พ่อแม่ของฉันไม่เคยให้อะไรฉันเลย

พ่อแม่ของฉันไม่เคยให้อะไรฉันเลย

อย ากให้ทุกท่านได้สละเวลาอ่าน นิทานเรื่องนี้สอนได้ดีมาก แล้วคุณจะไม่บ่นหรืออิจฉาคนอื่นว่าพ่อแม่คนนั้นให้นู่นให้นี่ ทำไมพ่อแม่ฉันถึงไม่ให้อะไรกับฉันเลย

ณ ริมถนนแห่งแห่งหนึ่งขอทานคนหนึ่งนั่งขอทานบ่นรำพึงรำพันขึ้นว่า

ขอทาน : พ่อแม่ทำไมไม่เคยให้อะไรฉันเลย ชีวิตนี้ไม่มีอะไรเลย บ้านก็ไม่มีให้อยู่ ข้าวก็ไม่มีให้กิน งานก็ไม่มีให้ทำ ทำไมเกิดมาฉันช่างโชคร้ ายอย่างนี้นะ ทำไมไม่เกิดเป็นลูกคนที่เขารวยๆ

เศรษฐีท่านหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้าจึงเอ่ยว่า

เศรษฐี : เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ขายแขนให้ฉัน ฉันให้ข้างละ 20 ล้าน

ขอทาน : ตลกหรือเปล่าคุณ มีเงินแต่ไม่มีแขนจะทำอะไรได้ถามอะไรแปลกๆ

เศรษฐี : งั้นขาละขายไหม ฉันให้เหมือนกัน 20 ล้าน

ขอทาน : ยิ่งตลกไปใหญ่แล้ว มีเงินแต่ไม่มีขา แล้วจะเดินไปไหนมาไหนอย่างไรเล่า

เศรษฐี : อะๆงั้นดวงตาก็ได้ฉันก็ให้คู่ละ 20 ล้านเหมือนกัน

ขอทาน : โอ้ย จะอะไรๆก็ไม่ขายหรอก ร่างกายถ้ามันขาดหายไปจะอยู่อย่างไร จะทำอะไรได้อีกหล่ะคุณ

เศรษฐี : เอ้าไอ้เจ้าคนนี้ อะไรๆก็ไม่ขาย แล้วเอ็งมาบอกว่าพ่อแม่เอ็งไม่เคยให้อะไรเลยกับเอ็งเลยนี่มันหมายความว่าอย่างไร ถ้าเอ็งยอมขายทุกอย่างในร่างกาย เอ็งรวยเป็นร้อยล้านเป็นมหาเศรษฐีได้เลยนะ

ใครๆเขาเกิดมาก็ได้อวัยวะเท่าๆเอ็งกันทั้งนั้น มีบางคนน้อยกว่าเอ็งซะอีกถ้าไม่รู้จักทำงานทำการ มีขาไม่รู้จักก้าวเดิน มีสมองไม่รู้จักคิดชีวิตเอ็งไม่มีอะไรก็เพราะตัวเอ็งเองอย่าไปโทษพ่อแม่ท่านเลยโทษก็ต้องโทษตัวเองนั้นแหละ

คนจรจัดได้ฟังดังนั้นก็คิดได้ น้ำตาคลอเบ้ากราบขอบคุณเศรษฐีที่ช่วยชี้แนะและเริ่มพย าย ามทำชีวิตตนเองให้ดีขึ้นสมกับที่พ่อแม่ให้ร่ายกายและจิตใจนั้นมา

คนบางคนอาจมีความคิดเหมือนกับคนจรจัดผู้นี้ที่มัวแต่อิจฉาคนอื่นที่พ่อแม่ประเคนทุกอย่างให้ แต่คุณทราบหรือไม่คะว่า สิ่งที่พ่อแม่ให้คุณนั้นอาจเป็นทั้งหมดที่ท่านมีก็ได้ ดังนั้นจงภูมิใจที่ท่านมีพ่อกับแม่ที่รักท่านหวังดีคอยดูเอาใจใส่ท่านเถอะค่ะ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ที่มา ธรรมนูญ สุขสำราญ