ถ้ามีอาการคล้าย ๆ จะเป็นหวัด เริ่มคัดจมูก น้ำมูกไหล และมีเสมหะในลำคอ รู้ไหมว่าปัญหาสุขภาพเหล่านี้จัดการได้ด้วยอาหาร
ในช่วงเปลี่ยนฤดู
อากาศเริ่มจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ในแต่ละวัน
เราก็มักจะป่วยด้วยอาการเป็นหวัดกันบ่อย ๆ เริ่มต้นจากเริ่มมีน้ำมูกไหล
ไอพร้อมกับมีเสมหะ ซึ่งหากอาการหวัดยังอยู่ในระยะเริ่มต้นแบบนี้
ลองรักษาด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการกินอาหารช่วยลดน้ำมูก ลดเสมหะ บรรเทาอาการหวัดไปด้วยในตัวดังต่อไปนี้กันดูไหม
1. ฟักทอง
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามิน A, C และ E รวมทั้งแคลเซียม สังกะสี โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส จึงเป็นอาหารที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงมากพอจะต่อสู้กับเชื้อหวัดที่ก่อให้เกิดน้ำมูก และเสมหะได้อีกทาง
นอกจากนี้ยังแนะนำให้กินเมล็ดฟักทองเพื่อกำจัดน้ำมูกด้วย เนื่องจากในเมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบในร่างกาย อีกทั้งเมล็ดฟักทองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่น ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะไฟท์กับอาการอักเสบต่าง ๆ ด้วยนะคะ
2. ขิง
สมุนไพรที่มีรสร้อนอย่างขิงจะช่วยเคลียร์ช่องทางเดินหายใจของเราให้โล่งขึ้น อีกทั้งขิงยังมีสารจิงเกอร์รอล ที่จะช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัสโรคหวัดและอาการไข้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะสารชนิดนี้ในขิงมีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพรินซะอีก นอกจากนี้ขิงยังพ่วงสรรพคุณต้านการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายเราได้ด้วยนะคะ
3. น้ำผึ้ง
ทราบไหมคะว่าน้ำผึ้งแท้ 100% จะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์นานัปการ ทั้งสรรพคุณในการต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารฟลาโวนอยด์ที่จะช่วยลดทั้งอาการไข้ อาการภูมิแพ้ น้ำมูกไหล หรือแม้กระทั่งจะใช้น้ำผึ้งในการรักษาบาดแผลติดเชื้อไม่รุนแรงก็ยังได้
4. หัวหอม
แค่เราดมหัวหอมยังช่วยแก้อาการคัดจมูกได้ง่าย ๆ นับประสาอะไรกับการกินหัวหอมสด ๆ ที่จะได้รับสารอาหารจากหัวหอมอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C, B6, B1, K, ไบโอติน, โครเมียม, แคลเซียม, และกรดฟอสฟอริกตัวจี๊ด (กรดที่ทำให้เราน้ำตาไหลตอนหั่นหัวหอม) ที่มีสรรพคุณช่วยชะล้างแบคทีเรียและฆ่าเชื้อโรคที่มีอยู่ในเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดสะอาดขึ้น อาการป่วยก็จะบรรเทาลงตามลำดับ
5. กระเทียม
นอกจากหอมแล้วกระเทียมก็เป็นสมุนไพรที่มีดีในการต้านหวัด ขับเสมหะ ด้วยสรรพคุณที่ช่วยต้านการอักเสบ ทั้งในกระเทียมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ค่อนข้างสูง โดยเราสามารถบรรเทาอาการหวัด น้ำมูกไหล และขับเสมหะด้วยกระเทียมอย่างง่าย ๆ ด้วยการหั่นกระเทียมเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองเอากากออก จิบเป็นชากระเทียมอุ่น ๆ ก็ดี หรือถ้าทนกลิ่นไม่ไหว จะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำขิงเข้าไปสักหน่อยก็ได้จ้า
6. พริก
เห็นมีแต่รสเผ็ดอย่างนั้นแต่จริง ๆ แล้วสารอาหารในพริกก็เด็ดไม่แพ้ความเผ็ดเลยค่ะ เพราะนอกจากพริกจะมีวิตามิน C แล้ว ความเผ็ดร้อนที่เกิดจากสารแคปไซซินของพริกยังช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเสมหะ และลดน้ำมูกได้สบาย ๆ ใครที่กินเผ็ดได้ก็จัดไปอย่าให้เสีย
7. ชาคาโมมายล์
สารเด่น ๆ ในชาคาโมมายล์ที่ช่วยลดการอักเสบ ขับเสมหะ และลดน้ำมูกได้ ก็คือสารเอพิจีนีน ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบในร่างกายได้ นอกจากนี้ในชาคาโมมายล์ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยนะคะ ยิ่งหากได้ดื่มชาคาโมมายล์อุ่น ๆ ในตอนที่เป็นหวัด ก็คงจะโล่งลำคอโล่งจมูกน่าดูเลยทีเดียว
8. ชาพริกไทยดำผสมน้ำผึ้ง
พริกไทยดำมีรสเผ็ดร้อนจึงสามารถละลายเสมหะที่ติดอยู่ในลำคอ เคลียร์ให้ทางเดินหายใจสะดวกขึ้นได้ ส่วนน้ำผึ้งก็มีสรรพคุณคล้ายยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ กำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างหมดจด ดังนั้นเพียงแค่ดื่มชาพริกไทยดำผสมน้ำผึ้งอุ่น ๆ สักแก้ว อาการไอแถมเสมหะของเราก็จะเบาบางลงได้แล้วล่ะ
9. สับปะรด
นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามิน C ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันได้แล้ว ความจี๊ดของสับปะรดก็อยู่ที่เอนไซม์บรอมีเลนซึ่งจะช่วยยับยั้งอาการอักเสบ ช่วยกำจัดเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อภูมิคุ้มกันมีตัวช่วยเพิ่มขึ้น อาการอักเสบลดลง ปริมาณน้ำมูกก็จะค่อย ๆ ลดลงไปด้วยนั่นเอง
สำหรับคนที่มีอาการหวัด น้ำมูกไหล มีเสมหะในลำคอ ก็ลองกินอาหารทั้ง 9 ชนิดนี้เพื่อบรรเทาอาการกันนะคะ และถ้าไม่อยากป่วยหนัก ซ้ำเติมอาการให้แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ แนะนำให้เลี่ยงอาหารเหล่านี้ให้ไกลด้วย
- 4 อาหารที่ถ้าเผลอกินตอนเป็นหวัด อาจป่วยหนักกว่าเก่า !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
whyamiunhealthy
organicauthority
livelovefruit
1. ฟักทอง
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามิน A, C และ E รวมทั้งแคลเซียม สังกะสี โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส จึงเป็นอาหารที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงมากพอจะต่อสู้กับเชื้อหวัดที่ก่อให้เกิดน้ำมูก และเสมหะได้อีกทาง
นอกจากนี้ยังแนะนำให้กินเมล็ดฟักทองเพื่อกำจัดน้ำมูกด้วย เนื่องจากในเมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบในร่างกาย อีกทั้งเมล็ดฟักทองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่น ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะไฟท์กับอาการอักเสบต่าง ๆ ด้วยนะคะ
2. ขิง
สมุนไพรที่มีรสร้อนอย่างขิงจะช่วยเคลียร์ช่องทางเดินหายใจของเราให้โล่งขึ้น อีกทั้งขิงยังมีสารจิงเกอร์รอล ที่จะช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัสโรคหวัดและอาการไข้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะสารชนิดนี้ในขิงมีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพรินซะอีก นอกจากนี้ขิงยังพ่วงสรรพคุณต้านการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายเราได้ด้วยนะคะ
3. น้ำผึ้ง
ทราบไหมคะว่าน้ำผึ้งแท้ 100% จะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์นานัปการ ทั้งสรรพคุณในการต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารฟลาโวนอยด์ที่จะช่วยลดทั้งอาการไข้ อาการภูมิแพ้ น้ำมูกไหล หรือแม้กระทั่งจะใช้น้ำผึ้งในการรักษาบาดแผลติดเชื้อไม่รุนแรงก็ยังได้
4. หัวหอม
แค่เราดมหัวหอมยังช่วยแก้อาการคัดจมูกได้ง่าย ๆ นับประสาอะไรกับการกินหัวหอมสด ๆ ที่จะได้รับสารอาหารจากหัวหอมอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C, B6, B1, K, ไบโอติน, โครเมียม, แคลเซียม, และกรดฟอสฟอริกตัวจี๊ด (กรดที่ทำให้เราน้ำตาไหลตอนหั่นหัวหอม) ที่มีสรรพคุณช่วยชะล้างแบคทีเรียและฆ่าเชื้อโรคที่มีอยู่ในเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดสะอาดขึ้น อาการป่วยก็จะบรรเทาลงตามลำดับ
5. กระเทียม
นอกจากหอมแล้วกระเทียมก็เป็นสมุนไพรที่มีดีในการต้านหวัด ขับเสมหะ ด้วยสรรพคุณที่ช่วยต้านการอักเสบ ทั้งในกระเทียมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ค่อนข้างสูง โดยเราสามารถบรรเทาอาการหวัด น้ำมูกไหล และขับเสมหะด้วยกระเทียมอย่างง่าย ๆ ด้วยการหั่นกระเทียมเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองเอากากออก จิบเป็นชากระเทียมอุ่น ๆ ก็ดี หรือถ้าทนกลิ่นไม่ไหว จะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำขิงเข้าไปสักหน่อยก็ได้จ้า
6. พริก
เห็นมีแต่รสเผ็ดอย่างนั้นแต่จริง ๆ แล้วสารอาหารในพริกก็เด็ดไม่แพ้ความเผ็ดเลยค่ะ เพราะนอกจากพริกจะมีวิตามิน C แล้ว ความเผ็ดร้อนที่เกิดจากสารแคปไซซินของพริกยังช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเสมหะ และลดน้ำมูกได้สบาย ๆ ใครที่กินเผ็ดได้ก็จัดไปอย่าให้เสีย
7. ชาคาโมมายล์
สารเด่น ๆ ในชาคาโมมายล์ที่ช่วยลดการอักเสบ ขับเสมหะ และลดน้ำมูกได้ ก็คือสารเอพิจีนีน ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบในร่างกายได้ นอกจากนี้ในชาคาโมมายล์ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยนะคะ ยิ่งหากได้ดื่มชาคาโมมายล์อุ่น ๆ ในตอนที่เป็นหวัด ก็คงจะโล่งลำคอโล่งจมูกน่าดูเลยทีเดียว
8. ชาพริกไทยดำผสมน้ำผึ้ง
พริกไทยดำมีรสเผ็ดร้อนจึงสามารถละลายเสมหะที่ติดอยู่ในลำคอ เคลียร์ให้ทางเดินหายใจสะดวกขึ้นได้ ส่วนน้ำผึ้งก็มีสรรพคุณคล้ายยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ กำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างหมดจด ดังนั้นเพียงแค่ดื่มชาพริกไทยดำผสมน้ำผึ้งอุ่น ๆ สักแก้ว อาการไอแถมเสมหะของเราก็จะเบาบางลงได้แล้วล่ะ
9. สับปะรด
นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามิน C ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันได้แล้ว ความจี๊ดของสับปะรดก็อยู่ที่เอนไซม์บรอมีเลนซึ่งจะช่วยยับยั้งอาการอักเสบ ช่วยกำจัดเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อภูมิคุ้มกันมีตัวช่วยเพิ่มขึ้น อาการอักเสบลดลง ปริมาณน้ำมูกก็จะค่อย ๆ ลดลงไปด้วยนั่นเอง
สำหรับคนที่มีอาการหวัด น้ำมูกไหล มีเสมหะในลำคอ ก็ลองกินอาหารทั้ง 9 ชนิดนี้เพื่อบรรเทาอาการกันนะคะ และถ้าไม่อยากป่วยหนัก ซ้ำเติมอาการให้แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ แนะนำให้เลี่ยงอาหารเหล่านี้ให้ไกลด้วย
- 4 อาหารที่ถ้าเผลอกินตอนเป็นหวัด อาจป่วยหนักกว่าเก่า !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
whyamiunhealthy
organicauthority
livelovefruit