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟนเปรียบเหมือนสิ่งรบกวนการนอนหลับของคุณที่จะนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งได้ในขั้นต่อไปหากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลานาน โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
เมลาโตนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระและยังเป็นอาวุธอันทรงพลังในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าแสงสีฟ้าจะไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ หากเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็คงไม่น่าหนักใจเท่าไหร่หนัก แต่ถ้าคุณเล่นมือถือก่อนนอนติดต่อกันทุกวัน ลองคิดดูสิคะว่าอะไรจะเกิดขึ้น
2. พักผ่อนไม่เพียงพอ
เมลาโตนินเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในร่างกายของมนุษย์เรา เนื่องจากมีหน้าที่ช่วยรักษาจังหวะเวลาชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติหรือการควบคุมนาฬิกาชีวิตในร่างกายของเรา (วงจรการนอนหลับและการตื่น) หากคุณเข้านอนผิดเวลาหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ วงจรการนอนหลับและการตื่นจะได้รับผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา เช่น
– น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
– ภาวะซึมเศร้า
– โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด
– ระบบความจำถูกทำลาย
– ผิวพรรณดูแก่กว่าวัย
– การตอบสนองช้าผิดปกติ
3. ระบบสายตาได้รับการกระทบกระเทือน
ระบบสายตา หรือดวงตาของมนุษย์เราเป็นอวัยวะส่วนที่ค่อนข้างเปราะบาง เมื่อคุณจ้องหน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือแท็ปเล็ตมากๆ แสงสีฟ้านั้นก็จะทำลายจอประสาทตา (Retina) และก่อให้เกิดอาการจอประสาทตาเสื่อม (Macular degeneration) ทำให้สายตาพร่ามัวและสูญเสียความสามารถในการโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนมากในกลุ่มอายุ 30 ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าสายตาของกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับสายตาของกลุ่มวัยชราที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเล่นสมาร์ทโฟนก่อนเข้านอนเป็นประจำทุกวันนั่นเอง
ดวงตา เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้อวัยวะส่วนอื่นๆ เลยใช่มั้ยคะเพื่อนๆ เมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็ควรที่จะบำรุงและรักษาให้ดวงตาอยู่คู่กับเราไปนานๆ โดยเริ่มจากการหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนสายตาเวลานอน หมั่นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ดีกว่าการต้องรักษาสายตาในระยะยาวอย่างแน่นอนค่ะ
Sources: www.greenclinic.in.th www.healthyfoodhouse.com