กล้วยเชื่อมแดง เนื้อนุ่มหวานอร่อย ทำได้ไม่ยากเลย
สำหรับเมนูกล้วยเชื่อมแดงเป็นเมนู ของว่างทานเล่นของคนโบราณที่นิยมกันเป็นอย่างมาก การนำกล้วยการที่เรานำกล้วยมาดัดแปลงทำเป็นเมนูต่างๆ ในสูตรนี้เราจะใช้กล้วยมาเชื่อมและให้มีสีแดงที่น่ารับประทาน จะได้เนื้อกล้วยที่มีความหวานมีเนื้อที่มีความหนึบหนับและมีสีที่น่ารับประทาน
อย่ารอช้าเราตามมาดูในส่วนผสมพร้อมทั้งวิธีการทำด้านล่างกันเลย มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยาก มือใหม่หัดเข้าครัวก็สามารถทำตามกันได้ง่ายๆเลยล่ะ
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม
– กล้วยน้ำว้า (ห่ า ม) เปลือกสีกระดังงา
– เกลือ น้ำสะอาด (ใช้สำหรับการแช่กล้วย)
– น้ำตาลทราย , น้ำตาลมะพร้าว ชั่งรวมกับน้ำตาลทรายได้ประมาณ 400 – 500 กรัม ลดได้
– น้ำสะอาด 1000 กรัม
– เกลือ 1 หยิบนิ้ว
– มะนาว 1 เซี่ยว
– ใบเตยหอม ล้างสะอาด
– หัวกะทิ เกลือ แป้งข้าวเจ้า
วิธีในการทำ
1 มาถึงวิธีการทำให้เราเริ่มด้วยการผสมน้ำเข้ากับเกลือ ให้เรากะปริมาณพอให้ท่วมกล้วย
2 ทำการปอกเปลือกกล้วยและหั่นตามแนวขวาง 2 ท่อนหรือจะเป็น 4 ท่อนก็ได้แล้วแต่ตามความชอบ แล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือทิ้งเอาไว้เป็นเวลานานประมาณ 30 นาที
3 ในระหว่างที่เรารอนั้นให้เราตั้งกระทะใส่น้ำสะอาดใส่ใบเตยและน้ำตาลทรายทั้งสองชนิดที่เราได้เตรียมเอาไว้ ให้เปิดไฟทำการเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลายหมด ใส่เกลือตามลงไปรอให้เดือด แล้วให้ตักกล้วยให้เราแช่น้ำเกลือเอาไว้ใส่ลงไปในกระทะ
4 ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้เดือด เมื่อเดือนที่แล้วให้เราปรับไฟให้อ่อนลง หากมีฟองให้เราช้อนฟองทิ้งออกให้หมดแล้วให้ตักน้ำเชื่อมในกระทะราดที่กล้วยอยู่เป็นระยะ เราสามารถเติมน้ำใส่ลงไปได้หากมีความข้นที่มากเกินไป
5 เราจะใช้ระยะเวลาในการเคี่ยวประมาณ 2 ชม. เมื่อกล้วยของเรามีความเงาสวยงามก่อนที่เราจะตักขึ้นให้เราบีบน้ำมะนาวใส่ลงไปเล็กน้อยคนอย่างเบามือ แล้วตักใส่จานพร้อมกับการราดน้ำกะทิด้านบน (วิธีการทำน้ำกะทิด้านล่าง)
6 หัวกะทิ (แบ่งออกมา 2 ชต) ตั้งไฟอ่อน ใส่เกลือ พอเค็มปะเเล่ม คนไม่ให้เป็นลูก
7 ผสมแป้งข้าวเจ้ากับหัวกะทิ แป้ง1 ชต หัวกะทิ 2 ชต คนให้ละลาย เมื่อกะทิเริ่มเดือดให้ใส่น้ำแป้ง คนอย่างรวดเร็ว รอให้สุกสักนิด ตั้งใส่ถ้วย วางในอ่างน้ำเย็น จะช่วยให้หัวกะทิฟูสวย
วิธีการทำที่ไม่ยากนี้เราก็จะได้เมนูกล้วยเชื่อมสีแดงที่มีความน่ารับประทาน กล้วยด้านในนั้นจะมีความนุ่มมีความหนึบหนับบวกกับตัวนำเชื่อมที่มีความหอมหวานและมีน้ำกะทิราดอยู่ด้านบน นำมารับประทานแล้วอร่อยเข้ากันได้เป็นอย่างดีลองนำสูตรนี้ไปทำทานในเมนูวันหยุด กันดูนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Supannikar Kamlangharn