หวานเป็นลม ขมเป็น “สะเดา” กับประโยชน์ดีๆ ต่อร่างกาย


นอกจากมะระแล้ว ยังมีพืชผักของไทยอีกชนิดที่ขึ้นชื่อเรื่องความขม นั่นคือ “สะเดา” ถึงขั้นมีเมนู สะเดาน้ำปลาหวาน เพื่อให้รสหวานมากดรสขม ให้ได้รสที่ทานได้ง่ายขึ้น

ทำไมคนไทยต้องพยายามนำสะเดาสุดขมมาทำเมนูให้ทานได้ง่ายขึ้น แทนที่จะเลี่ยงไปไม่ต้องทาน ก็เพราะสะเดามีประโยชน์มากมายที่มีคุณค่าเกินกว่าจะทิ้งไว้ให้แห้งคาต้นไปน่ะสิ ถ้าโบราณว่าไว้ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา สะเดาก็ต้องเป็นยาสมุนไพรพื้นบ้านชั้นเลิศที่หากเรารู้แล้วอาจจะอยากทานให้มากขึ้นก็ได้

- รากของสะเดา ช่วยขับเสมหะ ในจมูก และลำคอ

- เปลือกต้นสะเดา นำมาทำเป็นยาขมช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้บิดมูกเลือด แก้ท้องร่วง และนำมาต้มเพื่อใช้เป็นน้ำล้างแผล

- แก่นสะเดา ช่วยแก้คลื่นไส้อาเจียน แก้ลม แก้ไข้ตัวร้อน ไข้จับสั่น

- ใบสะเดา ช่วยขับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร จึงช่วยให้ย่อยอาหารได้มากขึ้น แก้ไข้ แก้พยาธิ บำรุงโลหิต และแก้ร้อนในกระหายน้ำ

- ดอกสะเดา ช่วยแก้โรคริดสีดวงในลำคอ และบำรุงธาตุต่างๆ ในร่างกาย

- ผลอ่อนของสะเดา ช่วยแก้ริดสีดวง ฆ่าพยาธิ แก้อาการปัสสาวะผิดปกติ และช่วยเจริญอาหาร

- ผลสะเดา นำมาทำเป็นยาถ่ายพยาธิ แก้ท้องบิดมูกเลือด เป็นยาระบาย และแก้โรคหัวใจเต้นผิดปกติ

- ยางสะเดา ช่วยดับพิษร้อน ถอนพิษไข้

- น้ำมันจากเมล็ดสะเดา หรือ margosa oil ช่วยแก้โรคผิวหนัง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสะเดาจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่ใช่ยาครอบจักรวาลที่จะรักษาโรคต่างๆ ได้หายเป็นปลิดทิ้ง หากลองทานดูแล้วอาการต่างๆ ยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์มากกว่า และหากเป็นหญิงมีครรภ์ หรือมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน กระเพาะ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน เพื่อไม่ให้อาการของโรคแย่ลง