มัดรวมประเด็นสงสัยหลัก ๆ
เกี่ยวกับโคโรนาไวรัส หรือไวรัสอู่ฮั่น ที่ทำให้เป็นปอดอักเสบได้
สงสัยเรื่องไหนเกี่ยวกับโรคติดต่อจากจีน 2019 ชนิดนี้
ลองมาหาคำตอบที่ชัดเจนไปพร้อม ๆ กันเลย
ตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสอู่ฮั่น
หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ก็มีประเด็นสงสัยต่าง ๆ
เกี่ยวกับโคโรนาไวรัสเกิดขึ้นมากมาย
และนำไปสู่การหาคำตอบแบบที่เป็นข่าวปลอมบ้าง ข้อมูลที่ถูกบิดเบือนมาบ้าง
ดังนั้นเพื่อป้องกันความสับสนเกี่ยวกับไวรัสอู่ฮั่น
เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิต พร้อมคำตอบมาให้ตรงนี้แล้ว
1. ไวรัสโคโรนา คืออะไร
ไวรัสโคโรนา คือ ไวรัสชนิดหนึ่งในตระกูลโคโรนา
ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบได้ทั้งในคนและสัตว์
โดยไวรัสชนิดนี้มีมานานกว่า 50-60 ปีแล้ว มีอยู่หลายสายพันธุ์
แต่ไวรัสที่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
เป็นไวรัสสายพันธุ์ย่อยที่ไม่เคยพบมาก่อน จึงเรียกว่า
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ Novel coronavirus 2019
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ต้นตอโรคปอดอักเสบอู่ฮั่น ที่แพร่จากคนสู่คนได้ 2. ไวรัสอู่ฮั่น ต่างจาก โรคซาร์ส และโรคเมอร์ส อย่างไร
จริง ๆ แล้ว ทั้ง 3 โรคเกิดจากไวรัสโคโรนาเหมือนกัน
อาการจึงจะเกิดในทางเดินระบบหายใจคล้าย ๆ กัน
แต่ถึงแม้จะเป็นไวรัสตัวเดียวกัน ทว่าก็เป็นไวรัสคนละสายพันธุ์
ดังนั้นความรุนแรงของโรคก็จะต่างกัน
โดยความรุนแรงของโรคซาร์สทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 10% โรคเมอร์ส อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 30% ส่วนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 เป็นไวรัสชนิดใหม่ที่ยังควบคุมไม่ได้ในตอนนี้ จึงยังไม่ทราบข้อมูลความรุนแรงของโรคที่แน่ชัด แต่จากสถิติผู้เสียชีวิตในช่วงเดือนมกราคม 2020 ก็พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 2% โดยประมาณ
โดยความรุนแรงของโรคซาร์สทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 10% โรคเมอร์ส อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 30% ส่วนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 เป็นไวรัสชนิดใหม่ที่ยังควบคุมไม่ได้ในตอนนี้ จึงยังไม่ทราบข้อมูลความรุนแรงของโรคที่แน่ชัด แต่จากสถิติผู้เสียชีวิตในช่วงเดือนมกราคม 2020 ก็พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 2% โดยประมาณ
3. ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มาจากไหน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
น่าจะเกิดจากการติดเชื้อจากสัตว์ในตลาดสดอู่ฮั่น ประเทศจีน
ซึ่งจากพฤติกรรมของไวรัส คาดว่าน่าจะเกิดมาจากงู
โดยเชื้อส่งผ่านจากค้างคาวมาสู่งู และงูไปยังมนุษย์
ทั้งนี้โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เกิดตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2019
เป็นต้นมา แต่วินิจฉัยโรคได้หลังปีใหม่
ก่อนจะถอดรหัสพันธุกรรมสำเร็จในวันที่ 11 มกราคม 2020
4. ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ติดต่อทางไหน แพร่จากคนสู่คนได้อย่างไร
การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็เหมือนการติดเชื้อหวัดทั่วไป
กล่าวคือ สามารถแพร่กระจายเชื้อได้จากละอองฝอยจากการไอหรือจาม
สารคัดหลั่งอย่างน้ำลาย น้ำมูก ซึ่งหากร่างกายสูดดมเอาละอองฝอยจากการไอ จาม
ของผู้ติดเชื้อก็จะสามารถรับเชื้อไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างกายได้
เช่นเดียวกันกับการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อไม่ว่าจะทางมือ
แล้วเอามือมาจับของกินเข้าปาก ถูหน้า ขยี้ตา
ก็อาจจะติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ อัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบว่า ผู้ติดเชื้อ 1 ราย สามารถแพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้อีก 2-3 ราย โดยเฉลี่ย
ทั้งนี้ อัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบว่า ผู้ติดเชื้อ 1 ราย สามารถแพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้อีก 2-3 ราย โดยเฉลี่ย
5. ไวรัสอู่ฮั่น รับเชื้อแล้วป่วยทันทีเลยไหม
โดยปกติโคโรนาไวรัสจะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-14 วัน
ในระยะนี้ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการป่วยที่สังเกตเห็นได้
และไม่รู้ตัวว่าป่วยอยู่ ซึ่งก็อาจไปเที่ยว ไปไหนมาไหนได้ตามปกติ
ดังนั้นในช่วง 2-14 วันหลังจากได้รับเชื้อ ก็จะค่อนข้างยากต่อการคัดกรองโรค
6. ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาการเป็นอย่างไร
อาการโคโรนาไวรัสจะคล้าย ๆ กับไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ จาม
มีน้ำมูก เจ็บคอ แต่หากเป็นมากก็อาจมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว เจ็บหน้าอก
หายใจลำบาก ท้องเสีย อาเจียน และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างอาการปอดอักเสบ
(Pneumonia) ซึ่งความรุนแรงของอาการก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ
ของผู้ป่วยแต่ละคนด้วย
7. ไวรัสอู่ฮั่น อันตรายแค่ไหน ป่วยแล้วเสียชีวิตไหม
อย่างที่บอกว่าความรุนแรงของโคโรนาไวรัสขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
หากร่างกายมีภูมิต้านทานแข็งแรง ก็อาจจะเป็นแค่ไข้หวัด และสามารถหายได้เอง แต่หากมีร่างกายอ่อนแอ เช่น เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะภูมิต้านทานต่ำ ก็เสี่ยงเสียชีวิตจากไวรัสอู่ฮั่นได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้อัตราการตาย ณ ปัจจุบันก็ยังถือว่าค่อนข้างต่ำ ประมาณ 2-3% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด (มกราคม 2020)
8. ไวรัสอู่ฮั่น มียารักษาไหม ฉีดวัคซีนป้องกันได้หรือเปล่า
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มียารักษาไวรัสโคโรนาโดยตรง
มีเพียงการรักษาตามอาการของผู้ติดเชื้อเท่านั้น เช่น ให้ยาแก้ไข้
ให้ออกซิเจนเมื่อมีภาวะหายใจลำบาก ส่วนวัคซีนป้องกันไวรัสอู่ฮั่น ณ
ตอนนี้ยังไม่มี อย่างไรก็ตาม
ทางจีนก็กำลังพยายามพัฒนาวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อยู่
จีนลุยพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังระบาดไปทั่ว 9. ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันไวรัสอู่ฮั่นได้ไหม
การใส่หน้ากากอนามัยเป็นวิธีป้องกันไวรัสโคโรนาได้ในด่านแรก ๆ
โดยควรเลือกใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีลักษณะด้านหนึ่งเป็นสีฟ้า
หรือสีเขียว ส่วนอีกด้านเป็นสีขาว หรือหน้ากากอนามัยแบบธรรมดานั่นเอง
เพราะหน้ากากอนามัยแบบนี้สามารถกันน้ำได้
จึงช่วยป้องกันการแพร่กระจายและการรับเชื้อที่มากับละอองฝอยของการไอ จาม
น้ำลาย น้ำมูกได้
แต่ถ้าถามว่าใส่หน้ากาก N95 ที่ช่วยป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ไหม ก็ตอบว่าได้เหมือนกัน ทว่าก็อาจจะหายใจอึดอัดกว่าการใส่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาอยู่บ้าง เอาเป็นว่าก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลยก็แล้วกัน แต่ที่สำคัญคือควรต้องใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันเชื้อโรคไว้ก่อน
แต่ถ้าถามว่าใส่หน้ากาก N95 ที่ช่วยป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ไหม ก็ตอบว่าได้เหมือนกัน ทว่าก็อาจจะหายใจอึดอัดกว่าการใส่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาอยู่บ้าง เอาเป็นว่าก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลยก็แล้วกัน แต่ที่สำคัญคือควรต้องใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันเชื้อโรคไว้ก่อน
10. วิธีป้องกันไวรัสอู่ฮั่น ทำยังไงได้บ้าง
นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยแล้ว
วิธีป้องกันไวรัสโคโรนาที่ดีก็ควรกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ
กินอาหารปรุงสุก รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนแออัด
หรือหากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกที่มีคนพลุกพล่าน
ก็ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
และพกเจลล้างมือติดตัวเอาไว้ทำความสะอาดมือบ่อย ๆ ด้วย
หากต้องเดินทางไปประเทศจีน ไม่ควรเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย รวมทั้งไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอ จาม
หากต้องเดินทางไปประเทศจีน ไม่ควรเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย รวมทั้งไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอ จาม
ที่สำคัญควรดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี
กินอาหารที่มีประโยชน์ ไม่กินอาหารแปลกพิสดาร โดยเฉพาะพวกสัตว์แปลก ๆ
หมั่นออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
เพื่อเสริมความแข็งแรงของภูมิต้านทานในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ