นิสัยทำลายสุขภาพที่ทำมาเป็นเวลานานอาจถูกเฉลยด้วยผลการตรวจสุขภาพประจำปีที่รายงานว่าชีวิตคุณกำลังจะต้องอยู่กับโรคร้ายไปตลอดชีวิต
เพียงเพราะการคิดว่าสุขภาพเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจตอนเริ่มมีอายุ
ซึ่งคุณคิดผิดถนัด !
เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่เราคิดนะคะ
เพราะในแต่ละวันเราต้องใช้สุขภาพในการทำงานหาเงิน ทำให้เรามีเงินทองมากมาย
แต่ทำไมเราไม่คิดจะดูแลร่างกายนี้ให้ดีล่ะจริงไหม
ดังนั้นกระปุกดอทคอมจึงขอแชร์แนวทางดี ๆ
เพื่อสุขภาพมาให้ลองอ่านกันเอาไว้เป็นตัวอย่าง โดยเฉพาะพฤติกรรม 15
ข้อที่ถ้าลด ละ เลิกได้แล้วจะมีสุขภาพดีขึ้นทันตาเห็นเลย
และเราก็รับรองว่าสุขภาพของคุณในปีหน้าจะไม่มีสัญญาณเตือนของโรคร้ายคอยตามหลอกหลอนอีกต่อไป
1. ลดนิสัยติดรสหวาน
พฤติกรรมติดกินรสหวานของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปีนะคะ
นั่นคงเป็นผลมาจากเทรนด์การบริโภคของคนในสังคม
ที่ทุกวันนี้มีแต่คนขายของหวาน ๆ อยู่เต็มไปหมดเลย
โดยเฉพาะความหวานที่แฝงอยู่ในเครื่องดื่มเย็น ๆ ชื่นใจต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ
หรือจะเป็นขนมเบเกอรี่เจ้าอร่อยทั้งหลาย
รวมถึงน้ำตาลที่แฝงมาในคราบของสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น แอสปาแตม
ที่มักจะอยู่ในอาหารจำพวกซีเรียลเพื่อสุขภาพ โยเกิร์ตไขมันต่ำ
และบรรดาของหวาน ๆ เหล่านี้แหละที่นำมาซึ่งโรคเรื้อรังยอดฮิต ได้แก่
โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
ดังนั้นควรใส่ใจในอาหารที่เรากินทุกมื้อด้วยนะคะว่าในแต่ละวันเราให้ความหวานกับตัวเองมากเกินไปแล้วหรือยัง
2. ลดนิสัยติดรสเค็ม
การติดกินรสเค็มสามารถนำมาซึ่งโรคร้ายให้เราได้นะคะหากบริโภคมากเกินพอดี
เช่น โรคไตวาย ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
เป็นเพราะโซเดียมที่แฝงอยู่ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปนั่นเองโดยเฉพาะอาหารประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
อาหารแช่แข็ง เช่น เกี๊ยวแช่แข็ง อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน และแฮม
รวมถึงขนมกรุบกรอบรสอร่อยที่เรามักติดมือมากินกรุบกริบยามบ่ายนั่นเอง
ดังนั้นหากจะเลิกนิสัยกินเค็มก็ไม่ยากเลยค่ะ
แค่ระวังเรื่องปริมาณการกินในแต่ละมื้อเท่านั้น
โดยอาจจะลดรสเค็มลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยกิน เช่น
ไม่ปรุงเพิ่มเวลากินก๋วยเตี๋ยว หรือไม่ราดน้ำปลาพริกลงบนข้าวราดแกง เพียงแค่นี้สุขภาพก็ดีขึ้นได้แล้วค่ะ
3. ลดทานเนื้อแดงลงสักนิด เพราะเนื้อขาวก็มีประโยชน์
สาวกปิ้งย่างคงจะไม่ถูกใจข้อนี้แน่ ๆ เชียว
เพราะเรากำลังจะแนะนำให้ลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ลงบ้าง
ถ้าหากกินมากไประบบย่อยอาหารจะพังเอานะคะ ลองนึกดูเล่น ๆ
ว่าหากเรากินเนื้อแดงร่างกายจะต้องใช้เวลาย่อยประมาณ 4-7 ชั่วโมง
อีกทั้งยังสะสมเป็นไขมันอุดตันในลำไส้ด้วย
ในขณะที่ถ้าเนื้อขาวใช้เวลาย่อยเพียง 2
ชั่วโมงเท่านั้นโดยที่ไม่มีไขมันสะสมในร่างกายด้วย
ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้ก็อย่าลืมหันมากินพวกเนื้อปลาดูให้ลำไส้ได้พักผ่อนบ้าง
ที่สำคัญคือทำให้เราไม่มีไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกาย
4. เลิกนอนดึก
ปีหน้าขอท้าให้คุณลองนอนแต่หัวค่ำ
เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เรารู้สึกสดใสร่าเริงในเช้าวันต่อมาแล้ว
ยังดีต่อกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเราอีกด้วยนะ
แต่ถ้านอนดึกผลก็คือคุณจะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
แล้วก็ทำให้ดูแก่กว่าวัยอีกด้วย
หากคุณทำได้เชื่อว่าหลายคนต้องมาถามเคล็ดลับหน้าเด็กจากคุณแน่ ๆ
5. เลิกคิดว่าอาหารเช้าไม่สำคัญ
หนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่มักจะเพิ่มพลังให้ตัวเองในตอนเช้าด้วยกาแฟหนึ่งแก้ว
กับขนมปังหนึ่งแผ่น
คงไม่รู้อะไรซะแล้วว่ามื้อเช้าที่ดีน่ะเป็นมื้อสำคัญที่สุด
เพราะเป็นมื้อที่ทำให้เรามีแรงทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ อย่างเต็มที่
อีกทั้งเรายังสามารถกินเข้าไปเยอะเท่าไรก็ได้
โดยร่างกายก็จะดึงเอาไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ
จนหมดไม่เหลือเป็นไขมันส่วนเกินแน่นอน ดังนั้นไม่ว่าจะตื่นสายแค่ไหน
อย่าลืมแวะตุนเสบียงอาหารเช้าด้วย ผลดีของการไม่อดอาหารเช้าก็คือ
ไม่เป็นโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน และลำไส้อักเสบ
หากใครไม่มีไอเดียอาหารเช้า 5 หมู่เราขอแนะนำ ขนมปัง 1 แผ่น กาแฟใส่นม 1
แก้ว ไข่ต้ม 1 ฟอง และแอปเปิล 1 ผล อ้อ ! อย่าลืมน้ำดื่มเปล่าให้ได้ 1
แก้วด้วยนะคะ
6. เลิกบุหรี่
ปี 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้เราขอให้เป็นปีที่โรคมะเร็งคร่าชีวิตคนน้อยลงกว่าทุกปี
เพราะการเลิกบุหรี่นำมาซึ่งสุขภาพที่ดีต่าง ๆ มากมาย เช่น สุขภาพของตับ ปอด
และหลอดเลือดหัวใจดีขึ้น ยังส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นด้วย
ดังนั้นใครที่เป็นสิงห์อมควันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้
เราก็ขอให้ปีนี้เป็นปีที่คุณสูบบุหรี่น้อยลงกว่าทุกปีแล้วกันนะคะ
7. เลิกติดเครื่องดื่มอัดลม
สำหรับใครที่พบว่าตัวเองขาดเครื่องดื่มอัดลมไม่ได้
ในหนึ่งวันดื่มตลอดทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น เผลอ ๆ มีรอบดึกอีกต่างหาก
ขอแนะนำให้ลดและเลิกเพราะภัยของเครื่องดื่มอัดลมมาพร้อมกับโรคอ้วน
โรคเบาหวานและความดันโลหิต โรคกระดูกพรุน
และยังส่งผลให้ผิวพรรณเราหยาบกร้านอีกด้วย
ดังนั้นหันมาดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นดีกว่า ทราบแล้วเปลี่ยนนะคะ !
8.เลิกเหล้า
ข้อนี้บรรดานักดื่มคอทองแดงทั้งหลายควรฟังให้ดีเชียวค่ะ
เพราะโทษของการดื่มเหล้าน่ะ
ไม่ได้ให้ผลร้ายเฉพาะตัวคุณเองแต่ยังมีผลต่อคนรอบข้างด้วย
ซึ่งโทษของเหล้าที่มีต่อสุขภาพคือ ตับแข็ง หัวใจวาย
และโทษที่อาจกระทบถึงคนรอบข้างคือ คุณอาจเมาไม่ได้สติแล้วไปทำร้ายผู้อื่น
หรือเป็นเหตุทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว
รวมถึงอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วย
ดังนั้นปีใหม่นี้ลองเปลี่ยนมาฉลองแบบไม่มีเหล้าดูบ้างนะคะ
9. เลิกกินอาหารฟาสต์ฟู้ด
ต้องยอมรับว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดทุกวันนี้ทำให้คนเราขี้เกียจมาก
เห็นได้จากการขี้เกียจคิดแต่อยากอิ่ม
ก็เลยต้องฝากท้องไว้กับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์
ซึ่งโทษของการกินอาหารเหล่านี้ทำให้เป็นโรคอ้วน และโรคไตได้
เพราะอาหารฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้แทบไม่มีคุณค่าสารอาหารในหมู่ใดเลย
นอกจากเนื้อสัตว์ที่มีโซเดียมแฝงอยู่ และพลังงานอิ่มท้องที่มาจากแป้ง
อาจมีปริมาณผักเล็กน้อยแก้เลี่ยน
แต่เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายเอาไปสะสมอย่างเดียวเลยจ้า
ไม่สามารถนำมาใช้หล่อเลี้ยงเซลล์ใด ๆ ในร่างกายได้เลย
10. เลิกหาข้ออ้างไม่ออกกำลังกาย
หากจะทำให้ปีหน้านี้เป็นปีที่คุณมีสุขภาพดีจริง
ๆ ก็ต้องปรับพฤติกรรมให้หันมาออกกำลังกายด้วย
ซึ่งเทรนด์การออกกำลังกายทุกวันนี้เรียกว่ามีเวลาแค่ 25
นาทีก็หุ่นเฟิร์มได้แล้ว ดังนั้นเลิกอ้างว่าไม่มีเวลา
หากใครบ่นว่าไม่มีแรงจูงใจฟิตหุ่นเลย
เราขอแนะนำว่าให้เริ่มจากการโหลดเพลงจังหวะมันส์ ๆ ที่อยากฟังมาไว้ในไอพอด
หรือสมาร์ทโฟนของเราก็ได้ แล้วลองเดินเล่นฟังเพลงเหล่านี้ไปพลาง
รับรองคุณต้องอยากเปลี่ยนชุดออกไปวิ่งตามจังหวะเพลงแน่ ๆ
11. เลิกไดเอตด้วยการอดอาหาร
หลายคนอยากผอมให้ได้ทันใจเลยใช้วิธีการอดอาหารซะเลย
ซึ่งเราขอบอกเลยว่าเป็นวิธีที่ผิดมหันต์
เพราะการอดอาหารจะทำให้สมองของเรารับรู้ว่า
"กำลังจะอดตายต้องกินสะสมไว้ก่อน"
และจะสั่งการไปกระตุ้นต่อมอยากอาหารให้เราอยากกินอะไรหนักขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ทางที่ดีคือ กินอาหารเหมือนเดิมทุกประการแต่ลดปริมาณการกินลง
ส่วนถ้าอยากผอมด่วน ๆ ก็ลองงดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล
และความเค็มลงดูวันละมื้อ เพราะสามสิ่งนี้จะทำให้เราตัวบวมฉุ
บริหารร่างกายอย่างไรก็ไม่เฟิร์มสักที
12. เลิกบ้างาน
นิสัยในข้อนี้เหมาะสำหรับเวิร์กกิ้งวูแมน
และแฟมิลี่แมนที่ต้องสู้ชีวิตเพื่อครอบครัวอย่างมาก
เพราะพวกเขาเหล่านี้มักจะหอบหิ้วความเครียดกลับมาบ้านด้วย
ส่วนหนึ่งเพราะคิดเรื่องงานตลอดเวลา
เราขอบอกเลยค่ะว่า ให้คุณลดนิสัยเอางานกลับมาทำที่บ้านลงอีกสักนิด
เพราะนิสัยแบบนี้จะทำให้คุณเครียดอยู่ตลอดเวลา พาลให้ร่างกายทรุดโทรมเอาง่าย
ๆ อันเป็นที่มาของโรคออฟฟิศซินโดรม โรคเครียด และโรคหัวใจ ดังนั้นขอให้จัดลำดับความสำคัญของงานแล้วจัดการเคลียร์ไปตามลำดับนั้น
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณมีเวลาผ่อนคลายกับครอบครัวมากขึ้นแล้ว
13. เลิกเครียด
นิสัยเครียดรุมเร้าจากการที่ชีวิตติดขัด
ไม่ว่าจะเป็นหนี้ สอบตก อกหักรักคุด ขึ้นคาน ตกงาน เป็นต้น
เราขอเตือนสติว่าให้มองว่าปัญหาเหล่านี้มีทางออกรออยู่แล้ว
ขอเพียงแต่คุณต้องตั้งสติค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละส่วน
เพราะถ้าหากเอาเรื่องเครียดมาเหมารวมกันหมด คุณเสี่ยงจะเป็นโรคไมเกรน
โรคหัวใจ โรคจิต เอาได้นะ
14. เลิกแต่งหน้าให้ดูเป๊ะ
สาว ๆ
ที่มักจะแต่งหน้าจัดเต็มเสมอทุกเวลา ในปีนี้เมื่อเทรนด์สุขภาพดีกำลังมาแรง
ทำไมเราไม่ลองแต่งหน้าบาง ๆ เผยให้เห็นความสวยธรรมชาติของเราบ้างล่ะ
ดีไม่ดีอาจมีหนุ่ม ๆ มาขายขนมจีบมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้
ซึ่งข้อเสียของการประโคมเมคอัพทุกวันก็คือ
สุขภาพผิวหน้าเราจะอ่อนแอลงทุกวันด้วยฤทธิ์ของสารเคมีในเครื่องสำอางที่ใช้เป็นประจำ
อันเป็นสาเหตุให้ผิวหน้าเราเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร มีสิวขึ้นเรื้อรัง
รวมถึงอันตรายต่อระบบอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น เยื่อบุตาอักเสบจากมาสคาร่า
และอายไลเนอร์ เป็นต้น
15. เลิกติดหนึบโลกโซเชียลมีเดีย
ในยุคที่สมาร์ทโฟนของเราสามารถสร้างความบันเทิงเริงใจให้เราได้ตลอดทั้งวัน
เช่น ถ่ายรูป เช็กอินสถานที่ท่องเที่ยว เล่นเกม
รวมถึงเอาไว้แชทกับก๊วนเพื่อนสนิท
ซึ่งหากเพลิดเพลินแบบนี้ได้ทั้งวันอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพเราได้ เช่น ปวดคอ
ปวดหลัง สายตาสั้นขึ้น เสี่ยงเป็นโรคตาต้อ ไมเกรนขึ้น
ดังนั้นหากไม่อยากให้สุขภาพในปีหน้าแย่ลงเพราะสมาร์ทโฟนสุดรักสุดหวงละก็หันมาใช้สมาร์ทโฟนในเวลาที่จำเป็นดีกว่า
แล้วคุณจะพบว่ามีเรื่องน่าสนใจให้ทำอีกเยอะเลยอีกทั้งความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้างก็จะดีขึ้นอีกด้วย
จากตัวอย่าง 15
นิสัยบ่อนทำลายสุขภาพที่เรานำมาฝากนี้สามารถสะท้อนให้เห็นว่าอะไรที่มากเกินพอดีย่อมเป็นผลเสียกับตัวเรา
ดังนั้นหากใครอ่านดูแล้วพบว่าตัวเองเข้าข่ายข้อไหนก็ขอให้พยายามลด ละ
เลิกให้ได้ แม้ว่าจะทำไม่สำเร็จ 100% ภายในเวลาอันสั้น
แต่ก็ยังดีกว่าไม่เริ่มต้นเลยนะคะ