ความเครียดอาจเป็นเรื่องธรรมดาของหลายคน
แต่บางคนมีอาการเครียดร่วมกับมีความเซ็ง ๆ เบื่อชีวิต รู้สึกไม่อยากทำอะไร
ไม่อยากไปไหน
จนกังวลเหลือเกินว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้จะเสี่ยงโรคทางจิตเวชอย่างโรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวลอะไรสักโรคหรือไม่ งั้นจะรออะไร ลองมาเช็กสัญญาณผู้ป่วยจิตเวชกันเถอะ !
ถ้าพูดถึงคำว่า โรคจิต
จะหมายถึงความเจ็บป่วยทางสมองชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความคิดที่ผิดไปจากความเป็นจริง
เช่น มีอาการประสาทหลอน ได้ยินเสียงแว่ว หรือมีความคิดว่าจะถูกทำร้ายทั้ง ๆ
ที่ความจริงไม่มีใครจะมาทำร้าย
เรียกได้ว่าอาจตกอยู่ในสภาวะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยก็ว่าได้
ทว่าสำหรับโรคทางจิตเวชแล้วหมายรวมไปถึงอาการผิดปกติทางจิตใจอันเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติไป แต่ยังไม่มากเท่าอาการของโรคจิต
กล่าวคือ ผู้ป่วยโรคจิตเวชอาจมีอาการเก็บตัว วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ
มีกระบวนการความคิดที่ผิดแปลกไป หรือมีภาวะที่ผิดปกติไปจากเดิม
แต่ยังมีสติรู้ตัวอยู่พอสมควรนั่นเองค่ะ
ทั้งนี้โรคจิตเวชหลาย ๆ โรคก็มีอาการที่แตกต่างและมีความรุนแรงที่ต่างกันด้วย แต่อย่างไรก็ตาม อาการป่วยทางจิตเวชก็พอจะมีสัญญาณที่พอสังเกตอาการได้ในเบื้องต้นเช่นกัน ดังนั้นใครที่กำลังมีพฤติกรรมน่าสงสัย ลองเช็กอาการดูสิ
ทั้งนี้โรคจิตเวชหลาย ๆ โรคก็มีอาการที่แตกต่างและมีความรุนแรงที่ต่างกันด้วย แต่อย่างไรก็ตาม อาการป่วยทางจิตเวชก็พอจะมีสัญญาณที่พอสังเกตอาการได้ในเบื้องต้นเช่นกัน ดังนั้นใครที่กำลังมีพฤติกรรมน่าสงสัย ลองเช็กอาการดูสิ
สัญญาณเตือนป่วยโรคทางจิตเวช เช็กซิเราเข้าข่ายไหม
อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยจิตเวช หรือคนที่เข้าข่ายมีความผิดปกติทางจิตใจ อาจสังเกตได้ ดังนี้
1. แยกตัวออกจากสังคม มีพฤติกรรมเก็บตัวมากกว่าปกติ
2. เหม่อลอยบ่อย ๆ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง อาจมีลักษณะถามอย่างตอบอย่าง เป็นต้น
3. ความคิดไม่ปะติดปะต่อ
4. พูดจาผิดแปลกไป อาจมีการพูดภาษาแปลก ๆ คำศัพท์แปลก ๆ ออกมา
5. ยิ้ม หัวเราะโดยไม่มีเหตุผล หรือมีอาการซึม เฉยเมย ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยจิตเวช หรือคนที่เข้าข่ายมีความผิดปกติทางจิตใจ อาจสังเกตได้ ดังนี้
1. แยกตัวออกจากสังคม มีพฤติกรรมเก็บตัวมากกว่าปกติ
2. เหม่อลอยบ่อย ๆ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง อาจมีลักษณะถามอย่างตอบอย่าง เป็นต้น
3. ความคิดไม่ปะติดปะต่อ
4. พูดจาผิดแปลกไป อาจมีการพูดภาษาแปลก ๆ คำศัพท์แปลก ๆ ออกมา
5. ยิ้ม หัวเราะโดยไม่มีเหตุผล หรือมีอาการซึม เฉยเมย ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
6. นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกิน
7. ขาดการดูแลตัวเอง ไม่ใส่ในหน้าตา การแต่งตัว การรักษาสุขอนามัย
8. ขาดสมาธิ ขาดความสนใจในสิ่งรอบตัว หลงลืม
9. เห็นภาพหลอน เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น และเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นอย่างจริงจัง
10. หูแว่ว ได้ยินเสียงในหู หลอนว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ
11. มีพฤติกรรมผิดปกติจนไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่สามารถไปเรียน ทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ขาดงาน ขาดเรียน เรียกได้ว่าประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ต้องมีอาการอย่างน้อย 3 อาการขึ้นไป โดยอาการที้เป็นต้องเป็นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน ถึงจะวินิจฉัยได้ว่ามีความผิดปกติและควรไปพบจิตแพทย์นะคะ
ทว่าหากใครมีความกังวลในการพบจิตแพทย์ แนะนำให้โทร. ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตเพื่อรับคำแนะนำในเบื้องต้นก่อนก็ได้ ที่เบอร์ 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
7. ขาดการดูแลตัวเอง ไม่ใส่ในหน้าตา การแต่งตัว การรักษาสุขอนามัย
8. ขาดสมาธิ ขาดความสนใจในสิ่งรอบตัว หลงลืม
9. เห็นภาพหลอน เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น และเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นอย่างจริงจัง
10. หูแว่ว ได้ยินเสียงในหู หลอนว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ
11. มีพฤติกรรมผิดปกติจนไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่สามารถไปเรียน ทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ขาดงาน ขาดเรียน เรียกได้ว่าประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ต้องมีอาการอย่างน้อย 3 อาการขึ้นไป โดยอาการที้เป็นต้องเป็นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน ถึงจะวินิจฉัยได้ว่ามีความผิดปกติและควรไปพบจิตแพทย์นะคะ
ทว่าหากใครมีความกังวลในการพบจิตแพทย์ แนะนำให้โทร. ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตเพื่อรับคำแนะนำในเบื้องต้นก่อนก็ได้ ที่เบอร์ 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลศรีธัญญา
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา
กรมสุขภาพจิต