”ผมมีเมียแล้ว” แต่ไปเจอผู้หญิงอีกคน ที่ชอบมากกว่าจะทำอย่างไรดี

เรื่องราวของความรักนั้นเป็นเรื่อที่เราๆนั้นอธิบายยาก กับคู่รักสามีภรรยายิ่งแล้วไปใหญ่ เพราะว่าเรานั้นมีอะไรหลายๆอย่างที่กำลังผูกติดกันไว้ และถ้าพูดถึงเรื่องของยุคสมัยนี้เรื่องราวของมือที่สามนั้นมีเยอะเหลือเกินแอบคบอีกคนมีหญิงอื่นชายอื่นเข้ามาทั้งๆที่มีคู่อยู่แล้วเหมือนกับเรื่องราวนี้ กลางดึกคืนหนึ่ง?มีพระหนึ่งรูปกับฆราวาสหนึ่งคนสนทนากันอยู่ในวัด

ฆราวาส : หลวงพ่อครับ ผมแต่งงานแล้ว แต่ตอนนี้ไปตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่ง ผมจะทำอย่างไรดีครับ?

พระ : โยมมั่นใจไหม?ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่โยมจะรักตลอดไป

ฆราวาส : แน่ใจครับ

พระ : งั้นโยมก็ต้องหย่ากับภรรยาคนนี้ แล้วก็ไปขอเธอแต่งงานซะ

ฆราวาส : แต่ภรรยาคนปัจจุบันของผมก็อบอุ่น ใจดี เป็นคนดีไม่แพ้กัน ถ้าผมทำอย่างนั้นมันจะไม่โหดร้าย ไร้ซึ่ง

คุณธรรมเกินไปหรอครับ

พระ : ในชีวิตการแต่งงานการไร้ซึ่งความรักถึงจะถึอว่าโหดร้ายไร้คุณธรรม ตอนนี้โยมรักคนอื่นแล้ว ไม่ได้รักเขาแล้ว

การทำแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ฆราวาส : แต่ภรรยาของผมรักผมมาก รักอย่างลึกซึ้งหมดใจด้วย

พระ : งั้นเขาก็มีความสุข

ฆราวาส : ผมจะหย่ากับเขาไปแต่งงานกับคนอื่น เธอต้องรู้สึกทุกข์ทรมานถึงจะถูก ทำไมหลวงพ่อบอกว่าเธอจะมี

ความสุขล่ะครับ

พระ : ในชีวิตการแต่งงานเขายังมีความรักให้โยมอยู่ แต่โยมหมดสิ้นความรักต่อเขาแล้ว ในความเป็นจริง การมีเป็น

ความสุข การสูญสิ้นเป็นความทุกข์ ดังนั้นคนที่ทุกข์ทรมานคือโยมตะหาก

ฆราวาส : แต่ผมกำลังจะหย่ากับเขาเพื่อไปแต่งงานกับคนอื่น เขากำลังจะเสียผมไป

พระ : โยมผิดแล้ว โยมเป็นแค่รูปธรรมการแสดงความรักแบบหนึ่งของชีวิตแต่งงาน เมื่อรูปธรรมนี้หายไป ความรักแท้

ของเขาก็จะเปลี่ยนไปอยู่ที่รูปธรรมอันอื่น ดังนั้นความรักแท้ในชีวิตการแต่งงานของเขาไม่เคยสูญเสียไป เขาก็เลยมี

ความสุข ส่วนโยมทุกข์ทรมาน

ฆราวาส : เขาเคยบอกว่าชีวิตนี้รักแต่ผมเท่านั้น เขาจะต้องไม่รักคนอื่นแน่ๆ

พระ : โยมเคยพูดประโยคนนี้มั้ย?

ฆราวาส : ผม?ผม?ผม?

พระ : เทียนสามเล่มที่โยมมองเห็นตอนนี้ เล่มไหนสว่างที่สุด?

ฆราวาส : ผมแยกไม่ออก ดูเหมื่อนว่าจะสว่างเท่าๆกัน

พระ : เทียนสามเล่มนี้ก็เปรียบเสมือนผู้หญิง 3 คน หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวคนที่โยมบอกว่าโยมรักที่สุด แต่โยมกลับ

หาเธอไม่เจอ โลกใบนี้กว้างใหญ่มโหฬาร ผู้คนก็มีมากมาย ผู้หญิงก็มีนับไม่ถ้วน แค่เทียนสามเล่มโยมยังหาเล่มที่

สว่างที่สุดไม่ได้ แล้วโยมจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่โยมจะรัก

ฆราวาส : ผม?ผม?ผม?

พระ : ตอนนี้เดินไปหยิบเทียนมาหนึ่งเล่ม วางไว้หน้าโยม แล้วใช้ใจมอง เล่มนั้นก็จะสว่างที่สุด

ฆราวาส : นั่นหลวงพ่อไม่ต้องบอกผมก็รู้ มันอยู่หน้าสุดมันก็ต้องสว่างที่สุดแน่ๆ

พระ : เอามันกลับไปวางไว้ที่จุดเดิม ลองดูใหม่ซิ ว่าเล่มไหนสว่างสุด

ฆราวาส : ผมก็ยังดูไม่ออกว่าเล่มไหนสว่างสุด

พระ : ในความเป็นจริงแล้ว เทียนเล่มที่โยมหยิบมาวางตรงหน้าเมื่อกี้ก็คือหญิงคนนั้นที่โยมรัก เมื่อโยมรักเธอ ก็

เหมือนเอาเทียนมาวางไว้ใกล้ๆ มันก็จะถูกดวงตาของโยมขยายใหญ่ แต่เมื่อเอากลับไปวางที่เดิม โยมก็จะรู้สึกว่ามอง

หาเล่มที่สว่างที่สุดไม่เจอ ความรักที่บอกว่าเป็นรักสุดท้ายจริงๆแล้วไม่มีจริงหรอกโยม มันก็เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่มีจริง

ฆราวาส : ผมเข้าใจแล้ว หลวงพ่อไม่ได้บอกให้ผมหย่า เพียงแต่กำลังชี้จุดให้ผมเข้าใจ

พระ : โยมไปเถิด

ฆราวาส : ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมควรจะรักใคร เขาก็คือภรรยาของผมนั่นเอง

พระ : อามิตตาพุทธ อามิตตาพุทธ

ขอบคุณที่มา liekr