Home »
Uncategories »
ใครเป็นตะคริวบ่อยๆต้องอ่าน! สูตรแก้ตะคริวที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ
ใครเป็นตะคริวบ่อยๆต้องอ่าน! สูตรแก้ตะคริวที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ
ตะคริว (Muscle cramps) หมายถึง
อาการเกร็งตัวหรือหดเกร็งที่ทำให้มีอาการปวดและเป็นก้อนแข็งของกล้ามเนื้อ
ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยที่เราไม่สามารถบังคับได้
ร่วมกับมีอาการปวดหรือเจ็บกล้ามเนื้อมัดที่เกิดการหดเกร็ง
แต่จะเป็นอยู่เพียงชั่วขณะแล้วอาการจะทุเลาลงไปเอง
ตะคริวอาจเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนใดของร่างกายก็ได้
อาจเกิดกับกล้ามเนื้อเพียงมัดเดียวหรือหลายๆ มัดพร้อมกันก็ได้
โดยมักเกิดขึ้นในขณะออกกำลังกาย ขณะเดิน
หรือในขณะนั่งพักหรือนอนพักเป็นเวลานานๆ
เหตุผล – ตะคริวไม่ถือเป็นอาการที่ร้ายแรงทางการแพทย์
เพราะมันสามารถเกิดจากปัญหาสุขภาพได้หลายสาเหตุ ภาวะขาดน้ำคือหนึ่งในนั้น
ในเวลาอื่นๆ
ตะคริวสามารถเกิดขึ้นได้เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือเกิดจากโรคเท้าแบน
ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น พวกเขาจะถูกบ่งชี้ว่าเป็นโรคไต
ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องมาจากผลของการฝึกหนัก กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บ และขาดการออกกำลังกายเป็นระยะเวลานาน
ในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น
มันอาจเกิดมาจากผลของการกินยาที่เกี่ยวข้องกับการคุมกำเนิด ยาขับปัสสาวะ
และสเตียรอยด์ ขณะเดียวกัน
การขาดโพแทสเซียมในร่างกายหรือสภาพอากาศหนาวเย็นก็สามารถทำให้เกิดตะคริวได้
สาเหตุการเป็นตะคริว
ในปัจจุบันยังไม่ทราบกลไกที่แท้จริงของการเกิดตะคริว แต่จากการศึกษาเชื่อว่าอาจเกิดจากการที่เอ็นและกล้ามเนื้อไม่ได้มีการยืดตัวบ่อย
ๆ
จึงทำให้มีการหดรั้งหรือเกร็งได้ง่ายเมื่อมีการใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นมากเกินไป นอกจากนั้นยังเชื่อว่าอาจเกิดจากเซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติไป
หรืออาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ดี เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่แล้วตะคริวจะเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน (Idiopathic
cramps) แต่มีเพียงส่วนน้อยที่พอทราบสาเหตุอยู่บ้าง (Secondary
cramps) ซึ่งมักจะเกิดจากการนั่ง ยืน
หรือทำงานอยู่ในท่าเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ
การใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปหรือจนกล้ามเนื้ออ่อนล้าหรืออ่อนแรง
การออกกำลังที่ใช้แรงจนเกินกำลัง ออกกำลังกายที่ไม่คุ้นเคย
หรือออกกำลังกายติดต่อกันนาน ๆ (เช่น การว่ายน้ำ วิ่งทางไกล
การเล่นกีฬาหนัก การยกของหนัก
หรือในการงานอาชีพที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ๆ)
การออกกำลังหรือทำงานในที่ที่มีอากาศร้อน
หรือการออกกำลังกายโดยที่ไม่ได้อบอุ่นร่างกาย นอกจากนี้ตะคริวยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น
ๆ ด้วยเช่นกัน ได้แก่
การดื่มน้ำน้อย ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ (มักเป็นสาเหตุในผู้สูงอายุ)
การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีผลเพิ่มการขับน้ำทางปัสสาวะ ร่างกายจึงมักขาดน้ำรวมทั้งกล้ามเนื้อ
เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้เซลล์ทุกชนิดในร่างกายเสื่อมถอยลง ซึ่งรวมถึงเซลล์เนื้อ จึงมักพบอาการนี้ได้สูงขึ้นในผู้สูงอายุ
สุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงส่งผลให้มวลกล้ามเนื้อลดลง รวมทั้งการขาดการออกกำลังยืดกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อตึงจนเกิดเป็นตะคริว
ภาวะการตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับแคลเซียมในเลือดต่ำหรือการไหลเวียนของเลือดไปที่ขาไม่สะดวก
ภาวะเกลือแร่ในเลือดต่ำ
หรือร่างกายเสียสมดุลของเกลือแร่ที่ใช้ในการทำงานของกล้ามเนื้อที่สำคัญ
เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม จากอาการท้องเดิน อาเจียน
เสียเหงื่อมากจากการทำงาน การเล่นกีฬา อากาศที่ร้อน
หรือจากโรคเรื้อรังของอวัยวะที่ควบคุมเกี่ยวกับน้ำและเกลือแร่ของร่างกาย
เช่น โรคไตเรื้อรัง
การได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ อาจเกิดจากการกระทบกระแทก ทำให้เกิดการฟกช้ำที่กล้ามเนื้อ
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ (Diuretic drugs),
ยาลดไขมัน (Nicotinic acid), ไนเฟดิพีน (Nifedipine – ยาลดความดัน),
ซาลบูทามอล (Salbutamol – ยาขยายหลอดลม), ไซเมทิดีน (Cimetidine –
ยารักษาโรคกระเพาะ), เพนิซิลลามีน (Penicillamine), ฟีโนไทอาซีน
(Phenothiazine), ราโลซิฟีน (Raloxifene), มอร์ฟีน, สเตียรอยด์ ฯลฯ
ภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายแข็ง หรือหลอดเลือดตีบตัน
จึงส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดี กล้ามเนื้อจึงขาดเลือด
โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
ผู้สูบบุหรี่จัด อาจเป็นตะคริวที่ขาได้บ่อยในขณะที่ออกกำลัง
เดินเป็นเวลานาน ๆ หรือเดินเป็นระยะทางไกล ๆ
หรือเป็นในขณะที่อากาศเย็นตอนดึกหรือเช้ามืดเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดไปที่ขาไม่ดี
รากประสาทถูกกด เช่น โรคโพรงกระดูกสันหลังแคบ (Spinal stenosis)
ที่ส่งผลให้ประสาทสั่งงานกล้ามเนื้อผิดปกติ
ทำให้ผู้ป่วยมักมีอาการตะคริวที่น่องในขณะเดินเป็นเวลานาน ๆ
หรือเดินเป็นระยะทางไกล ๆ
ตะคริวที่พบร่วมกับโรคเรื้อรังหรือภาวะอื่น ๆ เช่น โรคพาร์กินสัน,
โรคโลหิตจาง, โรคเบาหวาน (ทำให้เกิดความผิดปกติในการใช้พลังงานของร่างกาย),
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ, โรคของต่อมไทรอยด์ ภาวะขาดไทรอยด์
ภาวะขาดพาราไทรอยด์ (เกิดความผิดปกติทางฮอร์โมน
และรวมไปถึงการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดซึ่งเป็นยาฮอร์โมน), โรคตับและโรคไต
ตับแข็ง ไตวาย
(เพราะตับและไตมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับสมดุลของน้ำและเกลือแร่ของร่างกาย)
เป็นต้น
สูตรแก้ตะคริวที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน
1.ดีเกลือ
ดีเกลือมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านทั่วๆไปและช่วยรักษากล้ามเนื้อเป็นตะคริวได้ดี
ใส่ดีเกลือลงในอ่างน้ำร้อนและคนให้เข้ากัน แช่ในน้ำเป็นเวลา 20
นาทีเพื่อบรรเทาอาการปวด หากคุณทำแล้วไม่ได้ผลในครั้งแรก
ทำซ้ำอีกครั้งในวันถัดไป
2.มัสตาร์ดเหลือง เพราะมัสตาร์ดเหลืองเต็มไปด้วยแมกนีเซียม
มีประโยชน์อย่างมากในการรักษาตะคริวที่ขา
มัสตาร์ดคือตัวช่วยที่น่ามหัศจรรย์
นักกีฬาที่มีชื่อเสียงหลายคนใช้มันเมื่อพวกเขาเป็นตะคริว
โดยทั่วไปแล้วคุณควรบริโภคมัสตาร์ดครั้งละสองช้อนเพื่อรักษาอาการขาเป็นตะคริว
มัสตาร์ดมีกรดอะซิติก ซึ่งเป็นตัวผลิตแอซิติลโคลีนในร่างกาย
สารนี้จะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อกระปรี้ประเปร่าและช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดี
3.สูตรบรรเทาอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริว
ออริกาโน หนึ่งช้อนโต๊ะ
โรสแมรี่ หนึ่งช้อนโต๊ะ
เมล็ดโป๊ยกั๊ก หนึ่งช้อนโต๊ะ
กานพลู หนึ่งช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการเตรียม : นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในน้ำร้อนสองถ้วยตวง
และนำไปเคี่ยว เมื่อน้ำลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ดื่มน้ำที่เหลืออยู่
เวลาที่ดีที่สุดในการบริโภคคือก่อนนอน
หมายเหตุ : เพื่อหลีกเลี่ยงอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริว
อย่าปล่อยให้ร่างกายของคุณขาดน้ำ
และนี่ยังช่วยคุณควบคุมปัญหาในเรื่องของการขับเหงื่อและคลื่นความร้อนอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง : healthyfoodhouse.com