ปล่อยเขาไปอยู่ที่ชอบๆ ไปอยู่กับคนที่เขาชอบมากกว่าเรา

ปล่อยเขาไปอยู่ที่ชอบๆ ไปอยู่กับคนที่เขาชอบมากกว่าเรา

คนเรามักเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักอยู่บ่อยๆ นั่นคือมักจะคิดว่า ถ้ารักกันแล้วเราต้องขาดกันไม่ได้ ต้องตัวติดกันอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อคนที่เรารักเลิกกับเราไปแล้วไปอยู่ที่ชอบๆ นั่นคือไปอยู่กับคนที่เค้าชอบมากกว่าเราและที่ชอบของเขาไม่ได้เป็นที่ชอบของเรา

ไม่ว่าหญิงชายที่โดนแบบนี้มักจะกินไม่ได้นอนไม่หลับคิดถึงเค้าอยู่ตลอดเวลาบางคนถึงกับคิดสั้นเลยก็มี

วันนี้ขอหยิบยกเรื่องราวของคนไข้สาวรายหนึ่งที่แฟนหนุ่มพึ่งจากไปที่ชอบๆ (ไปหาสาวอื่น)

ฉันไม่อย ากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาค่ะหมอ เธอรำพึงรำพันกับจิตแพทย์ ซึ่งเธอลืมไปแล้วหรือว่าก่อนหน้าที่เธอจะมีเขาเธอก็อยู่มาได้

ฉันรักเขามากค่ะ คุณหมอคงทราบใช่ไหมคะว่าหนูรักเขามากขนาดไหน ทุกถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเอ่ออาบแก้ม จิตแพทย์ยื่นกระดาษทิชชูเช็ดน้ำตาเธอจนหมดกล่อง

สงสัยคุณจะเข้าใจผิดแล้วแหละครับ คุณผู้หญิง คุณไม่ได้รักแฟนคุณเลยสักนิด จิตแพทย์เอ่ยขึ้น

คุณหมอพูดแบบนี้ได้อย่างไรค่ะ ก็ฉันพึ่งจะพูดไปว่าขาดเขาไม่ได้ ถ้าขาดเขาแล้วหนูก็ไม่อย ากมีชีวิตอยู่ต่อไป เธอแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

จิตแพทย์ยกมือขึ้นปรามเธอพร้อมอธิบาย สิ่งที่คุณพูดกับหมอมาทั้งหมดมันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกครับ ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาเรียกว่า ภาวะกาฝาก

ตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณ คุณก็ทำตัวเหมือนพย าธิในร่างกายเขา มันทำให้ชีวิตของคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสระภาพ

คุณลองถามตัวคุณเองว่ามันเป็นภาวะจำเป็นหรือความรักกันแน่ คนไข้สาวอึ้งไปชั่วขณะ เหมือนว่าหมอต้องการซ้ำเติมเธอหรืออย่างไร

ความรักที่แท้จริงต้องมีอิสรภาพ คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้งสอง สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่างไม่เป็นทุกข์ แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อความสุขที่มากขึ้น

หลังจากจิตแพทย์พูดจบ คนไข้สาวเริ่มดวงตาเห็นธรรม รอยยิ้มเริ่มปรากฎขึ้นที่มุมปาก

คำพูดของคุณหมอเปรียบเสมือนแสงตะวัน ที่สาดส่องทะลุทำลายกำแพงหมอก แห่งมิจฉาทิฐิของฉัน บัดนี้ดิฉันได้เห็นแล้วซึ่งสัจธรรม ตั้งนี้ไปจะขอดำเนินชีวิตที่เหลือ ตามรอยแห่งพุทธะ สาธุ

จิตแพทย์ที่พูดเตือนสติแทนการพูดปลอบใจท่านนี้ คือ Dr Scott Peck ซึ่งได้เขียนบรรย ายเหตุการณ์เรื่องนี้ ในหนังสือขายดิบขายดีของเขาชื่อ The Road Less Travelled

ซึ่งได้ให้แนวคิดเรื่อง ภาวะพึ่งพิง (Dependency) ไว้ด้วยความหมายว่า เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิต โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่นได้

แต่ถ้าคุณถึงขั้น ขาดเขาไม่ได้ จงอย่าเอาคำว่า รักเขามากเหลือเกิน มาลวงหลอกใจตัวเอง ยิ่งต้องถึงขั้นคิดสั้นเลย นั่นยิ่งแสดงว่า แม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่รัก

หลายคนคิดว่าถ้าฉันไม่อยู่แล้ว จะทำให้เขารู้สึกผิดกับการกระทำของเขาที่ทิ้งเราไป คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่ไร้ค่า

ปัจจุบันหญิงไทยเรามีการศึกษา มีการงานและความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย ไม่จำเป็นต้องอาศัยเพศชายเป็นผู้นำของชีวิตเหมือนหญิงไทยสมัยโบราณ การอยู่เป็นโสดหรือหย่าร้าง ไม่มีผลถึงกับทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้

ผู้หญิงทั้งหลายจึงสามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้อย่างมีความสุข และภาคภูมิใจ ในเกียรติของผู้หญิง และหากได้พบชายใดที่เราเห็นว่า

ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นและดีขึ้น กว่าการอยู่คนเดียว คุณก็อยู่ในฐานะที่มีโอกาสเลือก ไม่ใช่จำเป็นต้องเลือก หรือจำใจเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต

ที่มา rugyim