ดอกไม้ต้านมะเร็ง ความลงตัวของธรรมชาติ กับสุขภาพดีแบบเน้น ๆ

สมุนไพรต้านมะเร็ง ใครว่าจะต้องเป็นพืชที่มีแต่สีเขียว ๆ เสมอไป ดอกไม้สีสันสวยงามที่เราเห็นผ่านตากันเป็นประจำก็ช่วยป้องกันมะเร็งได้ หากเพียงเลือกมารับประทานให้ถูกชนิด

          ดอกไม้ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้คือหนึ่งในสิ่งที่สามารถช่วยจรรโลงใจของเราได้ สีสันที่สดใสสวยงามนั้น เวลาที่ได้มองแล้วก็สามารถทำให้ความรู้สึกห่อเหี่ยว หรือแม้แต่อารมณ์ที่บูดบึ้งบรรเทาลง เป็นอาหารตาที่ดีเยี่ยม แต่ก็มีดอกไม้อีกหลากหลายชนิดเช่นเดียวกันที่ยังกลายมาเป็นอาหารรสชาติโอชา และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ดอกไม้ที่เราเห็นกันทั่วไปบางสายพันธุ์ซุกซ่อนคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพไว้อย่างมหาศาล จนทำให้เราต้องประหลาดใจ อย่างเช่นที่เราเก็บมาฝากในวันนี้ ซึ่งแต่ละชนิดมีการศึกษายืนยันแล้วว่าช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยามากมายจนต้องทึ่งเลยทีเดียว 


สมุนไพรต้านมะเร็ง

          จากการศึกษาของรองศาสตราจารย์ ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ หัวหน้าฝ่ายพิษวิทยาทางอาหาร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และทีมนักศึกษาปริญญาโทในหลักสูตรพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ ค้นพบว่า การรับประทานดอกไม้อย่าง หัวปลี ดอกขจร ดอกเข็ม ดอกแค ดอกบัว ดอกเฟื่องฟ้า ดอกโสน และดอกอัญชัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยมีการสันนิษฐานว่าเกิดจากสารบางชนิดในดอกไม้ ที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ป้องกันการถูกทำลายของเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหลายชนิด และป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ได้อีกด้วย อีกทั้งดอกไม้เหล่านี้ยังมีไฟเบอร์สูงสามารถช่วยในการขับถ่ายได้อีกด้วย แถมดอกไม้เหล่านี้เมื่อนำมาปรุงอาหารจนสุกแล้วสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) นี้ก็ยังไม่เสื่อมสลายไป และยังคงมีสรรพคุณครบถ้วนเช่นเดิม

          เห็นสรรพคุณเด็ดดวงของดอกไม้ทั้ง 8 ชนิดนี้แล้ว กระปุกดอทคอมเลยจะขอพาไปรู้จักประโยชน์เพิ่มเติมของดอกไม้เหล่านี้ ที่ยังมอบสิ่งดี ๆ ให้กับสุขภาพของเราอีกหลายขนาน ดังนี้ค่ะ


หัวปลี

หัวปลี

          หัวปลี หรือส่วนช่อดอกของต้นกล้วย เป็นอีกส่วนหนึ่งของกล้วยที่เรานิยมนำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลาย เนื่องจากเจ้าหัวปลีนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยยับยั้งการกลายพันธุ์ของเซลล์ไม่ให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง แต่ยังมีแร่ธาตุและวิตามินที่เหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม และวิตามินอี อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูง และแคลอรีไม่สูงจนเกินไปอีกด้วย

          นอกจากนี้หัวปลียังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย เช่น รักษาอาการอักเสบต่าง ๆ ช่วยสมานบาดแผล อีกทั้งหัวปลีก็ยังช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า และช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วย เนื่องจากในหัวปลีมีแมกนีเซียมสูง อันเป็นแร่ธาตุตัวสำคัญที่สามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ต่อสุขภาพ และสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การรับประทานหัวปลีในปริมาณที่พอเหมาะก็ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ รวมทั้งสารอาหารในหัวปลียังจะไปสร้างเสริมฮีโมโกลบินในร่างกาย อันเป็นผลดีต่อคนที่เป็นโรคโลหิตจางอีกด้วย

          แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นสรรพคุณที่โดดเด่นที่สุดของเจ้าหัวปลีรองจากต้านมะเร็งและมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากแล้วนั้น ก็คงจะเป็นสรรพคุณที่ช่วยบำรุงเพศหญิงนี่ล่ะค่ะ เพราะเจ้าหัวปลีนี้ หากคุณผู้หญิงรับประทานเข้าไปในช่วงมีประจำเดือนก็สามารถบรรเทากลุ่มอาการ PMS ได้ โดยเฉพาะคนที่มีประจำเดือนมากผิดปกติ การรับประทานหัวปลีจะช่วยให้ประจำเดือนลดลงจนเป็นปกติ สร้างเสริมฮอร์โมนโปรเจสโตโรน (Progesterone) ในร่างกายคุณสาว ๆ ให้อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ขณะที่คุณสาว ๆ ที่เพิ่งคลอดบุตรและอยู่ในช่วงให้นมบุตร การกินหัวปลีจะสามารถทำให้มีน้ำนมเพิ่มขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องรับประทานยาขับน้ำนมค่ะ รู้ว่าดีขนาดนี้ก็ลองไปหารับประทานกันเลยดีกว่าเนอะ


ดอกขจร

ดอกขจร

          ดอกขจร หรือดอกสลิด ไม่ใช่เพียงแค่มีประโยชน์ที่กลิ่นหอมเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะดอกขจรนั้นเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส แถมยังสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเลยเชียวล่ะ

          ทั้งนี้สรรพคุณทางยาของดอกขจรก็ไม่ใช่เล่น ๆ ที่โดดเด่นที่สุดก็คือสรรพคุณในด้านการบำรุงฮอร์โมนในเพศหญิง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน รักษาไข้หวัดที่เกิดจากอากาศเปลี่ยนแปลง บำรุงตับ บำรุงสายตา ขับเสมหะ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แถมยังบำรุงเลือดได้อีกด้วย ถือเป็นดอกไม้ที่ครบเครื่องทั้งความสวยงาม กลิ่นหอม และประโยชน์เลยล่ะเนอะ

ดอกเข็ม

ดอกเข็ม

          ดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ที่มักปลูกเป็นไม้ประดับ รวมทั้งเป็นดอกไม้มงคลในพิธีไหว้ครูอย่างดอกเข็มนั้น อย่าเพิ่งคิดว่ามีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่สรรพคุณทางยาก็มีไม่น้อย ที่สำคัญเจ้าสรรพคุณเหล่านี้ยังกระจายอยู่แทบจะทุกส่วนของต้นเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นใบ ราก หรือแม้แต่ในดอกเข็ม ก็ล้วนแต่สามารถรักษาอาการป่วยต่าง ๆ ได้ค่ะ อาทิ ช่วยสมานแผล รักษาอาการสะอึก คลื่นไส้ อาการเบื่ออาหาร บรรเทาอาการเจ็บคอ หลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด ลดความดันโลหิต การติดเชื้อที่อวัยวะสืบพันธุ์ในเพศหญิง แก้ประจำเดือนผิดปกติได้ด้วย

          ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น รากของต้นดอกเข็มก็ยังสามารถรักษาบิด และโรคอุจจาระร่วง ช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของอาการท้องเสียได้ และที่น่าสนใจอีกไม่น้อยก็คือ มีการศึกษาในปี 2001 พบว่าในการทดลองกับหนูนั้น การให้หนูกินดอกเข็มจะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการรักษาโรคด้วยเคมีบำบัดได้ โดยสารบางชนิดในดอกเข็มจะเข้าไปยับยั้งการลดลงของน้ำหนักที่เกิดจากการให้เคมีบำบัด และเพิ่มระดับฮีโมโกลบินในเลือด อีกทั้งเมื่อวัดระดับของยูเรียไนโตรเจนในเลือดของหนูที่นำมาทำการทดลองก็ยังอยู่ในระดับที่ปกติ ทำให้เห็นได้ว่าดอกเข็มนั้นสามารถช่วยบรรเทาผลข้างเคียงของการให้เคมีบำบัดได้เป็นอย่างดีค่ะ


ดอกแค

ดอกแค

          ดอกไม้ที่เป็นพืชสมุนไพรยอดนิยมอย่างดอกแค เป็นดอกไม้อีกชนิดที่เรามักจะเห็นว่ากลายมาเป็นอาหารขึ้นโต๊ะกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะมีผลการศึกษาพบว่าช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าดอกแคนี้มีสรรพคุณดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้โรคบิด แก้มูกเลือด แก้ท้องเดิน อุจจาระร่วงได้

          ทั้งนี้ในการแพทย์แผนอายุรเวทก็ยังมีการนำดอกแคมาคั้นเป็นน้ำแล้วนำไปใช้ในการรักษาริดสีดวงจมูก แก้ปวดศีรษะได้ หรือจะนำส่วนที่เป็นใบมาตำพอกรักษาแผลช้ำได้ แถมเจ้าดอกแคนี้ยังมีโปรตีนสูงอีกด้วย เอาเป็นว่าดอกแคนี่มีประโยชน์ไม่แพ้กับดอกไม้ชนิดอื่นเลยเชียวล่ะค่ะ

ดอกบัว

ดอกบัว

          หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าดอกบัวเนี่ยล่ะมีสรรพคุณทางยาเพียบเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณในการเป็นยาขับปัสสาวะ ป้องกันเชื้อรา ป้องกันการเกิดโรคอ้วน หรือแม้แต่ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นดอกบัว หรือส่วนอื่น ๆ ของดอกบัวนั้นก็ล้วนแต่ถูกนำมาใช้ในยาแพทย์แผนโบราณทั้งนั้น

          โดยสรรพคุณที่เด็ดดวงที่สุดของดอกบัวนอกจากต่อต้านการเกิดมะเร็งก็คือการป้องกันการตกเลือดและบำรุงครรภ์สำหรับสตรีมีครรภ์ และช่วยขับน้ำนมให้กับคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร รวมทั้งบรรเทาอาการท้องเสีย แก้พิษไข้ รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนองใน ซิฟิลิส โรคไขข้ออักเสบ โรคเบาหวาน ลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดซึ่งดีกับหัวใจ และถ้าหากนำดอกบัวมาตากแห้งและชงดื่มเป็นชาก็จะยิ่งช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ ช่วยลดน้ำหนัก และสร้างเสริมระบบสืบพันธุ์ในทั้งเพศชายและหญิงอีกด้วย
          ในด้านความงาม ดอกบัวก็ให้สรรพคุณดีไม่แพ้กัน ทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วยล่ะ สรรพคุณเริด ๆ แบบนี้สาว ๆ ไม่น่าจะมองข้ามเลย

ดอกเฟื่องฟ้า

ดอกเฟื่องฟ้า

          ดอกเฟื่องฟ้ามีหลากหลายสีสันที่สวยงาม แต่ที่ถือว่ามีสรรพคุณโดดเด่นในการช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้ก็น่าจะเป็นดอกเฟื่องฟ้าที่มีสีม่วง แดง และชมพู เนื่องจากทั้งสามชนิดนี้มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) สูง นอกจากนี้ก็ยังมีการศึกษาพบแล้วว่าเจ้าดอกเฟื่องฟ้านี่ล่ะที่ช่วยบำรุงสุขภาพและมีสรรพคุณรักษาโรคดีอย่างแท้จริง อาทิ ช่วยป้องกันการติดเชื้อ รักษาอาการท้องเสีย ช่วยในการคุมกำเนิด รักษาอาการไอและเจ็บคอ บำรุงเลือดและขับระดูขาวในผู้หญิง อีกทั้งช่วยลดความดันโลหิต และบำรุงหัวใจ

          สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การรับประทานดอกเฟื่องฟ้าก็ยังทำให้ร่างกายได้รับไพนิทอล (Pinitol) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการสนับสนุนการทำงานของอินซูลิน โดยมีการศึกษาพบว่า หากสารนี้เข้าสู่ร่างกายแล้วจะช่วยให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้นค่ะ

ดอกโสน

ดอกโสน

          มาถึงดอกไม้สีเหลืองดอกเล็กที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารอย่างดอกโสน ซึ่งเป็นพืชที่มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2  ไนอะซิน และวิตามินซีสูง ที่แค่เพียงรับประทานเข้าไปก็ได้ผลดีบำรุงกระดูกให้แข็งแรง บำรุงสมอง อีกทั้งช่วยป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ และมีการศึกษาพบว่าในดอกโสนมีสารเควอเซทิน ไกลโคไซด์ ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ที่สำคัญ มีฤทธิ์ในการทำลายและยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็งได้

          ขณะที่สรรพคุณทางยาของดอกโสนนั้นก็มาจากฤทธิ์เย็นของดอกโสน ที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะช่วยแก้พิษร้อน ถอนพิษไข้ได้เช่นเดียวกับดอกแค จึงทำให้ดอกโสนนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนชอบหารับประทานกันค่ะ

ดอกอัญชัน

ดอกอัญชัน

          นอกจากสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่มีอยู่ในดอกอัญชันจะช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งได้ เจ้าสารชนิดนี้ก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงเส้นผมให้เงางาม อย่างที่เราเคยเห็นว่ามักจะมีการนำดอกอัญชันมาหมักผม หรือนำไปทาบริเวณคิ้วเด็กให้คิ้วดกดำขึ้นนั่นล่ะค่ะ

          แต่ที่น่าอัศจรรย์ไปยิ่งกว่านั้นคือสารแอนโทไซยานินนี้ก็ยังสามารถช่วยบำรุงสายตา กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ ยิ่งโดยเฉพาะกับผู้ป่วยเบาหวาน ดอกอัญชันนี้ก็เปรียบเสมือนทองคำเลย เพราะดอกอัญชันสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือด และช่วยบรรเทาภาวะเสื่อมสภาพของดวงตาที่เกิดจากโรคเบาหวานได้ รู้แบบนี้แล้วก็ต้องรีบหามาลิ้มลองเลยนะ

          เห็นไหมล่ะคะว่าความสวยงามของดอกไม้น่ะไม่ได้มีแค่ให้ชื่นชมเท่านั้น แต่ยังมีดีกับสุขภาพอีกเพียบ คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าจะเลือกหยิบดอกไม้ชนิดใดมาลิ้มลองกันแล้วล่ะค่ะ แต่ก็อย่าเพลิดเพลินกับอาหารจากดอกไม้เพียงอย่างเดียวนะ ควรรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพชนิดอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย จะได้มีสุขภาพที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
,,
หน่วยสารสนเทศมะเร็ง โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
stylecraze.com
medicalhealthguide.com
Europe PubMed Central
hubpages.com
stuartxchange.com