1.Ginkgo Biloba
มาเริ่มต้นกันที่สมุนไพรชนิดแรกที่มีอายุยาวนานมาหลายสิบปีอย่าง Ginkgo Biloba หรือแปะก๊วยนั่นเองค่ะ คุณผู้อ่านหลายๆ ท่านอาจคุ้นตา และเคยได้ลิ้มรสของเมล็ดแปะก๊วยสีเหลืองอ่อนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วแปะก๊วยก็เป็นสมุนไพรที่ผู้คนนำมาใช้รักษาโรคต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสมองกับความจำ เนื่องจากในแปะก๊วยนั้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างflavonoids และ terpenoids ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณการไหลเวียนออกซิเจนไปที่สมอง และบำรุงเส้นประสาทส่วนสมองให้แข็งแรง อีกทั้งช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็ง และโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี
2.Rosemary
Rosemary หรือโรสแมรี่ ก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรอันเลื่องชื่อด้วยสรรพคุณ และประโยชน์อันมากมาย สำหรับการบำรุงสมองนั้น โรสแมรี่จะมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นและเสริมทักษะในการรับรู้ ทำให้เรามีสมาธิสามารถจดจำได้ดียิ่งขึ้น และลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปในตัว อีกทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของโรสแมรี่ก็ยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และมีอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
3.Ginseng
มาต่อกันที่อันดับสามอย่าง Ginseng หรือโสม สมุนไพรยอดนิยมติดอันดับต้นๆ ในการช่วยดูแลสุขภาพร่างกาย จากการศึกษาวิจัยพบว่า โสมมีฤทธิ์ในการรักษาสมดุลของอารมณ์ให้คงที่ ไม่ให้แปรปรวนได้ง่าย บำรุงการทำงานของระบบสมอง ทำให้คุณมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้าได้ดียิ่งขึ้น และผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบสมองยังได้เพิ่มเติมข้อมูลว่าต้นโสมนั้นสามารถนำไปสกัดเป็นยาต้านโรคอัลไซเมอร์ได้เช่นเดียวกัน และยังมีส่วนช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลาม
4.Peppermint
แล้วก็มาถึงสมุนไพรอันดับสุดท้ายอย่างเปปเปอร์มินต์ สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะตัว และเราเชื่อว่าเพื่อนๆ จะต้องรู้จักเจ้าเปปเปอร์มินต์กันอย่างแน่นอน เนื่องจากคุณประโยชน์ที่พบได้ในเปปเปอร์มินต์สามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เพราะในต้นเปปเปอร์มินต์นั้นเป็นแหล่งของสารไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrients) หรือสารพฤกษเคมีที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งตับอ่อน มะเร็งตับ และมะเร็งเต้านม ส่วนกลิ่นหอมสดชื่นของมันก็ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบสมอง ทำให้เราสามารถจดจำและรับรู้สิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงร่างกายและระบบสมองแล้ว การพักผ่อน และการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนะคะ เมื่อร่างกายของเราได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะสามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่ และมีพลังเต็มเปี่ยม พร้อมใช้งานในวันต่อไปอย่างแน่นอน
Sources: www.davidwolfe.com
www.thehealthy-food.com