ลุงสอนเทคนิคปลูกหม่อนง่ายๆ ให้ผลเยอะ เก็บกินได้ตลอดทั้งปี
สำหรับในวันนี้ลุงจะมาสอนในการปลูกหม่อน หรือที่เรียกว่าลูกมัลเบอร์รี่
นอกจากรสชาติที่มีความเปรี้ยวหวานกลมกล่อมแล้วนั้น
ยังมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพของเรามาก
ทั้งช่วยในเรื่องของการลดระดับน้ำตาลในโลหิตได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
ลดในเรื่องความดันที่เกี่ยวข้องกับโลหิต บำรุงเรื่องของการมองเห็น สายตา และมีการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องของระบบหลอดโลหิตอุดตัน
ประโยชน์มากมายขนาดนี้ไม่หามากินไม่ได้แล้ว โดยราคาของตลาดมัลเบอร์รี่ก็จะอยู่ประมาณ 130 ถึง 250 บาทต่อกิโลกรัม
การปลูกมัลเบอร์รี่นั้นควรเริ่มต้นจากการหาพันธุ์ในบ้านเรา
เพราะว่าหลายพันธ์ที่นิยมปลูกในบ้านเราจะทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี
อย่างเช่นพันธุ์กำแพงแสน บุรีรัมย์ และเชียงใหม่
โดยสารประเภทนี้เหมาะกับการปลูก เพราะทนต่อสภาพภูมิอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
วิธีปลูกต้นหม่อนกินผลสด
1 เตรียมต้นหม่อนที่จะปลูก (สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ พันธ์ไม้ต่างๆ หรืออาจทำการปักชำเองก็ได้ ถ้ามีต้นหม่อน)
2 ระยะปลูก ปลูกเป็นแถว แต่ละต้นห่างกัน 4 เมตร
เพื่อเผื่อรัศมีทรงพุ่มไว้อย่างน้อย 2.00 เมตร
หรือจะปลูกในแปลงพื้นที่สี่เหลี่ยมด้วยระยะปลูก 4.00 x 4.00 เมตรก็ได้
3 การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมลึก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร
รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 10 กิโลกรัมต่อหลุม
ใส่ปูนโดโลไมท์หรือปูนขาว ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อหลุม และปุ๋ย สูตร 15-15-15
อัตรา 250 กรัมต่อหลุม หรือจะให้แม่นยำต้องใส่ตามค่าการวิเคราะห์ดิน
คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วกลบหลุมด้วยหน้าดินให้พูนเล็กน้อย
4 ขุดดินบนหลุมที่เตรียมไว้ให้ลึกพอประมาณ แล้วนำต้นหม่อนที่เตรียมไว้ลงปลูก กลบดินให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
ต้นมัลเบอร์รีให้ผลผลิตได้เต็มที่เมื่อมีอายุครบ 2 ปี
ซึ่งระหว่างนั้นเราควรที่จะบำรุงรักษาด้วยการใส่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยสูตรอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าต้นมัลเบอร์รีมีความสมบูรณ์จะให้ผลผลิต ประมาณ 1.5-35
กิโลกรัมหรือประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้นเลยทีเดียว
เทคนิคเพิ่มเติมในการปลูกหม่อนให้ได้ผลผลิตดี การบังคับทรงต้น
ต้นหม่อนที่ปลูกจากกิ่งชำชนิดล้างราก หรือชนิดชำถุง
หรือปลูกด้วยท่อนพันธุ์จากกิ่งพันธุ์โดยตรง
เมื่อต้นหม่อนเจริญเติบโตได้ประมาณ 6-12 เดือน
จะต้องบังคับทรงพุ่มโดยตัดแต่งกิ่งให้เหลือเพียงกิ่งเดียวไว้เป็นต้นตอ
มีความสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร จากพื้นดิน
ปล่อยให้หม่อนแตกกิ่งใหม่หลายๆกิ่ง เก็บกิ่งที่สมบูรณ์ไว้
กิ่งที่ไม่สมบูรณ์ให้ตัดทิ้งเพื่อให้ด้านล่างโปร่ง
ง่ายต่อการปฏิบัติดูแลรักษา เช่น การจัดการวัชพืช การใส่ปุ๋ย การพรวนดิน
การตัดแต่งกิ่งแขนงและการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น
อนึ่งสำหรับหม่อนที่ปลูกในปีแรกๆ ลำต้นและระบบรากยังเจริญเติบโตไม่มาก
อาจจะหักล้มได้ง่าย ดังนั้นจะต้องทำการยึดลำต้นไว้ด้วยไม้
หรือไม้ไผ่ให้แน่นหนา
การใส่ปุ๋ย
ในปีที่ 2
ให้ใส่ปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ตามการวิเคราะห์ความต้องการปูนขาวของดินเพิ่ม
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15
อัตรา 250 กรัมต่อต้น
การให้น้ำ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้น้ำหม่อนในระยะที่หม่อนติดผลแล้ว
(โดยปกติจะมีฝนหลงฤดูหรือฝนชะช่อมะม่วงผ่านเข้ามา
จะทำให้ต้นหม่อนแตกตาติดดอก ถ้าไม่มีฝนหลงฤดู หลังโน้มกิ่ง รูดใบ
ต้องให้น้ำกระตุ้นการแตกตาแทนน้ำฝน)
หากขาดน้ำจะทำให้ผลหม่อนฝ่อก่อนที่จะสุก หรือทำให้ผลหม่อนมีขนาดเล็ก
การตัดแต่งกิ่งและการดูแลรักษาทรงพุ่ม
ตัดเฉพาะกิ่งแขนงที่ไม่สมบูรณ์และเป็นโรคทิ้ง เพื่อลดการสะสมโ ร
คและพวกแมงต่างๆ
การบังคับให้หม่อนติดผลนอกฤดูกาล
ใช้วิธีการบังคับต้นหม่อน เพื่อให้ได้ผลผลิตผลหม่อนในระยะเวลาที่ต้องการ มีวิธีการดังต่อไปนี้
1) ทำการโน้มกิ่งหม่อนที่ปลูกแบบทรงพุ่ม
โดยการโน้มกิ่งให้ปลายยอดขนานกับพื้น หรือโน้มลงพื้นดิน
รูดใบหม่อนออกให้หมด พร้อมทั้งตัดยอดส่วนที่เป็นกิ่งสีเขียวออกยาวประมาณ 30
เซนติเมตร ใช้เชือกผูกโยงติดไว้กับหลักไม้ไผ่
ซึ่งปักไว้บนพื้นดินสำหรับยึดเชือกไว้
2) หลังการโน้มกิ่ง 8-12 วัน ดอกหม่อนจะแตกออกพร้อมใบ
จากนั้นจะมีการพัฒนาการของ ผลหม่อน โดยผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาว
สีชมพู สีแดง และสีม่วงดำ ตามลำดับ โดยใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน
ผลจะเริ่มแก่และสุก
สามารถเก็บไปรับประทานสดหรือนำไปแปรรูปได้ มีระยะเวลาในการเก็บผลประมาณ
30 วันต่อต้น เพราะผลหม่อนจะทยอยสุก เนื่องจากออกดอกไม่พร้อมกัน
เมื่อต้นหม่อนมีอายุตั้งแต่ 2 ปี เป็นต้นไปจะให้ผลผลิตผลหม่อนประมาณ 1.5-35
กิโลกรัม(ประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้น)
เพียงพอต่อการบริโภคผลสดทั้งครอบครัวทุกวัน ตลอดปี ซึ่งร่างกายต้องการวันละ
10-30 ผลเท่านั้น
อีกทั้งยังมีผลหม่อนสดไว้แปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้อีกหลายชนิด เช่น น้ำหม่อน แยมหม่อน เชอเบทหม่อน ฯลฯ
เห็นไหมว่า การปลูกหม่อนนั้นไม่ยากเลย แถมยังเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
ไม่ต้องประคบประหงมมากมาย
แต่ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปีจากต้นที่โตเต็มที่
ลองนำวิธีที่ดีๆแบบนี้ไปใช้กันดูนะคะ
เรียบเรียงโดย : Postsara