ลาออกจากงานเดิม ดำเนินการอย่างไร? กับประกันสังคม

ประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่มีรายได้ และมีการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม การคลอดบุตร ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร และว่างงาน และให้ผู้ประกันตนได้รับการรักษาพยาบาลและมีได้รับการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอาจสงสัยสิทธิประกันสังคมควรรู้ มนุษย์เงินเดือน ลาออกจากงาน ได้เงินชดเชยเท่าไร ต้องจัดการเรื่องประกันสังคมยังไง วันนี้เราจะพาไปดูข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นยังไงนั้น สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังจะลาออก ว่าต้องจัดการยังไงบ้างกับสิทธิประกันสังคมของตัวเอง  ตามไปดูกันเลยครับ  

         แจ้งประกันสังคม เพื่อรับเงินชดเชยว่างงาน  

          เมื่อลาออกจากงานแล้ว ในช่วงที่ยังไม่มีงานใหม่ทำ เราสามารถขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงานเพื่อขอรับเงินชดเชย ได้ตามขั้นตอนดังนี้  

          1. ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน  

          สามารถขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านอินเทอร์เน็ต ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานจัดหางาน empui.doe.go.th ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ลาออก ถ้าเกินกำหนดจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ย้อนหลังได้  

          2. ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) 

          จากนั้นให้ยื่นเพื่อขอรับสิทธิ์เงินทดแทนกรณีว่างงาน ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) โดยแนบหลักฐาน ดังนี้  

          -  แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) 

          - หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส. 6-09)  

          - หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี) 

          - หนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย กรณีผู้ประกันตนว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย 

          - สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขบัญชีของผู้ประกันตน ผ่าน 11 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, กรุงศรีอยุธยา, กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย, ทหารไทย, ธนชาต, ซีไอเอ็มบีไทย, อิสลามแห่งประเทศไทย, ออมสิน และ ธ.ก.ส. 

          3. รายงานตัวทุกเดือนกับสำนักงานจัดหางาน เราต้องรายงานตัวอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อรับเงินว่างงาน ผ่านเว็บไซต์สำนักจัดหางาน empui.doe.go.th ตามกำหนดเวลาในแต่ละเดือน แจ้งล่วงหน้าได้ 7 วันก่อนถึงกำหนด โดยเงินที่ได้รับแต่ละเดือนจะโอนเข้าบัญชีที่เรายื่นเรื่องไว้ 

         ลาออกจากงาน ประกันสังคมจ่ายเงินชดเชยเท่าไร ?

          กรณีลาออกจากงานเอง โดยสมัครใจ ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนว่างงานไม่เกินปีละ 90 วัน ในอัตรา 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย (คิดจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำ 1,650 บาท/เดือน และฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท/เดือน) เช่น  

          - เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน

          - เงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 4,500 บาท (คิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท) เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน

          แต่ถ้าเป็นกรณีถูกเลิกจ้าง ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนไม่เกินปีละ 180 วัน ในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เช่น 

          - เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน

          - เงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 7,500 บาท (คิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท) เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน

          ทั้งนี้ คนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากประกันสังคม ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน และว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป ที่สำคัญคือต้องไม่ถูกเลิกจ้างด้วยสาเหตุ ดังต่อไปนี้  

          - ทุจริตต่อหน้าที่ หรือทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง 

          - จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย 

          - ฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณีร้ายแรง 

          - ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร 

          - ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง 

          - ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา 

          - ต้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ 

        ลาออกแล้ว สิทธิประกันสังคม จะเป็นอย่างไร
          

          แม้จะลาออกจากงานประจำและไม่ได้ส่งเงินสมทบแล้ว ผู้ประกันตนจะยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมต่าง ๆ ทั้งกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต ได้เหมือนเดิมต่ออีก 6 เดือน หลังจากลาออก ทว่าหากพ้น 6 เดือน เรายังไม่ได้เริ่มทำงานกับบริษัทใหม่ หรือได้เปลี่ยนไปทำอาชีพอิสระแล้ว ก็จะทำให้สิทธิการเป็นผู้ประกัน มาตรา 33 หมดลง ทำให้เราต้องตัดสินใจใน 2 ทางเลือก ดังนี้  

          1. สมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39  

          หากยังอยากอยู่ในระบบประกันสังคมต่อไป สามารถย้ายมาเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 แทนได้ แต่ต้องเคยส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน และยื่นคำขอผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ลาออกจากงาน  โดยผู้ประกันตน มาตรา 39 จะต้องส่งเงินเข้ากองทุน 432 บาท/เดือน โดยรัฐบาลจะช่วยสมทบอีก 120 บาท/เดือน ได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี  คือ กรณีเจ็บป่วย/อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ 

          2. ออกจากประกันสังคมไปเลย 

          หากเราไม่ทำอะไรต่อจากนี้ สิทธิประกันสังคมกรณีเจ็บป่วยและว่างงาน ก็จะขาดโดยอัตโนมัติ หากเจ็บป่วยอะไรขึ้นมา ก็จะต้องใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง แทน 

          ส่วนเงินชราภาพที่มีอยู่ จะได้รับก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งต้องทำเรื่องภายใน 1 ปี หลังเกษียณ ห้ามเกินแม้แต่วันเดียว สำหรับเงินที่ได้จะแบ่งเป็น 2 แบบตามระยะเวลาที่ส่งสมทบ คือ 

          - จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 15 ปี จะได้รับเงินบำเหน็จ  

          - จ่ายเงินสมทบมากกว่า 15 จะได้รับเงินบำนาญรายเดือน

          อย่างไรก็ตาม หากเรากลับมาทำงานประจำใหม่ สิทธิประกันสังคมมาตรา 33 จะกลับมาได้อีกครั้ง โดยนายจ้างจะเป็นผู้ยื่นเรื่องดำเนินการกับประกันสังคมเอง ซึ่งเงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพของเดิมจะยังคงอยู่และสะสมเพิ่มต่อไปเรื่อย ๆ ส่วนสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ให้เริ่มนับหนึ่งใหม่ 

         ก็เป็นสาระที่ควรรู้สำหรับบุคคลที่เป็นพนักงานเงินเดือนที่มีสิทธิประกันสังคม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลาออก ขุั้นตอนหลังจากลาออกจะต้องทำยังไง ถ้าหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคม โทร. 1506 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานประกันสังคม