Home »
เรื่องน่ารู้
»
สำคัญมาก เอาไว้ใช้ 8 สิ่งที่ควรทำ หากถูกเจ้าหน้าที่ ขอค้นรถ ค้นตัว
สำคัญมาก เอาไว้ใช้ 8 สิ่งที่ควรทำ หากถูกเจ้าหน้าที่ ขอค้นรถ ค้นตัว
ในทุกๆวันนี้เราไม่สามารถที่จะไว้ใจใครได้เลยนะคะ
ขนาดคนที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา บางคนยังรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจเลยค่ะ
ดังนั้นแล้วเราทุกคนควรที่จะระมัดระวังตนเอง
เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมิจฉาชีพมาพยายามเอารัดเอาเปรียบเราได้ค่ะ
ปล ถ้าจำไม่ได้ ให้เซฟไว้เลยนะคะ
บ่อยครั้งในช่วงนี้มีข่าวออกมาเกี่ยวกับการเอาเปรียบ
การโดนหลอกและแอบอ้างว่าเป็นตำรวจผู้ใหญ่
เป็นถึงผู้พิทักษ์ประชาชนทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยสำหรับบางคน
และยังมีบ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคน อันนี้ต้องพูดด้วยความจริงนะคะ
เข้ามาพยายามช่วยหาผลประโยชน์จากประชาชน
วันนี้เราขอแนะนำ
ทางเลือกสำหรับวิธีการป้องกันตัวเมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบ
จากคนที่พยายามแอบอ้างตนว่าเป็นตำรวจ
และมีการตั้งด่านที่ผิดกฎหมายเพื่อเป็นการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและส่วนรวมกับเพื่อนตำรวจร่วมกัน
โดยทางด้านอดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ได้เคยออกมากล่าวไว้ว่า
การขอบันทึกวีดีโอหรือภาพถ่าย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นหา
หากเราไม่ได้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เราสามารถที่จะทำได้ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ดังนั้นแล้วเราลองมาดูวิธีที่จะต้องทำ เมื่อเราถูกเจ้าหน้าที่ของคนรถค้นตัว ว่าเราควรปฏิบัติตัวกันอย่างไรบ้าง
1 ก่อนโดนค้นรถค้นตัว ควรขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อนบันทึกวีดีโอ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจค้นภายในรถและเรา
เราควรที่จะขออนุญาตกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนถ่ายวีดีโอ
เพื่อไว้ใช้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ทั้งต่อตัวเราและต่อเจ้าหน้าที่ด้วย และสิ่งที่สำคัญก็คือ การพูดจา
โดยใช้ถ้อยคำสุภาพและควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน
เพื่อเป็นการลดปัญหาในเรื่องของการทะเลาะ และเกิดความไม่เข้าใจกัน
2 หากเราบริสุทธิ์ใจจริง ต้องให้ตรวจค้น
ถ้าหากเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
หรือว่าไม่มีการซ่อนอะไรเอาไว้ที่ผิดกฎหมาย
สิ่งที่จะต้องทำคือให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น
3 เจ้าหน้าที่ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจเช่นกัน
หากทางด้านเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะตรวจค้น
ก็ขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น 1 คน และจะต้องแสดงตนว่าชื่ออะไร ยศอะไร
และจะต้องเปิดหน้าให้ชัดเจน ไม่มีหน้ากากใส่เอาไว้
รวมถึงการแสดงบัตรประจำตัว
และดึงแขนเสื้อขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรซุกซ่อนอยู่ที่แขนเสื้อ
และควรดูที่กระเป๋าด้วยว่ามีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่
และถ้าหากเมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เราก็ให้เจ้าหน้าที่คนรถเราได้เลย แต่ถ้าหากอยู่ในสถานที่เปลี่ยวไม่มีคน
เราก็ควรขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจตอบและคนที่โรงพัก
เพื่อที่จะได้มีคนเยอะและมีพยาน เป็นการป้องกันตัวเราเองด้วย
4 อย่ากังวลถ้าหากเราไม่ได้ทำอะไรผิด
ถ้าหากเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำอยู่ไม่ได้ผิดต่อกฎหมาย
ก็อย่าโวยวายและอย่ากลัว ไม่ต้องแสดงอาการตกใจแต่อย่างใด ให้นิ่งไว้
และที่สำคัญอย่าพยายามเซ็นเอกสารใดๆ
ถ้าจำเป็นจะต้องเซ็นไม่ว่าจะเป็นเอกสารใดก็ตามคุณจะต้องอ่านทำความเข้าใจให้ละเอียดรอบคอบทุกตัวอักษร
เพราะถ้าหากมีอะไรผิดพลาดหรือไม่เป็นความจริงอาจจะเดือดร้อนได้
5 ถ้าตำรวจออกคำสั่ง ให้ชี้อะไร ห้ามทำตาม
เราไม่ควรหยิบจับหรือว่าแตะต้องอะไรเลยที่ไม่ใช่ของเรา
เพราะจะทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้
และห้ามไปชี้ในบริเวณที่มีจุดเกิดเหตุหรือของกลางที่ไม่ใช่ของเรา
เพราะนั่นแสดงออกถึงการยอมรับผิด และรับว่าเป็นของกลางของเรา
เรื่องนี้ควรระมัดระวัง
6 เมื่อเกิดปัญหาให้ใช้เสียงดังเข้าช่วย
ในบางครั้งอาจจะแฝงมาในรูปแบบของมิจฉาชีพ
แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
อย่าอายที่จะพูดและขอร้องว่าช่วยด้วย
เพราะถ้าหากเกิดเหตุอะไรน่าสงสัยเป็นภัย อาจจะไม่ทันการ
7 ระหว่างการควบคุมตัว
หาเจ้าหน้าที่ทำการควบคุมตัว
ให้เราติดต่อหาญาติที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้มากที่สุด
ให้เขามาคอยนั่งเฝ้าจนกว่าจะนำตัวไปส่งถึงศาล
เราจะต้องออกเจ้าหน้าที่ให้ผู้ที่ไว้ใจมาฟังด้วย รวมถึงทนาย
ก็ต้องให้เข้ารับการตรวจสอบจนจบ
8 ถ้าเราไม่ผิด ให้ร้องเรียน
หากสิ่งใดที่เราไม่ได้ทำผิด อย่าพยายามยอมรับเด็ดขาด
เพราะนั่นจะเป็นการทำให้คนที่เอาเปรียบเรากลายเป็นคนถูกไปโดยปริยาย
ให้เรารีบทำการร้องเรียนเพื่อที่จะได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสาธารณชน
รวมถึงการบอกให้สื่อโซเชียลได้รับรู้
ในปัจจุบันได้รับการตอบรับที่รวดเร็วกว่า
ทั้ง 8 ข้อนี้ เป็นประโยชน์สำหรับใครหลายคนอย่างแน่นอน
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมที่จะนำความรู้นี้เก็บไว้ใช้
แล้วบอกให้เพื่อนบ้านคนรอบข้าง คนในครอบครัวได้รับรู้
เมื่อถึงคราวจำเป็นจะต้องใช้จะได้มีความรู้เอาไว้ติดตัว
เขียน / เรียบเรียงใหม่โดย : Postsod