“กล้วยปิ้ง” ยิ่งกินยิ่งอร่อย แต่นอกจากจะเป็นของว่างที่อร่อย
รสชาติดีแล้ว รู้หรือไม่ว่ากล้วยปิ้ง ซึ่งทำมาจาก “กล้วยน้ำว้า”
ที่มีรสชาติหวานหอมในตัวนั้น
มีสรรพคุณทางยาและวิตามินนานาชนิดอย่างที่คุณไม่เคยนึกถึงมากก่อน เช่น
มีกรดอะมิโนอาร์จินินและฮีสติดิน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก
และยังมีคุณค่าทางโภชนาการอื่นๆ อีกมากมาย เราไปดูกันว่า กล้วยน้ำว้า
มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
1. มีส่วนช่วยในการระงับกลิ่นปาก กล้วยน้ำว้ามีฤทธิ์ช่วยลดกลิ่นปากได้ดี ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ เมื่อคุณตื่นนอนให้รับประทานกล้วยน้ำว้า 1 ลูกทันที (รับประทานทั้งที่ยังไม่ต้องแปรงฟัน) หลังจากนั้นค่อยแปรงฟันตามปกติ กลิ่นปากจะลดลงมากกว่าการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว
2. มีฤทธิ์เป็นยาระบาย กล้วยน้ำว้าสามารถแก้อาการท้องผูก หรือช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น วิธีรับประทาน คือ รับประทานกล้วยน้ำว้าสุก 1-2 ผล ก่อนนอน และดื่มน้ำตามมากๆ คุณจะพบว่าในเช้าวันรุ่งขึ้นระบบขับถ่ายของคุณจะทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
3. นอกจากช่วยให้ขับถ่ายสะดวก กล้วยน้ำว้ายังสามารถแก้อาการท้องเสียหรือท้องเดินได้อีกด้วย สารเทนนินในกล้วยน้ำว้าจะช่วยรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้ วิธีการ คือ นำกล้วยน้ำว้าดิบ หรือกล้วยน้ำว้าที่กำลังห่าม ไม่เอาผลสุก นำมาปอกเปลือกแล้วฝานบางๆ นำไปใส่หม้อแล้วเติมน้ำแค่พอท่วมกล้วย นำไปต้มนานประมาณ 30 นาที นำน้ำที่ได้มาดื่มในปริมาณ 1/2 – 1 แก้ว ควรดื่มทุกครั้งที่มีการถ่ายท้อง หรือสามารถดื่มในทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ในช่วงที่มีอาการ 5 ชั่วโมงแรก และหลังจากนั้นเว้นระยะการดื่มเป็น ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 3-4 ครั้ง
4. กล้วยน้ำว้ายังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอก เนื่องจากการไอ หรือไอแห้ง ให้รับประทานกล้วยสุก วันละ 5-6 จะสามารถช่วยลดอาหารระคายเคืองที่เกิดขึ้นได้
5. หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่ากล้วยน้ำว้ารักษาโรคกระเพาะได้ เพียงแค่นำกล้วยน้ำว้าดิบมาปอกเปลือก เอาเนื้อไปฝานเป็นแผ่นบาง นำไปตากแดด 2-3 วัน ให้แห้งจนกรอบ นำไปบดละเอียดให้เป็นผง วิธีการรับปรัทาน ใช้ปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ นำไปละลายในน้ำข้าว หรือละลายนำผสมน้ำผึ้ง ดื่มก่อนรับประทานอาหารครึ่งชั่วโมง หรือดื่มก่อนนอนทุกคืน
6. เปลือกกล้วยน้ำว้าก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะว่ามีสรรพคุณช่วยในการต้านเชื้อรา และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง ช่วยบรรเทา อาการคันอันเนื่องมาจากแมลงสัตว์กัดต่อย และช่วยบรรเทาอาการผื่นแดงจากอาการคันได้
มีสรรพคุณมากมายขนาดนี้ ต้องมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านไว้บ้างแล้วล่ะ หากไม่ได้ใช้เพื่อการรักษา ก็นำไปิ้งกินเป็นของว่างช่วยเสริมวิตามินให้ร่างกาย หรือจะนำไปแปรรูปต่างๆ ก็ได้ด้วย หรือจะกินแต่ผลสุก ก็จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง
ขอบคุณข้อมูล : share-si.com
1. มีส่วนช่วยในการระงับกลิ่นปาก กล้วยน้ำว้ามีฤทธิ์ช่วยลดกลิ่นปากได้ดี ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ เมื่อคุณตื่นนอนให้รับประทานกล้วยน้ำว้า 1 ลูกทันที (รับประทานทั้งที่ยังไม่ต้องแปรงฟัน) หลังจากนั้นค่อยแปรงฟันตามปกติ กลิ่นปากจะลดลงมากกว่าการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว
2. มีฤทธิ์เป็นยาระบาย กล้วยน้ำว้าสามารถแก้อาการท้องผูก หรือช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น วิธีรับประทาน คือ รับประทานกล้วยน้ำว้าสุก 1-2 ผล ก่อนนอน และดื่มน้ำตามมากๆ คุณจะพบว่าในเช้าวันรุ่งขึ้นระบบขับถ่ายของคุณจะทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
3. นอกจากช่วยให้ขับถ่ายสะดวก กล้วยน้ำว้ายังสามารถแก้อาการท้องเสียหรือท้องเดินได้อีกด้วย สารเทนนินในกล้วยน้ำว้าจะช่วยรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้ วิธีการ คือ นำกล้วยน้ำว้าดิบ หรือกล้วยน้ำว้าที่กำลังห่าม ไม่เอาผลสุก นำมาปอกเปลือกแล้วฝานบางๆ นำไปใส่หม้อแล้วเติมน้ำแค่พอท่วมกล้วย นำไปต้มนานประมาณ 30 นาที นำน้ำที่ได้มาดื่มในปริมาณ 1/2 – 1 แก้ว ควรดื่มทุกครั้งที่มีการถ่ายท้อง หรือสามารถดื่มในทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ในช่วงที่มีอาการ 5 ชั่วโมงแรก และหลังจากนั้นเว้นระยะการดื่มเป็น ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 3-4 ครั้ง
4. กล้วยน้ำว้ายังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอก เนื่องจากการไอ หรือไอแห้ง ให้รับประทานกล้วยสุก วันละ 5-6 จะสามารถช่วยลดอาหารระคายเคืองที่เกิดขึ้นได้
5. หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่ากล้วยน้ำว้ารักษาโรคกระเพาะได้ เพียงแค่นำกล้วยน้ำว้าดิบมาปอกเปลือก เอาเนื้อไปฝานเป็นแผ่นบาง นำไปตากแดด 2-3 วัน ให้แห้งจนกรอบ นำไปบดละเอียดให้เป็นผง วิธีการรับปรัทาน ใช้ปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ นำไปละลายในน้ำข้าว หรือละลายนำผสมน้ำผึ้ง ดื่มก่อนรับประทานอาหารครึ่งชั่วโมง หรือดื่มก่อนนอนทุกคืน
6. เปลือกกล้วยน้ำว้าก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะว่ามีสรรพคุณช่วยในการต้านเชื้อรา และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง ช่วยบรรเทา อาการคันอันเนื่องมาจากแมลงสัตว์กัดต่อย และช่วยบรรเทาอาการผื่นแดงจากอาการคันได้
มีสรรพคุณมากมายขนาดนี้ ต้องมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านไว้บ้างแล้วล่ะ หากไม่ได้ใช้เพื่อการรักษา ก็นำไปิ้งกินเป็นของว่างช่วยเสริมวิตามินให้ร่างกาย หรือจะนำไปแปรรูปต่างๆ ก็ได้ด้วย หรือจะกินแต่ผลสุก ก็จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง
ขอบคุณข้อมูล : share-si.com