5 วิธีแก้อาการท้องผูก กระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานคล่องแบบง่ายๆ


อาการท้องผูก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารในแบบผิดๆ และการอั้นอุจจาระบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดอาการท้องผูกเช่นกัน วันนี้เราเลยมีวิธีแก้อาการท้องผูกมาฝาก อยากให้ระบบการขับถ่ายทำงานคล่องปร๋อ มาดูกันเลยนะคะว่าควรทำอย่างไร

1.ดื่มน้ำให้มากเพียงพอ
ควรดื่มน้ำให้มากเพียงพอต่อความต้องการร่างกายในแต่ละวัน โดยดื่มอยู่ที่ประมาณ 8-10 แก้ว เพราะน้ำจะทำให้อุจจาระเกิดความนิ่มหรืออ่อนตัว ทำให้ง่ายต่อการขับเคลื่อนตัวออกไปยังลำไส้ใหญ่และทำให้ขับถ่ายสะดวกนั่นเอง ที่สำคัญการดื่มน้ำให้พอยังช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนและน้ำอัดลม เพราะเป็นเครื่องดื่มที่จะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น และทำให้ง่ายต่อการท้องผูกยิ่งขึ้นด้วย

2.กินไฟเบอร์ให้เพียงพอ
อาหารที่มีไฟเบอร์ แน่นอนว่าจะต้องเป็นผักและผลไม้ ซึ่งไฟเบอร์นี่เองที่จะทำให้อุจจาระเกิดความอ่อนตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทานมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ควรทานในปริมาณเหมาะสม ซึ่งปกติแล้ว ร่างกายต้องการไฟเบอร์อยู่ที่ 30 กรัมเท่านั้น


3.ออกกำลังกายเป็นประจำ
รู้หรือไม่ว่าเพียงแค่หมั่นออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เป็นประจำ ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นไปได้ดีขึ้น ตลอดจนระบบย่อยอาหารและระบบการขับถ่าย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้เป็นอย่างดี แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที แม้ว่าจะไม่มีเวลาไปออกกำลังกายก็อาจจะหาเวลาเดินตอนหลังเลิกงาน ทำท่ากายบริหารหรือทำงานบ้านก็ได้ค่ะ

4.เมื่อปวดท้องขับถ่าย ควรรีบเข้าห้องน้ำทันที
หากเกิดอาการปวดท้องเพื่อขับถ่ายอุจจาระ แนะนำว่าไม่ควรกลั้นอาการปวดไว้ ควรรีบเข้าห้องน้ำในทันที เพราะหากยิ่งกลั้นอุจจาระบ่อยๆ จะยิ่งทำให้อุจจาระไหลย้อนกลับขึ้นไปยังลำไส้ใหญ่ ทำให้ขับถ่ายลำบากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นอาการท้องผูกตามมา ดังนั้น ทางที่ดี ควรฝึกขับถ่ายให้ตรงเวลาทุกวัน ซึ่งเวลาในการขับถ่ายจะอยู่ที่ 05.00-07.00 น. นี่คือช่วงเวลาที่ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีที่สุด หากสาวๆ ตื่นมาเข้าห้องน้ำช่วงเวลานี้ล่ะก็ รับรองระบบขับถ่ายจะทำงานคล่องตัวยิ่งขึ้นแน่นอน

5.ไม่ควรกินยาระบาย
เมื่อมีอาการท้องผูก การกินยาระบายอาจจะก่อให้เกิดผลดีในช่วงแรกๆ แต่หากกินบ่อยเข้าแน่นอนว่าประสิทธิภาพของยาอาจจะลดลงได้ เนื่องจากยาระบายจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้ หากได้รับการกระตุ้นบ่อยครั้งเข้า ก็จะส่งผลทำให้เกิดความชินหรือเกิดอาการดื้อยาตามมา และก็จะเกิดอาการท้องผูกขึ้น หากไม่ทานยาระบาย ซึ่งหากต้องการใช้ยาระบายก็อาจจะไม่ได้ผล จนต้องใช้ยาที่ออกฤทธิ์รุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ รู้แบบนี้แล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้งจะดีที่สุด
นอกจากคำแนะนำเบื้องต้นแล้ว สาวๆ ไม่ควรเครียดอย่างเด็ดขาด เพราะความเครียดนอกจากจะส่งผลยังด้านจิตใจแล้วยังมีผลต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้อีกด้วย โดยจะส่งผลทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนและอาจทำให้การทำงานของลำไส้รวนตามไปด้วยก็เป็นได้ ดังนั้น หันมากินผักผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายเป็นประจำและทำใจให้สบายดีกว่า เพียงแค่นี้ก็จะช่วยรับมืออาการท้องผูกได้อยู่หมัดมากขึ้นแล้วค่ะ


ขอขอบคุณ
ภาพ :iStock