Home »
ทั่วไป
»
หนุ่มน้อยยอดกตัญญูรับจ้างสารพัด หาค่าเทอม และเลี้ยงยายที่ป่วยติดเตียง
หนุ่มน้อยยอดกตัญญูรับจ้างสารพัด หาค่าเทอม และเลี้ยงยายที่ป่วยติดเตียง
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดน่าประทับใจของหนุ่มน้อยที่รับจ้างสารพัดไม่เกี่ยงงานเพื่อหาค่าเทอมและเลี้ยงยายพิการด้วยเริ่มตั้งแต่วัยเพียง5ขวบเรื่องราวชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรมาติดตามกันเลยคือจุดเริ่มต้นชะตากรรมแห่งภาระและความรับผิดชอบบนคำว่า“กตัญญูกตเวที”ทางเดินแคบๆฝ่าดงพงไม้ราวกิโลกว่าในชุมชนบ้านปูนย่านถนนอรุณอัมรินทร์คือเส้นทางเดินหลักน้องนิกวัย16ปีที่นอกเหนือจะใช้เป็นเส้นทางไปกลับโรงเรียนพาณิชย์การราชดำเนินในแต่ละวันแล้วยังเป็นเส้นทางสำคัญที่เขาใช้เดินเข้า-ออกเพื่อซื้อหากับข้าวและตระเวนหางานรับจ้างเพื่อนำรายได้ทั้งหมดมาประทังชีวิตดูแลคุณยายหมวย
แซ่แต้(
ยายแอ๊ว)วัย66ปีที่เป็นโรคเนื้องอกในมดลูกมากว่า10ปีลุกลามถึงขั้นขาทั้ง2ข้างอ่อนแรงไม่สามารถเดินเหินได้จนกลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ต้องนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม้เก่าๆนานวันเข้ากลายเกิดเป็นแผลกดทับ
ถึงขั้นต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน
“แต่ก่อนอยู่กันมายายหลานยายก็หาเลี้ยงเขามาตลอดแม้จะเป็นโรคร้ายมาหลายสิบปีก็ยังพอทำงานรับจ้างซักผ้ารีดผ้าได้ปกติรายได้พอมีพอใช้พอเลี้ยงปากท้องยายหลานและส่งเสียเขาเรียนและเขาก็คอยตอบแทนด้วยการเป็นลูกมือช่วยงานมาตลอดแต่ปีก่อนขากลับเดินไม่ได้เลยต้องนั่งรถเข็นทำงานแต่ทำได้ไม่เท่าไรร่างกายก็แย่ๆลงเรื่อยๆเลยต้องนอนแต่บนเตียงภาระหน้าที่เพื่อปากท้องทั้งหมดจึงตกเป็นของเขาคนเดียว”ยายแอ๊วกล่าวเมื่อเสาหลักล้มเสารองจึงต้องยื่นมือยืนค้ำคานเพื่อพยุงฐานบ้านมิให้ทรุดลงกว่านี้“น้องนิก”จำต้องแบกภาระอันใหญ่หลวงเพื่อหาค่าเงินประทังค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งเรื่องปากท้อง2คน100-200บาท/วันค่าบ้านเช่า2,500บาทค่าน้ำไฟรวมราว1,500บาท/เดือนค่าเรียนเทอมละเกือบ7,000บาทและค่ารักษาพยายาลของคุณยายที่ตกประมาณ1,000กว่าบาท/ครั้งด้วยวัยละอ่อนเป็นนักเรียนมัธยมปลายจะหางานที่มีรายได้มั่นคงนั้นเป็นเรื่องยากทำได้เพียงสานต่องานประจำของคุณยายในการใช้วันหยุดเรียนเสาร์-อาทิตย์ให้เกิดประโยชน์โดยการรับจ้างซักผ้าด้วยมืเปล่า-รีดผ้ารายได้ประมาณสัปดาห์ละ500บาทส่วนวันธรรมดาใช้เวลาหลังเลิกเรียนทำงานเป็นเด็กเสริฟ์ร้านอาหารและรับจ้างล้างจานรับเลี้ยงเด็กและงานอื่นๆอีกหลายอย่างแยกรายได้งานละ100กว่าบาท/วันแต่ก้ยังติดลบอยู่อีกมากเงินผู้สูงอายุของคุณยายเดือนละ700บาทและน้ำใจจากเพื่อนบ้านจึงเป็นสิ่งที่มาจุนเจือให้สองยายรอดชะตากรรมได้แต่ละวันแต่หากวันไหนไม่ได้ออกไปรับจ้างเพราะต้องดูแลอาการคุณยายเป็นพิเศษความอดอยากจึงถาโถม“เคยอดหลายมื้อครับพี่วันไหนไม่ไปทำงานต้องห้ามเจ็บห้ามท้อสู้เพื่อยายผมก็ต้องอยู่ดูแลเพราะเรามีกันอยู่เพียงสองคนต้องดูแลกันเองแลกกับเงินรายได้ที่หายไปผมอดคนเดียวไม่เป็นไรแต่ยายสิแก่มากแล้วยังต้องมาอดด้วยกันน้ำตาไหลเลย”น้องนิกกล่าว
ความเป็นเด็กกตัญญูส่งผลให้ครู-อาจาย์มีเมตตาจิตหางานพิเศษให้“งานรำ”ตามงานต่างๆของโรงเรียนเป็นสิ่งที่น้องนิกพอถนัดบางวันอาจต้องกลับมืดค่ำแม้รายได้ไม่มากมายแต่ก็พอประทังปากท้องยายหลานได้ในบางวันและขณะนี้ทางโรงเรียนอยู่ระหว่างการพิจารณามอบทุนการศึกษาให้กับน้องนิกเพื่อเป็นสำรองทุนไว้สำหรับการศึกษาในอนาคต“สิ่งที่ผมห่วงที่สุดคือยายห่วงเวลาผมกลับดึกห่วงว่าผมไม่อยู่แกจะอยู่กับใครห่วงไปหมดเงินก็อยากได้ได้มากเท่าไรยิ่งดีจะได้ไม่อดยายจะได้ไม่ลำบากผมพึ่งจะทำเพื่อยายได้ไม่กี่ปีเองแต่ยายลำบากเพื่อผมมาทั้งชีวิต”น้องนิกกล่าวชีวิตในวัยเด็กหายไปความเป็นผู้ใหญ่มาแทนที่รู้สึกดีทุกครั้งที่รู้ว่าเพื่อใครแม้ไร้พ่อขาดแม่เพียงใดเคยบ้างที่โหยหาเมื่อใครอื่นเขาพร้อมหน้าแต่เด็กคนนี้กลับภูมิใจกว่ามีทุกวันนี้ได้เพราะยายให้ไม่คิดอายที่อยู่สถานะนี้ไม่มีเวลาเช่นเด็กอื่นก็ไม่เป็นไรเพราะทั้งหมดนี้เขาเป็นผู้เลือกเองตอนที่เขา5ขวบพ่อแม่เลิกกันพ่อจะเอาลูกทั้ง3คนไปอยู่ด้วยแต่เขาคนเดียวไม่ไปเขาวิ่งมากอดฉันบอกจะอยู่กับยายฉันร้องไห้เลยเพราะเขาบอกว่าแล้วยายจะอยู่กับใครหากเขาไปกับพ่อป่านนี้เขาก็สบายเหมือนพี่น้องเขาฉันยอมรับเคยคิดจากโลกนี้ไปในวันที่รู้ว่าเดินไม่ได้แต่เพราะมีเขาเขาบอกรักฉันฉันเลยไปไม่ได้แม้จะรู้ว่าลำบากเขาแต่ฉันอยากอยู่เพื่อเขาอยากเห็นเขาเติบใหญ่มีอนาคตดีๆแม้เราเหลือกันแค่สองคนไร้ซึ่งการติดต่อใดๆจากญาติมิตรแต่ฉันก็สอนเขาเสมอหากเมื่อใดได้เจอพ่อแม่ต้องกตัญญูกับพ่อแม่เหมือนที่ทำกับฉันเพราะฉันเชื่อหลานฉันเป็นคนดีจริงๆยายแอ๊วกล่าว
สิ้นเสียงคำพูดของยายน้องนิกร้องไห้สวมกอด-ก้มกราบยายพร้อมลั่นวาจา“เราจะต่อสู้กันต่อไป”ไม่ว่าจากนี้โชคชะตาจะดีหรือร้ายกว่าเดิมสักเพียงไรเขาก็ไม่มีวันทอดทิ้งยายและขอเพียงมียายอยู่เป็นแรงใจผลักดันให้เขาขยันหาเงินประทังชีวิตและต่อยอดร่ำเรียนจนจบระดับปวส.หรือปริญญาตรีเพื่อมีงานมีรายได้มาค้ำจุนครอบครัวและที่สำคัญ…เขาเชื่อมั่นว่าภายหน้าคุณยายจะต้องหายจากโรคภัยและกลับมาเดินได้อีกครั้ง“ผมจะเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนขยันหาเงินและจะเรียนให้จบเพื่อให้ได้เงินได้งานมั่นคงนำรายได้ทั้งหมดมารักษายายและพัฒนาความเป็นอยู่ไม่ให้เราลำบากกว่านี้ผมไม่กลัวความลำบากผมกลัวยายไม่อยู่กับผมยายต้องอยู่เป็นแรงใจให้ผมสู้ต่อไปผมอยู่ได้ก็เพราะยายผมจะทำให้ยายสบายกว่านี้ให้ได้ผมสัญญา”น้องนิกกล่าวนอกจากนี้คุณยายแอ๊วและน้องนิกฝากขอบคุณสำหรับผู้มีน้ำใจและหากต้องการเข้ามาช่วยเหลือเพราะตอนนี้ทั้งสองลำบากและขัดสนเรื่องเงินอย่างหนักสำหรับความช่วยเหลือ“น้องนิก”“ยายแอ๊ว”
ทีมงานจิตอาสานำโดย“คุณปรเมศร์
มีสมภพ”ได้บริจาคเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งพร้อมบริจาคสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้วหากผู้ใจบุญใดต้องการให้ความช่วยเหลือสามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีเจ้าตัวโดยตรงที่ชื่อบัญชีนายชณธาน
พิไชยหล้าเลขที่162-4-33683-8ธนาคารกรุงเทพ(สาขา
สะพานพระปิ่นเกล้า)หรือติดต่อโดยตรงเบอร์097-095-9232