เรื่องราวของการปลูกผักสร้างรายได้เสริมนั้นก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยไป
ยิ่งปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคออนไลน์ ที่หลายๆอย่างต่างปรากฏในเฟสหรือ ยูทูป
ทำให้ตลาดเปิดกว้างมากขึ้นนั่นเอง สวัสดีครับเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่าน
พบกันอีกเช่นเคยกับผม เด็กชายปัญญา และสาระไอเดียดีดี
สำหรับไอเดียที่ผมจะนำมาฝากเพื่อๆวันนี้ก็เป็นเรื่องราวของ
สมาชิกพันทิพท่านหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า เค้าไม่ให้ใช้ Thepop22
กริ่นก่อน ผมและภรรยา ต่างก็เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึงภรรยาผมก็ลาออกมาทำร้านอาหารช่วงแรกก็ดีครับมีเงินเก็บ ผมก็กู้ซื้อบ้านเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ได้บ้านมา ก็ไม่ได้อยู่ครับส่วนใหญ่กินนอนที่ร้านอาหารมีห้องนอน และผมเห็นว่ากิจการกำลังไปได้ดีผมก็เลยลาออกมาช่วยภรยา
ต่อมากิจการเริ่มไม่ค่อยดีรายได้ลดลงเรื่อยๆจนเริ่มไม่ค่อยไหว เพราะต้องผ่อนบ้านและจ่ายค่าเช่าร้าน มีการกู้เงินมาพยุงร้านสักพักก็เริ่มรู้สึกไม่ไหว เลยคุยกันตกลงว่าจะปล่อยร้านและกลับมาอยู่บ้านที่ซื้อไว้ สรุปแล้วผมเป็นหนี้เป็นล้านแล้ว
ช่วงที่ร้านกำลังไม่ไหวผมก็ไปสมัครงานก็ได้งานเงินเดือนหนึ่งหมื่นก็ทำครับ และพอปล่อยร้านไปแล้วภรรยาผมก็ไปสมัครงานได้เป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนรัฐบาล ซึ่งเงินเดือนรวมกันมันก็พออยู่ได้แต่มันต้องประหยัดมาก เพราะต้องจ่ายหนี้ด้วย จนผมคิดว่าต้องหาอาชีพเสริมทำเพื่อให้มีเงินเพิ่มขึ้นมาบ้าง
ซึ่งอาชีพเสริมของผมคือการทำผักสลัดไฮโดร งานนี้ผมเริ่มจากศูนย์เลย คือไม่มีความรู้อะไรเลย(ก่อนหน้านี้เคยปลูกเพื่อเอาผักไปใช้ที่ร้าน แล้วก็เลิกไปเพราะผักไม่สวย) บ้านที่ผมซื้อเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ เป็นบ้านหลังริมซึ่งมีพื้นที่นิดหน่อยก็เลยจัดการทำในพื้นที่ข้างบ้าน
อันนี้คือโต๊ะปลูกแรกที่ทำจริงจัง(มีก่อนหน้านี้ไม่อยากให้ดู อายจริงๆ) ทุกอย่างผมลงมือทำเองทุกขั้นตอนไม่จ้างช่างนะครับ โต๊ะแรกลงทุนไประมาณ 3000 บาท ได้ใช้ของเก่าจากที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
หลังจากโต๊ะแรกประสบความสำเร็จปลูกขึ้นมาและขายได้ ปลูกประมาณ2-3รอบก็คืนทุนทั้งหมดที่ลงไปแล้ว รู้สึกว่ามันไปได้และความต้องการของลูกค้ายังสูงกว่าการปลูกที่ผมทำได้ ผมเลยเพิ่มโต๊ะที่2
ผมทำเองทุกอย่าง ไม่จ้างช่างครับ ความรู้มีอยู่มากมายเราต้องหาครับ
แบบที่เตรียมสร้าง
ทำเองทุกอย่างครับ
ทุกอย่างจริงๆ
เชื่อมเองก็ได้น่ะ
และเมื่อเข้าฤดูฝนผัเริ่มเสียหายถ้าฝนแรง เลยต้องทำหลังคา อันนี้หลังคาโรงเรือนอันแรก ใช้ท่อ PVC ทำโครงครับ คือบ้านผมพื้นที่น้อย การที่จะปลูกที่เดียวแล้วรอจนมันขายได้มันใช้เวลานานเกินไป
ไม่ทันขายผมเลยต้องแบ่งช่วงอายุผัก มีช่วงเพาะและช่วงอนุบาล
เตรียมต้นกล้าสำหรับปลูกนะครับ
และแล้วหลังคาโรงเรือนที่ทำจากท่อ PVC ก็ทนลมฝนไม่ไหว
เปลี่ยนโครงเหล็ก
พังลงมาผักก็เสียหายเลยต้องทำโครงหลังคาจากเหล็ก
มืดหน่อย
เดือนนึงก็มีรายได้เพิ่มมาประมาณ 3-4พันบาท
แต่รู้สึกว่าอยากให้มีผักขายได้ทุกสัปดาห์ก็เลยเพิ่มโต๊ะอนุบาลและโต๊ะปลูกอีก
พื้นที่ข้างบ้านจึงมีโต๊ะปลูกจริง3โต๊ะและโต๊ะอนุบาล1โต๊ะ ส่วนขั้นอนุบาลก่อนต้นอ่อน ผมเอาไว้หลังบ้าน
ตอนนี้ผมก็มีผักขายทุกสัปดาห์ รายได้จากอาชีพเสริมสามารถจ่ายค่าบ้านได้เลย
ปลูกมาแล้วขายใคร ขายยังไง ต้องมีคนสงสัยแน่ๆ
ครั้งแรกที่ขายคือได้ผักมาก็เอามาแปรรูปครับ ช่วงแรกทำเป็นสลัดผักต่างๆขายครับ หลักๆขายในกลุ่มเฟสและไลน์
ผักเริ่มเยอะขึ้น ก็ขยายตลาด ลองเอาไปลงขายตลาดนัดดู เออมันก็ขายได้และกำไลดี ขายทั้งแบบเป็นต้นและแบบตัดใบ(ตัดใบเพราะต้นไม่สวยเลยเอามาตัดใบ)
ต่อมาสลัดโรลมาก็เลยทำขาย ก็มีออเดอร์ใหญ่เข้ามาบ้าง เคยทำสูงสุด 200 กล่อง ปกติก็มีทำทุกวันวันนึงก็15-30 กล่องแล้วแต่ออเดอร์
ตอนนี้มีรายได้จากอาชีพเสริมนี้เยอะพอสมควร และทั้งหมดทั้งมวลผมใช้เวลาประมาณ 4 ปีตั้งแต่เริ่มต้น ค่อยๆทำค่อยๆเพิ่ม หาตลาดหาลูกค้าได้แล้วผมค่อยเพิ่ม ตอนนี้หนีที่มีหมดมั้ย ตอบเลยยังไม่หมดครับ ก็ผ่อนจ่ายไปเรื่อยๆ หนี้ทั้งหมดที่มีเป็นหนี้ในระบบครับ
ผมไม่มีความคิดที่จะกู้นอกระบบ และผมไม่ใช้บัตรเครดิตครับ บริหารจัดการเงินดีๆก็ไปได้ ปลูกที่ว่ายาก ทำการตลาดยากกว่า การบริหารจัดการยากสุด สมาชิกที่รู้สึกท้อแท้ อยากให้สู้ครับ ค่อยๆคิดค่อยๆทำนะครับ
กริ่นก่อน ผมและภรรยา ต่างก็เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึงภรรยาผมก็ลาออกมาทำร้านอาหารช่วงแรกก็ดีครับมีเงินเก็บ ผมก็กู้ซื้อบ้านเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ได้บ้านมา ก็ไม่ได้อยู่ครับส่วนใหญ่กินนอนที่ร้านอาหารมีห้องนอน และผมเห็นว่ากิจการกำลังไปได้ดีผมก็เลยลาออกมาช่วยภรยา
ต่อมากิจการเริ่มไม่ค่อยดีรายได้ลดลงเรื่อยๆจนเริ่มไม่ค่อยไหว เพราะต้องผ่อนบ้านและจ่ายค่าเช่าร้าน มีการกู้เงินมาพยุงร้านสักพักก็เริ่มรู้สึกไม่ไหว เลยคุยกันตกลงว่าจะปล่อยร้านและกลับมาอยู่บ้านที่ซื้อไว้ สรุปแล้วผมเป็นหนี้เป็นล้านแล้ว
ช่วงที่ร้านกำลังไม่ไหวผมก็ไปสมัครงานก็ได้งานเงินเดือนหนึ่งหมื่นก็ทำครับ และพอปล่อยร้านไปแล้วภรรยาผมก็ไปสมัครงานได้เป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนรัฐบาล ซึ่งเงินเดือนรวมกันมันก็พออยู่ได้แต่มันต้องประหยัดมาก เพราะต้องจ่ายหนี้ด้วย จนผมคิดว่าต้องหาอาชีพเสริมทำเพื่อให้มีเงินเพิ่มขึ้นมาบ้าง
ซึ่งอาชีพเสริมของผมคือการทำผักสลัดไฮโดร งานนี้ผมเริ่มจากศูนย์เลย คือไม่มีความรู้อะไรเลย(ก่อนหน้านี้เคยปลูกเพื่อเอาผักไปใช้ที่ร้าน แล้วก็เลิกไปเพราะผักไม่สวย) บ้านที่ผมซื้อเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ เป็นบ้านหลังริมซึ่งมีพื้นที่นิดหน่อยก็เลยจัดการทำในพื้นที่ข้างบ้าน
อันนี้คือโต๊ะปลูกแรกที่ทำจริงจัง(มีก่อนหน้านี้ไม่อยากให้ดู อายจริงๆ) ทุกอย่างผมลงมือทำเองทุกขั้นตอนไม่จ้างช่างนะครับ โต๊ะแรกลงทุนไประมาณ 3000 บาท ได้ใช้ของเก่าจากที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
หลังจากโต๊ะแรกประสบความสำเร็จปลูกขึ้นมาและขายได้ ปลูกประมาณ2-3รอบก็คืนทุนทั้งหมดที่ลงไปแล้ว รู้สึกว่ามันไปได้และความต้องการของลูกค้ายังสูงกว่าการปลูกที่ผมทำได้ ผมเลยเพิ่มโต๊ะที่2
ผมทำเองทุกอย่าง ไม่จ้างช่างครับ ความรู้มีอยู่มากมายเราต้องหาครับ
แบบที่เตรียมสร้าง
ทำเองทุกอย่างครับ
ทุกอย่างจริงๆ
เชื่อมเองก็ได้น่ะ
และเมื่อเข้าฤดูฝนผัเริ่มเสียหายถ้าฝนแรง เลยต้องทำหลังคา อันนี้หลังคาโรงเรือนอันแรก ใช้ท่อ PVC ทำโครงครับ คือบ้านผมพื้นที่น้อย การที่จะปลูกที่เดียวแล้วรอจนมันขายได้มันใช้เวลานานเกินไป
ไม่ทันขายผมเลยต้องแบ่งช่วงอายุผัก มีช่วงเพาะและช่วงอนุบาล
เตรียมต้นกล้าสำหรับปลูกนะครับ
และแล้วหลังคาโรงเรือนที่ทำจากท่อ PVC ก็ทนลมฝนไม่ไหว
เปลี่ยนโครงเหล็ก
พังลงมาผักก็เสียหายเลยต้องทำโครงหลังคาจากเหล็ก
มืดหน่อย
เดือนนึงก็มีรายได้เพิ่มมาประมาณ 3-4พันบาท
แต่รู้สึกว่าอยากให้มีผักขายได้ทุกสัปดาห์ก็เลยเพิ่มโต๊ะอนุบาลและโต๊ะปลูกอีก
พื้นที่ข้างบ้านจึงมีโต๊ะปลูกจริง3โต๊ะและโต๊ะอนุบาล1โต๊ะ ส่วนขั้นอนุบาลก่อนต้นอ่อน ผมเอาไว้หลังบ้าน
ตอนนี้ผมก็มีผักขายทุกสัปดาห์ รายได้จากอาชีพเสริมสามารถจ่ายค่าบ้านได้เลย
ปลูกมาแล้วขายใคร ขายยังไง ต้องมีคนสงสัยแน่ๆ
ครั้งแรกที่ขายคือได้ผักมาก็เอามาแปรรูปครับ ช่วงแรกทำเป็นสลัดผักต่างๆขายครับ หลักๆขายในกลุ่มเฟสและไลน์
ผักเริ่มเยอะขึ้น ก็ขยายตลาด ลองเอาไปลงขายตลาดนัดดู เออมันก็ขายได้และกำไลดี ขายทั้งแบบเป็นต้นและแบบตัดใบ(ตัดใบเพราะต้นไม่สวยเลยเอามาตัดใบ)
ต่อมาสลัดโรลมาก็เลยทำขาย ก็มีออเดอร์ใหญ่เข้ามาบ้าง เคยทำสูงสุด 200 กล่อง ปกติก็มีทำทุกวันวันนึงก็15-30 กล่องแล้วแต่ออเดอร์
ตอนนี้มีรายได้จากอาชีพเสริมนี้เยอะพอสมควร และทั้งหมดทั้งมวลผมใช้เวลาประมาณ 4 ปีตั้งแต่เริ่มต้น ค่อยๆทำค่อยๆเพิ่ม หาตลาดหาลูกค้าได้แล้วผมค่อยเพิ่ม ตอนนี้หนีที่มีหมดมั้ย ตอบเลยยังไม่หมดครับ ก็ผ่อนจ่ายไปเรื่อยๆ หนี้ทั้งหมดที่มีเป็นหนี้ในระบบครับ
ผมไม่มีความคิดที่จะกู้นอกระบบ และผมไม่ใช้บัตรเครดิตครับ บริหารจัดการเงินดีๆก็ไปได้ ปลูกที่ว่ายาก ทำการตลาดยากกว่า การบริหารจัดการยากสุด สมาชิกที่รู้สึกท้อแท้ อยากให้สู้ครับ ค่อยๆคิดค่อยๆทำนะครับ