ทำตามเถอะดีจริงๆ!! 6 เคล็ดลับบริหารร่างกายของคนญี่ปุ่น ทำตามนี้คุณจะมีสุขภาพดีและแข็งแรงแน่นอน!

Katsuzo Nishi ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ตอนวัยเด็กสุขภาพของเขาแย่มาก หมอวินิจฉัยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินอายุ 20 ปี เขาพยายามศึกษาข้อมูลด้านการแพทย์ทางตะวันออกและตะวันตก

และข้อมูลด้านการแพทย์พื้นบ้าน หลังจากใช้วเวลา 20 กว่าปี เขาก็ได้คิดค้นวิธีการบริหารร่างกายที่เป็นของตัวเองขึ้นมา และได้รับความนิยมในญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายสิบปี แถมเว็บไซต์ Brightside ยังได้นำไปเผยแพร่อีกด้วย

นอนบนฟูกแข็ง : การนอนบนฟูกแข็งช่วยปรับกระดูกสันหลังให้ตรงและมีโอกาสช่วยให้ร่างกายสูงขึ้นได้ถึง 2 ซม. นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้นอีกด้วย

นอนหนุนหมอนแข็ง : หมอนแข็งจะช่วยป้องกันกระดูกสันหลังคดได้ การนอนบนหมอนที่นุ่มจะเป็นสาเหตุให้กระดูกสันหลังบริเวณคอคด ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนมาหนุนหมอนที่แข็งกว่าแทน หมอนที่แข็งสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อและช่วยลดอาการปวดหลังหรือปวดคอได้

ออกกำลังกายท่าปลาทอง : เริ่มต้นด้วยการนอนราบบนพื้นหรือเบาะที่แข็ง วางมือไว้หลังท้ายทอย เหยียดขาตรง เคลื่อนสะโพกไปทางซ้ายและขวา และขาต้องไม่ลอยขึ้นเหนือพื้น ท่านี้จะช่วยผ่อนคลายการกดทับและช่วยยืดกระดูกสันหลังให้ตรง อีกทั้งยังช่วยการทำงานของระบบเผาผลาญอาหาร และช่วยปรับการทำงานของระบบประสาทได้อีกด้วย

วิธีออกกำลังกายเพื่อช่วยการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอย: นอนบนพื้นราบที่แข็งใช้หมอนกลมแข็งรองบริเวณคอ ชูแขนขึ้นให้ตั้งฉากกับพื้น งอข้อศอกและเข่าเล็กน้อย จากนั้นผ่อนคลายร่างกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขย่าแขนและขาไปพร้อมๆกันเป็นเวลา 1-3 นาที ท่านี้สามารถช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายได้

ฝ่ามือและฝ่าเท้า : เริ่มต้นด้วยนอนราบบนเบาะหรือฟูกแข็ง ประกบฝ่ามือทั้งสองเข้าด้วยกัน งอเข่าโดยไม่ให้ลอยจากพื้น ประกบฝ่าเท้าเข้าหากัน ยืดแขนขึ้นเหนือศีรษะพร้อมเหยียดขาไปด้านล่างโดยไม่ให้ฝ่ามือและฝ่าเท้าแยกจากกัน ท่านี้จะช่วยส่งเสริมการทำงานของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานและอวัยวะในช่องท้อง

บริหารกระดูกสันหลังและส่วนท้อง : เริ่มต้นด้วยนั่งขัดสมาธิ ใช้มือสองข้างจับเท้า นั่งหลังตรง บิดหน้าไปด้านซ้ายและขวาสลับกัน เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและผ่อนคลาย ท่านี้สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้

ว่างๆ ก็ลองทำตามดูสิ ทำทุกวันสุขภาพของเราก็จะแข็งแรงและดีขึ้นอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลโดย LIEKR