ทำไมบางคนถึงหลับทันทีหลังเสร็จกิจ ? ไปหาคำตอบที่น่าสนใจกันดีกว่า

ไขคำตอบที่ใครหลายคนสงสัยว่าทำไมคู่รักต้องหลับทันทีหลังมีเซ็กส์ แม้ว่าจะมีเซ็กส์ที่แซ่บสุด ๆ ก็ตาม

          เชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องเคยหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่คู่รักของตัวนอนหลับทันทีหลังเผด็จศึกรักเสร็จ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่นำไปสู่การมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงได้ แต่อย่าไปโทษพวกเขาหรือเธอดีกว่า เพราะบางทีพวกเขาอาจเพลียจนหลับหรือมีเหตุผลอื่น ๆ ที่เราไม่รู้ก็เป็นได้

          เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 เว็บไซต์ dailymail ได้เผยถึงผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอนเนคติกัต (University of Connecticut) ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทำให้ผู้ชายไม่อยากคุยกับคนรักหลังมีเซ็กส์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวบุคคลแต่อย่างใด


          สำหรับผลการศึกษาครั้งนี้เป็นของทีมงานนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอนเนคติกัตที่ให้กลุ่มอาสาสมัครทั้งเพศชายและหญิงจำนวน 253 คน มาทดสอบเพื่อหาคำตอบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกับการสนทนาหลังมีเซ็กส์ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร

เซ็กส์

          โดยกลุ่มอาสาสมัครต้องให้ตัวอย่างน้ำลายของตัวเองกับทีมนักวิจัย ซึ่งเผยให้เห็นถึงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในแต่ละคน จากนั้นให้กลุ่มอาสาสมัครเขียนไดอารี่ออนไลน์เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศของตัวเองและการสื่อสารกับคู่รักหลังมีเซ็กส์เป็นเวลานาน 2 สัปดาห์

          จากการทดลองดังกล่าว ได้ผลสรุปว่า กลุ่มอาสาสมัครทั้ง 2 เพศ พบว่ามีความต้องการที่จะคุยกับคู่รักของตนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากเกินไป ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขามองว่าการสนทนาหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไร แถมเสี่ยงต่อการหลุดปากพูดถึงความลับของตัวเองที่ไม่อยากให้ใครรู้ออกไป แต่ถ้าได้คุยกัน ก็จะเต็มไปด้วยเรื่องราวในเชิงลบแทน พวกเขาจึงตัดปัญหาด้วยการนอนหลับในทันที

          อย่างไรก็ดี ทีมนักวิจัยบอกว่า กลุ่มอาสาสมัครที่ถึงจุดสุดยอดจะพูดคุยกับคู่รักของตัวเองหลังจากมีเซ็กส์ได้แบบชิล ๆ แม้ว่าจะมีฮอร์โมนดังกล่าวต่ำก็ตาม ซึ่งจุดนี้เป็นประโยชน์ต่อการสานความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น เพราะทำให้รู้ถึงว่าความพึงพอใจของอีกฝ่ายและช่วยให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยของ ดร.ปีเตอร์ บอส จาก Utrecht University พบว่า ผู้หญิงสามารถรับรู้ในเรื่องของความรู้สึกได้ดีกว่าผู้ชาย เพราะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทำปฏิกิริยาบางอย่างกับสมองของผู้หญิงนั่นเอง

ข้อมูลจาก dailymail, bps, sagepub, telegraph