ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่า อากาศในบ้านเราร้อนขึ้นทุกปี
มิหนำซ้ำยังกินเวลาไปเกือบทั้งปีจนแทบจะไม่มีฤดูฝน
หรือฤดูหนาวกันเลยทีเดียว
อากาศร้อนอบอ้าวและแสงแดดที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปีนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์อย่างแน่นอน โรคยอดนิยมที่มักมาพร้อมกับภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือ โรคลมแดด หรือ heat stroke
นั่นเองค่ะ
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถรักษาสมดุลระหว่างอุณหภูมิความร้อนและความเย็นได้
ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ และเหนื่อยง่าย โรคลมแดดนี้มักจะเกิดขึ้นในทารก
เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยง
และจะเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อคุณอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือแดดร้อนมากเกินไป
สวมใส่เสื้อผ้าสีเข้มหรือหนัก มีโรคประจำตัวอย่าง โรคอ้วน โรคเบาหวาน
และโรคหัวใจและหลอดเลือด วันนี้
Thaiza ก็ได้นำเคล็ดลับง่ายๆ ในการป้องกันโรคลมแดดมาฝากเพื่อนๆ
กันเช่นเคยค่ะ บอกได้คำเดียวว่าเป็นโรคที่เราไม่ควรมองข้ามไปเลย
1. ดื่มน้ำมากๆ
วิธีที่ง่ายและสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคลมแดดก็คือการเติมความชุ่มชื้นหรือน้ำให้กับร่างกายอยู่เสมอ อากาศร้อนๆ และแสงแดดอันเจิดจ้ามักทำให้ร่างกายของเราเสียเหงื่อและน้ำได้ง่าย ฉะนั้นการจิบน้ำอยู่ตลอดเวลาจะช่วยเติมและทดแทนเหงื่อที่เสียไปได้ โดยเฉพาะในวันที่คุณต้องใช้เวลาอยู่กลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ เราขอแนะนำว่าไม่ควรดื่มน้ำทีละมากๆ แต่ควรใช้วิธีจิบเป็นระยะๆ เพราะการดื่มน้ำทีละรวดเดียวนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และจะขับถ่ายออกมาเป็นปัสสาวะเสียมากกว่า
2. อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำ
เพื่อนๆ อาจกำลังสงสัยว่า เอ๊ะ อาหารที่มีน้ำเป็นยังไง ใช่น้ำดื่มปกติหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ แล้วอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำหรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักก็คือพวกผักผลไม้นั่นเอง การรับประทานผักผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนมากจะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคลมแดดได้ดีเช่นเดียวกัน เช่น น้ำมะพร้าว แตงโม ส้ม มะเขือเทศ เกรปฟรุ๊ต สับปะรด กล้วย องุ่น กีวี่ แตงกวา แครอท อะโวคาโด้ หัวไชเท้า และบร็อคโคลี เป็นต้น เพื่อนๆ ชอบทานแบบไหนก็สามารถเลือกทานกันได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อย ได้คุณประโยชน์เพิ่มเติมอีกมากมาย
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก กาแฟ หรือแอลกอฮอล์
ทั้งกาแฟ แอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่มาก ล้วนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและอิเล็กโทรไลต์ หากร่างกายของคุณได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปก็จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและมีโอกาสที่โรมลมแดดจะรุนแรงยิ่งขึ้น เครื่องดื่มที่ดีที่สุดก็คือน้ำเปล่า หรือน้ำมะพร้าวนั่นเอง
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
ด้วยแสงแดดบ้านเราที่ร้อนระอุขึ้นทุกปี การโดนแสงแดดหรืออยู่ในที่กลางแจ้งเป็นเวลานั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ อุปกรณ์ที่จำเป็นและจะขาดไม่ได้เลยก็คือร่มที่สามารถป้องกันแสงยูวีได้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงก็ไม่ควรฝึกซ้อมในที่กลางแจ้งบ่อยเกินไป เลือกซ้อมในช่วงที่อุณหภูมิไม่สูงมากจะดีกว่าค่ะ
5. ตรวจสอบตัวยาบางชนิด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตัวยาบางชนิดมีปฏิกิริยาต่อความร้อนและเป็นอันตรายต่อสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย สำหรับยาที่สามารถเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคลมแดดก็มีทั้ง ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ และยาสำหรับรักษาโรคที่เกี่ยวกับความดันโลหิต ฉะนั้นเพื่อนๆ จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดสำหรับการรับประทานยาเหล่านี้ และโอกาสในการเกิดโรคลมแดด
6. อยู่ในห้องแอร์
สมัยนี้ แค่พัดลมอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่หากวันนั้นเป็นวันที่ร้อนจัด ฉะนั้นการอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ฉ่ำๆ ก็จะช่วยคลายความร้อนได้ดีทีเดียว แต่ถ้าใครอยากจะประหยัดไฟที่บ้านก็สามารถออกไปเดินห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ บ้านของคุณก็เป็นไอเดียที่ดีเช่นเดียวกัน
7. ระมัดระวังยิ่งขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณมีเด็กหรือคนชรา
ในวันที่แดดร้อนจัด และเพื่อนๆ มีเหตุจำเป็นต้องออกไปข้างนอก หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรตรวจสอบสมาชิกที่จะร่วมเดินทางไปด้วยอย่างรอบคอบและปลอดภัย เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เด็กเล็ก ทารก หรือแม้แต่กระทั้งกับสัตว์เลี้ยงก็ล้วนมีสิทธิ์เป็นโรคลมแดดได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป อย่าลืมพกน้ำดื่มติดตัวไว้ตลอดด้วยนะคะ
โรคลมแดดอาจไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงจนทำให้เสียชีวิตในทันที แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ย่อมดีกว่าเกิดขึ้นแล้วจึงค่อยรักษาอย่างแน่นอน
www.davidwolfe.com
1. ดื่มน้ำมากๆ
วิธีที่ง่ายและสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคลมแดดก็คือการเติมความชุ่มชื้นหรือน้ำให้กับร่างกายอยู่เสมอ อากาศร้อนๆ และแสงแดดอันเจิดจ้ามักทำให้ร่างกายของเราเสียเหงื่อและน้ำได้ง่าย ฉะนั้นการจิบน้ำอยู่ตลอดเวลาจะช่วยเติมและทดแทนเหงื่อที่เสียไปได้ โดยเฉพาะในวันที่คุณต้องใช้เวลาอยู่กลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ เราขอแนะนำว่าไม่ควรดื่มน้ำทีละมากๆ แต่ควรใช้วิธีจิบเป็นระยะๆ เพราะการดื่มน้ำทีละรวดเดียวนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และจะขับถ่ายออกมาเป็นปัสสาวะเสียมากกว่า
2. อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำ
เพื่อนๆ อาจกำลังสงสัยว่า เอ๊ะ อาหารที่มีน้ำเป็นยังไง ใช่น้ำดื่มปกติหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ แล้วอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำหรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักก็คือพวกผักผลไม้นั่นเอง การรับประทานผักผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนมากจะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคลมแดดได้ดีเช่นเดียวกัน เช่น น้ำมะพร้าว แตงโม ส้ม มะเขือเทศ เกรปฟรุ๊ต สับปะรด กล้วย องุ่น กีวี่ แตงกวา แครอท อะโวคาโด้ หัวไชเท้า และบร็อคโคลี เป็นต้น เพื่อนๆ ชอบทานแบบไหนก็สามารถเลือกทานกันได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อย ได้คุณประโยชน์เพิ่มเติมอีกมากมาย
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก กาแฟ หรือแอลกอฮอล์
ทั้งกาแฟ แอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่มาก ล้วนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและอิเล็กโทรไลต์ หากร่างกายของคุณได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปก็จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและมีโอกาสที่โรมลมแดดจะรุนแรงยิ่งขึ้น เครื่องดื่มที่ดีที่สุดก็คือน้ำเปล่า หรือน้ำมะพร้าวนั่นเอง
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
ด้วยแสงแดดบ้านเราที่ร้อนระอุขึ้นทุกปี การโดนแสงแดดหรืออยู่ในที่กลางแจ้งเป็นเวลานั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ อุปกรณ์ที่จำเป็นและจะขาดไม่ได้เลยก็คือร่มที่สามารถป้องกันแสงยูวีได้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงก็ไม่ควรฝึกซ้อมในที่กลางแจ้งบ่อยเกินไป เลือกซ้อมในช่วงที่อุณหภูมิไม่สูงมากจะดีกว่าค่ะ
5. ตรวจสอบตัวยาบางชนิด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตัวยาบางชนิดมีปฏิกิริยาต่อความร้อนและเป็นอันตรายต่อสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย สำหรับยาที่สามารถเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคลมแดดก็มีทั้ง ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ และยาสำหรับรักษาโรคที่เกี่ยวกับความดันโลหิต ฉะนั้นเพื่อนๆ จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดสำหรับการรับประทานยาเหล่านี้ และโอกาสในการเกิดโรคลมแดด
6. อยู่ในห้องแอร์
สมัยนี้ แค่พัดลมอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่หากวันนั้นเป็นวันที่ร้อนจัด ฉะนั้นการอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ฉ่ำๆ ก็จะช่วยคลายความร้อนได้ดีทีเดียว แต่ถ้าใครอยากจะประหยัดไฟที่บ้านก็สามารถออกไปเดินห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ บ้านของคุณก็เป็นไอเดียที่ดีเช่นเดียวกัน
7. ระมัดระวังยิ่งขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณมีเด็กหรือคนชรา
ในวันที่แดดร้อนจัด และเพื่อนๆ มีเหตุจำเป็นต้องออกไปข้างนอก หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรตรวจสอบสมาชิกที่จะร่วมเดินทางไปด้วยอย่างรอบคอบและปลอดภัย เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เด็กเล็ก ทารก หรือแม้แต่กระทั้งกับสัตว์เลี้ยงก็ล้วนมีสิทธิ์เป็นโรคลมแดดได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป อย่าลืมพกน้ำดื่มติดตัวไว้ตลอดด้วยนะคะ
โรคลมแดดอาจไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงจนทำให้เสียชีวิตในทันที แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ย่อมดีกว่าเกิดขึ้นแล้วจึงค่อยรักษาอย่างแน่นอน
www.davidwolfe.com