อ่านแล้วลองคิดดู อย่าได้เห็น “พ่อแม่..เป็นแค่คนเฝ้าบ้าน”

หลายๆ คนนั้น ให้ความสำคัญของคนนอกบ้านก่อน คนในบ้านอยู่บ่อยครั้ง

ยิ่งถ้าเป็นพ่อแม่ ของเราบางครั้ง เราเองนั่นแหละ ที่ละเลยความรู้สึกท่าน

ละเลยสิ่งต่างๆ ที่เราควรใส่ใจ และให้ความสำคัญกับท่าน

“อย่าได้เปรียบว่า..พ่อแม่ของเราเหมือนคนเฝ้าบ้าน”

ต้นไม้ ที่ยิ่งแก่นั้น ก็ยิ่งมีรากเยอ ะเหมือนกับพ่อแม่ของเรายิ่งแก่ชราก็ยิ่งพูดมาก

เหมือนคนโบราณที่กล่าวเอาไว้ว่า..ในบ้านมีผู้ชราที่เป็น “เสมือนของล้ำค่า”

ที่มีค่ายิ่งนักอย่าเห็นเพียงท่านเป็นคนเฝ้าบ้าน อย่าเห็นท่านเป็นเพียงคนแก่คนหนึ่ง

ก่อนนั้นคนเฝ้าบ้านคนนี้นี่แหละ… ที่เป็นคนสอนให้พูด

ก่อนนั้นที่เคี้ยวข้าวไม่เป็น คนเฝ้าบ้านคนนี้นี่แหละ… ที่คอยเคี้ยวข้าวบดข้าวให้ทาน

ก่อนนั้นที่เดินไม่เป็นคนเฝ้าบ้านคนนี้ไงล่ะ… ที่เป็นคนคอยจูงมือหัดเดิน

ก่อนนั้นที่กินข้าวเหลือคนเฝ้าบ้านคนนี้นี่แหละ… ที่เอามากินต่อ โดยไม่บ่นสักคำ

ก่อนนั้นที่ล้างก้นตัวเองไม่เป็นคนเฝ้าบ้านคนนี้ไง… ที่ล้างให้โดยไม่รังเกียจ

เวลาใส่บ าตรท่านคนนี้ใส่ด้วยจิตนอบน้อม  ยามใส่บาตร พระพ่อพระแม่ ใส่ด้วยจิตนอบน้อมหรือไม่

ยามเรียกลูกหลานกินข้าว… ท่านเรียกด้วยคำพูดอันอ่อนหวาน

ยามเรียกพ่อแม่ท่านทานข้าว… เรียกด้วยน้ำเสียงอย่างไรกัน

แล้วในตอนนี้… คนที่เคยสำคัญที่สุดในชีวิตยังสำคัญที่สุดในชีวิตและจิตใจของคุณอยู่ไหม ?