อาการท้องผูก (Constipation)
เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย
ทั้งยังเป็นภาวะอาการที่รบกวนวิถีชีวิตไม่น้อยเลยที่เดียว เพื่อนๆ
ที่เคยประสบปัญหาดังกล่าวก็คงจะเข้าใจความลำบากนี้กันเป็นอย่างดี
การขับถ่ายไม่เป็นกิจวัตร หรือขับถ่ายน้อยกว่า 3
ครั้งต่อสัปดาห์เป็นสาเหตุพื้นฐานที่ทำให้ร่างกายของเราประสบกับอาการท้องผูก และยังมีอาการปวดท้อง หน้าท้องบวม อุจจาระแข็ง และความรู้สึกอึดอัดในร่างกายร่วมด้วย Thaiza
จึงมีเคล็ดลับทางเลือกดีๆ ในการรักษาและบรรเทาอาการท้องผูกจากสมุนไพรทั้ง 5
ชนิดมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ
อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายในรูปแบบของยาที่สกัดมาจากสมุนไพร
ถ้าอยากรู้แล้วว่าสมุนไพรแต่ละชนิดคืออะไรบ้างก็ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ!
1.Cascara sagrada (buckthorn)
มาเริ่มต้นกันที่สมุนไพรชนิดแรกที่มีชื่อเรียกยากไปสักหน่อย ซึ่งเจ้า Cascara sagrada หรือบัคธอร์น (buckthorn) ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายชั้นเยี่ยม สกัดได้จากเปลือกไม้ของต้นบัคธอร์น (buckthorn) เมื่อรับประทานสมุนไพรชนิดนี้เข้าไปก็จะช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือขับถ่ายได้ดี แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้รู้สึกปวดท้องและเกิดภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุลได้ค่ะ
2. Psyllium
Psyllium หรือไซเลียม เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายและอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร (fiber) ทำให้อุจจาระไม่แข็งจนเกินไปขับถ่ายได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้รวมกับสมุนไพรยาระบายอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรัง แต่อย่าลืมว่าไม่ควรทานหรือนำมาใช้เป็นยาระบายบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง หรือเกิดอาการแพ้ได้
3.Rhubarb
เดิมที Rhubarb หรือรูบาร์บเป็นพืชผักที่นิยมนำมาทำเป็นของหวาน เช่นพาย แต่คุณประโยชน์ของมันยังมีมากกว่านั้น เพราะเจ้ารูบาร์บก็มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เช่นเดียวกัน ในรูบาร์บยังพบสารแทนนิน (tannin) ที่มีฤทธิ์เป็นยาสมาน ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงท้องเสียได้ดี
4.Senna, Senokot
Senna หรือมะขามแขก สมุนไพรที่คุณผู้อ่านน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมักจะนำมาใช้รับประทานเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่ายและบรรเทาอาการท้องผูกกันอย่างแพร่หลาย เราสามารถทำมะขามแขกมารับประทานได้หลายส่วน แต่ผลจะเป็นส่วนที่ทานได้ง่าย และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เพื่อนๆ สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ยามะขามแขกได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป แต่ควรรับประทานในปริมาณน้อยและรับประทานเมื่อเกิดอาการท้องผูกเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นยาลดความอ้วนนะคะ
5.Slippery elm
Slippery elm หรือสลิปเปอรี่ เอล์ม คือสมุนไพรแก้โรคท้องผูกที่สามารถสกัดได้จากเปลือกไม้ของลำต้น อาจเป็นชื่อที่เราไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไหร่นักเพราะยังไม่เป็นที่นิยมในบ้านเรา แต่สรรพคุณของเจ้าสลิปเปอรี่ เอล์มนั้นเด็ดไม่แพ้สมุนไพรอื่นๆ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นเลยทีเดียวค่ะ โดยจะมีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทในทางเดินอาหาร (gastrointestinal (GI) tract) เพื่อผลิตสารหล่อลื่นระหว่างขับถ่าย ทำให้อาการท้องผูกค่อยๆ ทุเลาลง
จากสมุนไพรแต่ละชนิดที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ล้วนแต่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่เป็นมิตรกับระบบขับถ่ายของเรา แต่ยังไงก็ตาม เพื่อนๆ ควรรับประทานในกรณีที่เกิดอาการท้องผูกเท่านั้น และไม่ควรนำมารับประทานเป็นยาลดน้ำหนัก
อีกหนึ่งทางเลือกง่ายๆ สำหรับการบำรุงระบบขับถ่ายก็คือการเลือกรับประทานอาหารประเภทธัญพืช (Whole grains) และอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์เพื่อให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสในการเกิดโรคท้องผูกอีกด้วย แต่สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหากับโรคท้องผูก มีอาการถ่ายเป็นเลือด ปวดท้องอย่างรุนแรง หน้าท้องบวมผิดปกติ แต่น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องนะคะ
Sources: www.healthline.com
www.greenclinic.in.th
1.Cascara sagrada (buckthorn)
มาเริ่มต้นกันที่สมุนไพรชนิดแรกที่มีชื่อเรียกยากไปสักหน่อย ซึ่งเจ้า Cascara sagrada หรือบัคธอร์น (buckthorn) ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายชั้นเยี่ยม สกัดได้จากเปลือกไม้ของต้นบัคธอร์น (buckthorn) เมื่อรับประทานสมุนไพรชนิดนี้เข้าไปก็จะช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือขับถ่ายได้ดี แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้รู้สึกปวดท้องและเกิดภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุลได้ค่ะ
2. Psyllium
Psyllium หรือไซเลียม เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายและอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร (fiber) ทำให้อุจจาระไม่แข็งจนเกินไปขับถ่ายได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้รวมกับสมุนไพรยาระบายอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรัง แต่อย่าลืมว่าไม่ควรทานหรือนำมาใช้เป็นยาระบายบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง หรือเกิดอาการแพ้ได้
3.Rhubarb
เดิมที Rhubarb หรือรูบาร์บเป็นพืชผักที่นิยมนำมาทำเป็นของหวาน เช่นพาย แต่คุณประโยชน์ของมันยังมีมากกว่านั้น เพราะเจ้ารูบาร์บก็มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เช่นเดียวกัน ในรูบาร์บยังพบสารแทนนิน (tannin) ที่มีฤทธิ์เป็นยาสมาน ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงท้องเสียได้ดี
4.Senna, Senokot
Senna หรือมะขามแขก สมุนไพรที่คุณผู้อ่านน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมักจะนำมาใช้รับประทานเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่ายและบรรเทาอาการท้องผูกกันอย่างแพร่หลาย เราสามารถทำมะขามแขกมารับประทานได้หลายส่วน แต่ผลจะเป็นส่วนที่ทานได้ง่าย และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เพื่อนๆ สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ยามะขามแขกได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป แต่ควรรับประทานในปริมาณน้อยและรับประทานเมื่อเกิดอาการท้องผูกเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นยาลดความอ้วนนะคะ
5.Slippery elm
Slippery elm หรือสลิปเปอรี่ เอล์ม คือสมุนไพรแก้โรคท้องผูกที่สามารถสกัดได้จากเปลือกไม้ของลำต้น อาจเป็นชื่อที่เราไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไหร่นักเพราะยังไม่เป็นที่นิยมในบ้านเรา แต่สรรพคุณของเจ้าสลิปเปอรี่ เอล์มนั้นเด็ดไม่แพ้สมุนไพรอื่นๆ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นเลยทีเดียวค่ะ โดยจะมีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทในทางเดินอาหาร (gastrointestinal (GI) tract) เพื่อผลิตสารหล่อลื่นระหว่างขับถ่าย ทำให้อาการท้องผูกค่อยๆ ทุเลาลง
จากสมุนไพรแต่ละชนิดที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ล้วนแต่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่เป็นมิตรกับระบบขับถ่ายของเรา แต่ยังไงก็ตาม เพื่อนๆ ควรรับประทานในกรณีที่เกิดอาการท้องผูกเท่านั้น และไม่ควรนำมารับประทานเป็นยาลดน้ำหนัก
อีกหนึ่งทางเลือกง่ายๆ สำหรับการบำรุงระบบขับถ่ายก็คือการเลือกรับประทานอาหารประเภทธัญพืช (Whole grains) และอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์เพื่อให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสในการเกิดโรคท้องผูกอีกด้วย แต่สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหากับโรคท้องผูก มีอาการถ่ายเป็นเลือด ปวดท้องอย่างรุนแรง หน้าท้องบวมผิดปกติ แต่น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องนะคะ
Sources: www.healthline.com
www.greenclinic.in.th