ผู้สูงอายุมีเฮ อายุ 60 ปี ขึ้นไป รับเดือนละ 3,000 บาท รัฐบาลเสนอ พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ

นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับท่านผู้สูงอายุทั้งหลาย เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ ยื่นหนังสือ ต่อ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อขอให้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติบำนาญแห่งชาติ ให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยบำนาญ 3,000 บาทต่อเดือน แทนการได้เงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

และเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นเบี้ยบํานาญ เพื่อเกิดความเสมอภาค โดยจัดสรรงบประมาณ จัดเก็บภาษีที่มีเดิมให้มีประสิทธิภาพ พิจารณาการลดหย่อนภาษีใหม่ โดยเฉพาะภาษีจากการลงทุน ปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลง และเปลี่ยนเงินสงเคราะห์ต่างๆ มาพัฒนาระบบสวัสดิการ

โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้มีการระดมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ เข้าชื่อกันรวม 10,000 รายชื่อแล้ว เพื่อผลักดันระบบบำนาญแห่งชาติให้เป็นจริง

โดยหวังให้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล พิจารณาสนับสนุนกฎหมาย ที่มาจากเจตนารมณ์ของประชาชนและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกพรรคการเมืองจะดำเนินการ และมีแนวทางที่ร่วมผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้เป็นจริง

แม้ว่าปัจจุบันจะมีระบบสวัสดิการเชิงบังคับ เช่น พ.ร.บ.ประกันสังคม ที่บังคับให้ลูกจ้าง ต้องร่วมจ่ายเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ตามที่กำหนด หรือ สวัสดิการข้าราชการที่รัฐสนับสนุนจ่ายให้ 100% แต่กลับครอบคลุมเพียง 10-15 ล้านคน เท่านั้น

ในขณะที่คนไทยอีกกว่า 50 ล้านคน ไม่มีหลักประกันด้านสวัสดิการใด จึงผลักดันนโยบายการจัดรัฐสวัสดิการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี และเห็นว่ามีความจำเป็นต้องเร่งผลักดันร่างดังกล่าว เพื่อรองรับสังคมสูงวัยที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 10 ถึง 11 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ถ้าร่างพ.ร.บ. เกิดขึ้นจริงก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้สูงอายุ ที่จะได้มีหลักประกันรายได้ อีกทั้งยังจะมีรายได้ไว้ใช้ในยามแก่ชราอีกด้วย และหวังว่ารัฐบาลจะช่วยผลักดันให้เกิดขึ้นจริงนะคะ