ขนมฟักทอง เนื้อนุ่มละมุน หอมอร่อย ทำเปิดร้านได้
ขนมโบราณขนมฟักทองที่เราจะเห็นว่ามีอยู่ตามตลาดนัดทั่วไป ห่อด้วยใบตองหรือใส่ลงไปในถ้วยตะไล มีเนื้อที่มีความนุ่มเนียนมีความละมุนมีกลิ่นหอมของฟักทองและมีรสชาติของความหวานมันที่กำลังดี โดยสูตรที่เรานำมาฝากทุกท่านกันในวันนี้เป็นสูตรที่จะสามารถเก็บเอาไว้ทำเปิดร้านสร้างเป็นอาชีพได้เลย เราบอกหมดในทุกๆขั้นตอน ทั้งในส่วนผสมปริมาณวิธีการทำทุกขั้นตอน เมื่อพร้อมแล้วเราตามเมนูด้านล่างนี้กันเลย วิธีการทำนั้นไม่ได้ยากอย่างที่ใครหลายคนคิดเอาไว้
สิ่งที่ต้องเตรียม
1 ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้น ๆ)
2 แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
3 แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
4 มะพร้าวขูด 50 กรัม
5 น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
6 เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
7 กะทิ 1 ถ้วย
8 ถ้วยตะไลสำหรับ นึ่ ง
ขั้นตอนการทำ
1 ฟักทองที่ได้เตรียมเอาไว้นำไปล้างให้สะอาดดี จากนั้นมาหั่นแล้วไปนึ่ งจนสุกดีบนน้ำเดือด เมื่อสุกให้ปิดไฟ พีกฟักทองเอาไว้ให้เย็นสนิท
2 แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันเทใส่ลงไปในฟักทองที่เย็นสนิทดี แล้วจากนั้นทำการนวดให้เข้ากันดีไม่ให้เป็นก้อน ตามด้วยการใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย เกลือป่นลงไปเล็กน้อย และนวดต่อให้เข้ากัน
3 เติมน้ำกะทิที่เตรียมเอาไว้ใส่ลงไปแล้วทำการคนผสมให้เข้ากันดีจนน้ำตาลทรายละลายจนหมด
4 ถ้วยตะไลวางเรียงใส่บนลังนึ่ ง ให้ถ้วยมีความร้อนได้ที่ จากนั้นตักส่วนผสมที่ได้ใส่ลงไปในถ้วยตะไลประมาณ 3 ส่วน 4 ของถ้วย โรยหน้าก้วยมะพร้าวขูดหากชอบ นำไปนึ่ งบนน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาทีจนกว่าตัวแป้งจะสุก ให้สังเกตดูว่าเมื่อแป้งสุกแล้วจะมีสีที่ใสขึ้น เมื่อสุกดีแล้วให้ยกลงจากเตาพักเอาไว้ให้คลายความร้อนแล้วค่อยแคะขนมออกจากถ้วย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับความอร่อยที่น่ารู้ไว้
สำหรับใครที่อยา กจะทำให้เมนูขนมฟักทองนี้เป็นรูปแบบไ ท ยมากขึ้น จะใช้วิธีการนึ่ งด้วยกรวยใบตอง โดยให้นำใบตองมาเช็ดทำความสะอาด เจียดใบตองให้เป็นลักษณะวงกลมแล้วทำการม้วนเป็นทรงกรวยเล็กๆ จากนั้นเอาไม้มากลัดแล้วตักขนมฟักทองใส่ลงไป 3 ส่วน 4 ของกรวย นำไปเสียบในช่องแบบเว้นช่อง แล้วทำการนึ่ งให้สุก เพียงเท่านี้ก็เป็นอันนึง
ขนมฟักทองเป็นขนมโบราณที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาและรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยตัวรสชาติที่มีความอร่อย ตัวเนื้อที่มีความนุ่มหนึบหนับ เมื่อใครได้ชิมก็เป็นต้องถูกใจและชื่นชอบในรสชาติที่ได้กันอย่างแน่นอน ลองนำสูตรนี้ไปทำตามกันดูได้ ขั้นตอนไม่ยากส่วนผสมไม่ยาก แต่รสชาติที่ออกมานั้นอร่อยถูกใจกันทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก : khaoza