เช็คลิสต์! 4พฤติกรรม เสี่ยงเป็นโรคข้อเสื่อม...ไม่รู้ตัว!!

 โรคข้อเข่าเสื่อม โรคที่หลายคนมักคิดว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุ วัย40+ ขึ้นไป และคงไม่เกิดขึ้นกับเราแน่เพราะยังไม่ถึงวัย? แต่ใครจะคิดว่าเราอาจเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากยังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่

- ทำงานที่ใช้ข้อเข่า     อาการข้อเข่าเสื่อมมักพบกับกลุ่มคนที่ใช้แรงงานเข่ามากเกินไป การแบกของหนักขึ้นบันได รวมไปถึงท่านั่งที่ใช้ข้อเข่า เช่น การคุกเข่า นั่งพับเพียบ หรือการนั่งยองๆ เป็นเวลานาน



- ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ      สำหรับผู้หญิง “รองเท้าส้นสูง” ถือเป็นของคู่กายสำหรับคนที่อยากมีขาเรียวยาว แต่การใส่รองเท้าส้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียในระยะยาว ไม่ว่าจะปวดขา ปวดหลัง และลามไปจนถึงข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากการใส่ส้นสูงนานๆ จะต้องคอยเกร็งกล้ามเนื้อและยืนเขย่งตลอดเวลา จะทำให้เกิดการกดทับและรับน้ำหนักข้อเข่ามากกว่าปกติซึ่งเป็นสาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

- ผู้ที่ออกกำลังกายหนักๆ เป็นประจำ      นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายแล้วได้รับบาดเจ็บ แล้วรักษาไม่ถูกวิธี รวมถึงคนออกกำลังที่ใช้แรงข้อมากๆ เช่น การวิ่ง กระโดดเชือก หรือแม้แต่เต้นแอโรบิกที่ต้องมีการกระโดด ก็ทำให้ส่งผลเสียต่อกระดูกข้อต่อได้เช่นกัน ดังนั้นควรวอร์ม หรือยืดหยุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย และลดท่าออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่างๆ ลง

- มีน้ำหนักมากเกินไป     ปัญหาน้ำหนักตัวที่มีมากเกินไปนั้น ทำให้ข้อเท้าและข้อเข่ารับน้ำหนักมากตามไปด้วย อีกทั้งการเดิน วิ่ง ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดข้อเสื่อมได้เร็วขึ้นกว่าเดิม


     ป้องกันข้อเข่าเสื่อมแบบง่ายๆ ด้วยเพิ่มการเพิ่มแคลเซียมให้กระดูก ออกกำลังกายที่ลดแรงกระแทก เช่น โยคะ ว่ายน้ำ และทานคอลลาเจนไทพ์ทู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

     “คอลลาเจนไทพ์ทู” ต่างจากคอลลาเจนทั่วไปยังไง?
     คอลลาเจนไทพ์ทูมักพบในเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ซึ่งต่างจาก คอลลาเจนไทพ์ 1, 3 และ 4 ที่พบในเซลล์ผิวหนัง

     ประโยชน์ของ “คอลลาเจนไทพ์ทู” คือ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของส่วนประกอบที่อยู่ในข้อ โดยกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มระดับของ กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ และยังยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ ช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดได้

     สุดท้ายอยากจะบอกทุกคนว่า ถึงแม้โรคข้อเข่าเสื่อมจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่ก็สามารถทำให้ชีวิตเราสะดุดได้ เพราะคนส่วนใหญ่มักละเลยและคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ดังนั้นควรดูแลตัวเองให้ดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เคลื่อนไหวได้ตามต้องการ