บทความนี้ขอเอาใจเพื่อนๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงควบคุมอาหาร หรือกำลังลดน้ำหนักกันอยู่ซักหน่อย เพราะเราเข้าใจดีกว่าการจะลดน้ำหนักให้ประสบผลสำเร็จนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่าง
ซึ่งในวันนี้ Thaiza ก็ได้นำเคล็ด (ไม่) ลับที่จะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ
ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้นรับรองว่าไม่ยากและสามารถปฏิบัติตามกันได้อย่างแน่นอนค่ะ!
1. จัดวางเวลาสำหรับมื้ออาหาร
การกินจุกจิกตลอดวันไม่ใช่ไอเดียที่ดีหากคุณอยากมีรูปร่างที่สวยงาม และนอกจากการไม่กินจุกจิกตลอดวันแล้ว คุณยังควรจัดเวลาที่แน่นอนสำหรับมื้ออาหารแต่ละมื้อ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้เต็มที่ และยังเป็นการสร้างสุขนิสัยการกินที่ดีอีกด้วยนะคะ
โดยปกติทั่วไปแล้ว มนุษย์ควรทานอาหารแต่ละมื้อในช่วงเวลาเดิมของทุกๆ วัน เพื่อเตรียมให้กระเพาะอาหารและจิตใจสร้างความคุ้นชินและความสามารถในการเผาผลาญ มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ฉะนั้นคุณจึงเน้นรับประทานให้มากในตอนเช้าและลดปริมาณลงมาในมื้อกลางวัน และเย็น และถ้าหากเพื่อนๆ ออกกำลังกายอยู่เป็นปกติ ควรทานอาหารภายใน 45 นาทีหลังออกกำลังกายเสร็จ จะช่วยรักษากล้ามเนื้อและเติมพลังได้ดี ส่วนเวลาที่ไม่เหมาะสมสำหรับการกินก็คือช่วง 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน น้ำหนักจะขึ้นได้ง่ายๆ และยังรบกวนเวลานอนอีกต่างหาก
2. ใส่ใจในสัดส่วนของอาหาร
สัดส่วนอาหารแต่ละมื้อที่เรารับประทานมีความสำคัญไม่แพ้กันหากคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก The United States Department of Agriculture’s My Plate ก็ได้เปรียบเทียบสัดส่วนอาหารที่ผู้หญิงและผู้ชายควรได้รับในแต่ละวันตามตารางที่เราแปะไว้ด้านข้าง
3. ห้ามลดโปรตีน
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ขาดไม่ได้แม้คุณกำลังจะอยู่ในช่วงควบคุมอาหารหรือลดน้ำหนัก โดยปกติแล้ว ผู้หญิงควรได้รับสัดส่วนโปรตีนประมาณ 61 กรัมต่อวัน และสำหรับผู้ชายควรได้รับสัดส่วนโปรตีน 72 กรัมต่อวัน แต่ก็ใช่ว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ทุกชนิดจะเป็นประโยชน์ทั้งหมด เพื่อนๆ ควรเลือกทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำแต่ให้โปรตีนสูง เช่น อกไก่ ปลา ไข่ไก่ ถั่วชนิดต่างๆ เป็นต้น
4. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไม่ได้ดีเสมอไป
หลายๆ ครั้งที่เราเห็นโฆษณาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ถูกผลิตออกมาเอาใจและอำนวยความสะดวกให้กับคนรักสุขภาพ นอกจากการติดป้าย “เพื่อสุขภาพ” เพื่อชวนเชิญผู้บริโภคแล้ว เรายังควรสังเกตปริมาณแคลอรี่ที่มีอยู่ในเครื่องดื่มแต่ละชนิด เพราะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลายชนิดมักมาพร้อมกับปริมาณแคลอรี่มหาศาล ยกตัวอย่างเช่น น้ำส้มคั้นพร้อมดื่ม ที่มีแคลอรี่มากขึ้น 279 มิลลิกรัม หรือน้ำตาลประมาณ 20 ช้อน น้ำเปล่า เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนลดน้ำหนัก ด้วยแคลอรี่ 0 มิลลิกรัม ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว และเร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกาย หรือจะเลือกคั้นน้ำผลไม้ดื่มเองสดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงแคลอรี่ก็เป็นไอเดียที่ดีทีเดียว
5. ลดปริมาณของหวาน
กฎ 1 ข้อที่ผู้รักสุขภาพควรปฏิบัติให้เหมือนกันก็คือ การรับประทานอาหารแต่ละอย่างในปริมาณที่พอดี มีวิจัยเกี่ยวกับชาวอเมริกันออกมาว่าพวกเขาบริโภคน้ำตาลมากถึง 22 ช้อนต่อวัน แม้จะเป็นการทานไอศกรีมแคลอรี่ต่ำ หรือคุกกี้มังสวิรัติ เพราะน้ำตาลเป็นศัตรูตัวร้ายต่อระบบเผาผลาญ และระบบสมองของเรา ทำให้น้ำหนักตัวสูงขึ้น ความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วปริมาณน้ำตาล หรือของหวานเท่าไหร่ที่เราควรรับประทาน สำหรับผู้หญิง ควรควบคุมน้ำตาลไว้เพียง 100 กิโลแคลอรี่ หรือประมาณ 6 ช้อน และ 150 กิโลแคลอรี่ (9 ช้อน) สำหรับผู้ชาย แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่สามารถลดขนมหวาน หรือกำลังมองหาขนมหวานที่มีแคลอรี่ต่ำอยู่ล่ะก็ ผลไม้สดๆ คือขนมหวานที่ดีที่สุดสำหรับคุณค่ะ
Sources: www.healthline.com
1. จัดวางเวลาสำหรับมื้ออาหาร
การกินจุกจิกตลอดวันไม่ใช่ไอเดียที่ดีหากคุณอยากมีรูปร่างที่สวยงาม และนอกจากการไม่กินจุกจิกตลอดวันแล้ว คุณยังควรจัดเวลาที่แน่นอนสำหรับมื้ออาหารแต่ละมื้อ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้เต็มที่ และยังเป็นการสร้างสุขนิสัยการกินที่ดีอีกด้วยนะคะ
โดยปกติทั่วไปแล้ว มนุษย์ควรทานอาหารแต่ละมื้อในช่วงเวลาเดิมของทุกๆ วัน เพื่อเตรียมให้กระเพาะอาหารและจิตใจสร้างความคุ้นชินและความสามารถในการเผาผลาญ มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ฉะนั้นคุณจึงเน้นรับประทานให้มากในตอนเช้าและลดปริมาณลงมาในมื้อกลางวัน และเย็น และถ้าหากเพื่อนๆ ออกกำลังกายอยู่เป็นปกติ ควรทานอาหารภายใน 45 นาทีหลังออกกำลังกายเสร็จ จะช่วยรักษากล้ามเนื้อและเติมพลังได้ดี ส่วนเวลาที่ไม่เหมาะสมสำหรับการกินก็คือช่วง 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน น้ำหนักจะขึ้นได้ง่ายๆ และยังรบกวนเวลานอนอีกต่างหาก
2. ใส่ใจในสัดส่วนของอาหาร
สัดส่วนอาหารแต่ละมื้อที่เรารับประทานมีความสำคัญไม่แพ้กันหากคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก The United States Department of Agriculture’s My Plate ก็ได้เปรียบเทียบสัดส่วนอาหารที่ผู้หญิงและผู้ชายควรได้รับในแต่ละวันตามตารางที่เราแปะไว้ด้านข้าง
3. ห้ามลดโปรตีน
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ขาดไม่ได้แม้คุณกำลังจะอยู่ในช่วงควบคุมอาหารหรือลดน้ำหนัก โดยปกติแล้ว ผู้หญิงควรได้รับสัดส่วนโปรตีนประมาณ 61 กรัมต่อวัน และสำหรับผู้ชายควรได้รับสัดส่วนโปรตีน 72 กรัมต่อวัน แต่ก็ใช่ว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ทุกชนิดจะเป็นประโยชน์ทั้งหมด เพื่อนๆ ควรเลือกทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำแต่ให้โปรตีนสูง เช่น อกไก่ ปลา ไข่ไก่ ถั่วชนิดต่างๆ เป็นต้น
4. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไม่ได้ดีเสมอไป
หลายๆ ครั้งที่เราเห็นโฆษณาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ถูกผลิตออกมาเอาใจและอำนวยความสะดวกให้กับคนรักสุขภาพ นอกจากการติดป้าย “เพื่อสุขภาพ” เพื่อชวนเชิญผู้บริโภคแล้ว เรายังควรสังเกตปริมาณแคลอรี่ที่มีอยู่ในเครื่องดื่มแต่ละชนิด เพราะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลายชนิดมักมาพร้อมกับปริมาณแคลอรี่มหาศาล ยกตัวอย่างเช่น น้ำส้มคั้นพร้อมดื่ม ที่มีแคลอรี่มากขึ้น 279 มิลลิกรัม หรือน้ำตาลประมาณ 20 ช้อน น้ำเปล่า เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนลดน้ำหนัก ด้วยแคลอรี่ 0 มิลลิกรัม ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว และเร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกาย หรือจะเลือกคั้นน้ำผลไม้ดื่มเองสดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงแคลอรี่ก็เป็นไอเดียที่ดีทีเดียว
5. ลดปริมาณของหวาน
กฎ 1 ข้อที่ผู้รักสุขภาพควรปฏิบัติให้เหมือนกันก็คือ การรับประทานอาหารแต่ละอย่างในปริมาณที่พอดี มีวิจัยเกี่ยวกับชาวอเมริกันออกมาว่าพวกเขาบริโภคน้ำตาลมากถึง 22 ช้อนต่อวัน แม้จะเป็นการทานไอศกรีมแคลอรี่ต่ำ หรือคุกกี้มังสวิรัติ เพราะน้ำตาลเป็นศัตรูตัวร้ายต่อระบบเผาผลาญ และระบบสมองของเรา ทำให้น้ำหนักตัวสูงขึ้น ความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วปริมาณน้ำตาล หรือของหวานเท่าไหร่ที่เราควรรับประทาน สำหรับผู้หญิง ควรควบคุมน้ำตาลไว้เพียง 100 กิโลแคลอรี่ หรือประมาณ 6 ช้อน และ 150 กิโลแคลอรี่ (9 ช้อน) สำหรับผู้ชาย แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่สามารถลดขนมหวาน หรือกำลังมองหาขนมหวานที่มีแคลอรี่ต่ำอยู่ล่ะก็ ผลไม้สดๆ คือขนมหวานที่ดีที่สุดสำหรับคุณค่ะ
Sources: www.healthline.com