9 วิธีเดินลดพุง สลายไขมันหน้าท้อง หุ่นฟิตเฟิร์ม สร้างง่ายกว่าที่คิด !

 

   วิธีลดพุงง่าย ๆ แค่เดินออกกำลังกายก็มีหน้าท้องฟิต ๆ ได้ แค่ทำตามนี้ ก็ได้ประโยชน์สองต่อไปแบบเต็ม ๆ

    การเดิน ถือเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและได้ผลดีต่อสุขภาพอย่างมากมาย เช่นที่เราเคยได้ยินกันว่า เดินวันละ 10,000 ก้าว ช่วยทำให้มีสุขภาพดี แต่ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ เพราะการเดินออกกำลังกายยังช่วยทำให้หน้าท้องฟิต แอนด์ เฟิร์มได้ด้วยล่ะ แค่เพียงเพิ่มเติมเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เข้าไปในการเดิน ก็สามารถทำให้ไขมันย้วย ๆ ที่ท้องหายไป เหลือแต่กล้ามเนื้อหน้าท้องสวย ๆ ให้คุณได้ภาคภูมิใจ


1. เดินตัวตรง

          ท่าทางในการเดินส่งผลดีมากกว่าที่คิด ไม่เพียงแค่ช่วยให้มีบุคลิกภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องและหลังได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว ซึ่งท่าทางในการเดินออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ หน้าตรง เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรเกร็งคอ ไหล่ และหลัง ถ้าทำได้ตามนี้ การเดินออกกำลังกายของคุณจะได้ผลดีต่อกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบนแน่นอน

2. แกว่งแขนขณะเดิน


          เราอาจจะเคยได้ยินว่าการแกว่งแขนขณะเดินจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้นและทำให้เดินเร็วขึ้น แต่นอกจากนี้การแกว่งแขนก็ยังช่วยให้ร่างกายทั้งส่วนบนและล่าง รวมทั้งหน้าท้องได้ออกกำลังกาย แค่เพียงแกว่งแขนไปตามจังหวะการเดินเท่านั้น แต่ถ้าอยากให้ร่างกายเผาผลาญได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็สามารถเร่งจังหวะการแกว่งแขนได้ รับรองได้เลย ถ้าทำเป็นประจำไขมันที่หน้าท้องมลายหายไปชัวร์ !

 3. ทำท่าชกลม

          เราอาจจะเคยเห็นว่าบางคนเวลาที่เดินออกกำลังกายจะทำท่าชกลมไปด้วย ขอบอกว่านั่นไม่ใช่ท่าทางแสดงความฟิตเพียงอย่างเดียวนะ แต่ยังเป็นวิธีออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น ขณะที่ชกออกไปข้างหน้ายังช่วยให้กล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนได้ออกกำลังกาย รวมทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ดังนั้นคราวหน้าถ้าคุณเดินออกกำลังกาย ลองเดินไปชกลมไป โดยชกไปข้างหน้า 20 ครั้ง ชกขึ้นเหนือศีรษะ 20 ครั้ง ในทุก ๆ 2 นาทีของการเดิน อาจจะทำให้เหนื่อยขึ้นอีกหน่อย แต่รับรองผลที่ออกมาคุ้มค่าแน่นอน

 4. ก้าวในความยาวที่เหมาะสม

          ความยาวของแต่ละก้าวมีความสำคัญต่อการเดินเพื่อลดไขมันหน้าท้อง ระยะก้าวที่สม่ำเสมอจะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้โดยไม่เกิดการสะดุด อีกทั้งระยะก้าวเท้าที่เหมาะสมยังทำให้เราสามารถเดินได้นานขึ้น ดังนั้นถ้าคิดจะเดินออกกำลังกาย อย่ารีบเร่งด้วยการก้าวเท้ายาว ๆ ดีกว่านะคะ

เดินลดพุง เดินออกกำลังกาย ลดหน้าท้อง

5. ยกเข่าสูง

          การยกเข่าสูงขึ้นในขณะเดินก็ถือเป็นการออกกำลังกายหน้าท้องไปอีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ร่างกายอยู่ในท่าคล้ายกับท่าครันช์ ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นส่วนท้องโดยตรง หรือถ้าจะให้การเดินได้ผลยิ่งขึ้นก็ลองทำท่าครันช์ในขณะที่เดิน โดยใช้มือทั้งสองข้างประสานไว้ที่หลังศีรษะ แล้วยกเข่าขึ้นแตะกับศอกด้านตรงข้ามสลับกัน ทำซ้ำ 8 ครั้ง ก่อนจะหยุดเดิน จะช่วยให้ไขมันตรงหน้าท้องเผาผลาญได้เยอะเลยเชียวล่ะ

 6. แขม่วท้อง

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การแขม่วท้องช่วยลดพุงได้ และทำให้เราทิ้งน้ำหนักลงไปที่สะโพกน้อยลง อีกทั้งยังกระตุ้นการหายใจ ปรับบุคลิกภาพ ทำให้ข้อต่อบริเวณหลังและกระดูกเชิงกราน รวมทั้งหลังส่วนล่างรับน้ำหนักน้อยลง และแน่นอนว่าก็สามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องไปได้ในตัว แต่ทั้งนี้ควรตั้งตัวตรงในขณะที่เดิน ห้ามหลังงอโดยเด็ดขาด ไม่งั้นอาจจะทำให้บุคลิกภาพเสียได้

 7. ยืดขาตรง

          การเดินโดยยืดขาตรงอาจจะทำให้ท่าทางการเดินดูตลก แต่ผลที่ได้คุ้มค่ามากเลยนะจะบอกให้ ซึ่งการยืดขาตรงขณะที่เดินจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างได้ออกกำลังกายไปด้วย เนื่องจากการเดินแบบยืดขาตรงจะต้องทิ้งน้ำหนักไปที่หน้าท้องส่วนล่างมากกว่าการเดินแบบปกติ แต่ไม่จำเป็นต้องเดินแบบนั้นตลอดการออกกำลังกายก็ได้นะคะ ทำแค่เพียง 8-10 ครั้งในขณะที่เดินก็ช่วยได้มากแล้ว

 8. เดินในทางลาดชัน

          ทางที่ลาดขึ้น หรือบันได จะทำให้เราต้องออกแรงในการเดินมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานจำนวนมากเพื่อใช้ในการเดิน ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณกล้ามเนื้อลดลง แถมหลังออกกำลังร่างกายก็ยังเผาผลาญพลังงานเท่ากับตอนที่ออกกำลังกาย เห็นข้อดีแบบนี้แล้วถ้าไม่ลองล่ะเสียดายแย่ แค่เพียงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็จะทำให้หน้าท้องของคุณฟิต แอนด์ เฟิร์มได้

เดินลดพุง เดินออกกำลังกาย ลดหน้าท้อง

9. เดินบ่อย ๆ

          ความถี่ในการเดินออกกำลังกาย สามารถช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ เพราะยิ่งเดินบ่อย ๆ ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรีได้มาก โดย The American College of Sports Medicine ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง เพราะความสม่ำเสมอจะทำให้การออกกำลังกายได้ผลมากกว่าความหนักหน่วงในการออกกำลังกายค่ะ

          เห็นไหมล่ะคะว่าแค่มีเทคนิคเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ก็สามารถช่วยฟิต แอนด์ เฟิร์มร่างกายได้แล้ว ถ้าอยากจะมีหุ่นดี ๆ แต่ไม่มีเวลาออกกำลังกายมากนัก ก็ลองเปลี่ยนจากการออกกำลังกายเฉพาะส่วนมาเป็นการเดินออกกำลังกายก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้มีสุขภาพที่ดี แถมพุงยื่น ๆ ที่มีจะได้ยุบลงสมใจค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก
prevention.com  
howcast.com  
livehealthy.chron.com