คนมีรถควรรู้ไว้ จะได้รู้ทันประกันภัย

คนมีรถควรรู้ไว้ จะได้รู้ทันประกันภัย

คนมีรถควรรู้ไว้ เมื่อมีรถก็ต้องใช้รถ พอใช้รถก็มีความ เ สี่ ย ง เสมอที่จะเกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ต่าง ๆ ขึ้นได้ตลอดการทำประกัน ภั ยรถยนต์เอาไว้บ้างก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้อุ่นใจได้ อย่างน้อยก็ช่วยในด้านของค่าใช้จ่าย ค่าซ่อม ค่า รั ก ษ า พ ย า บ า ล ซึ่งก็แล้วแต่กรมธรรม์ประกันที่เราเลือกว่าคุ้มครองอะไรบ้าง จะคุ้มครองแค่คู่กรณีหรือคุ้มครองเราด้วย เลือกได้ตามสะดวกเลย เอาล่ะวันนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับประกันมาให้อ่าน เพื่อที่จะได้ไม่เสียประโยชน์จากประกันรถกันนะ เป็นเรื่องของคุณ Somchet J.Mhin ซึ่งเขาได้ทำเรื่องเกี่ยวกับการเรียกค่าสินไหมทดแทน ค่าเสียเวลาจากประกัน ในกรณีที่รถของเรานั้นโดนชน รายละเอียดเป็นอย่างไรลองมาติดตามอ่านกันเลย

คนมีรถควรรู้ไว้

เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อช่วง 2 เดือนก่อนขณะที่เขากำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน ก็โดนชนท้าย แถมยังเสียเวลาซ่อมไปนานกว่า 40 วันเลย เพราะว่าบริษัทประกันของคู่กรณีนั้นมัวแต่จะประหยัดค่าอะไหล่อยู่เลยทำให้เสียเวลามาก หาอะไหล่มือสองมาเปลี่ยนให้ แต่เด็กที่อู่ก็ตีกลับไปว่าให้ใช้อะไหล่ใหม่ทั้งหมด แล้วเขาก็ไม่ได้รีบเพราะมีรถสำรองใช้อยู่ แต่มันก็นานไปนะเลยจะจัดการประกันสักหน่อย

พอรถซ่อมเสร็จ ก็เลยเรียกค่าเครม หรือที่เรียกว่าค่าขาดประโยชน์ เรียกไป 45 วัน เรียกวันละ 1,000 บวกกับค่าเสื่อมสภาพรถ เป็น 5 หมื่นกว่าบาท บริษัทประกันเงิบ ต่อรองของจะจ่ายแค่ 20,000 บาท เลยแกล้งยื้อเล่นๆ เขาเลยให้มา 25,000 บาท ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เราเป็นฝ่ายถูก นอกจากกรณีนี้จะต้องซ่อมแซมรถของเราให้กลับมาสภาพดังเดิมแล้ว เรายังสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทน ค่าขาดประโยชน์จากการไม่ได้ใช้รถได้อีกด้วย ส่วนวิธีก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร และในทางกลับกัน หากเราไปชนเขา คู่กรณีก็มีสิทธิ์เรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์ด้วยเช่นกันนะครับ เชื่อว่าคนรู้เรื่องนี้กันน้อย บริษัทประกันเลยได้ประโยชน์ไป ที่ไม่ถูกเรียกร้องสินไหมในส่วนนี้ แต่สำหรับเพื่อนๆ

พอเขาเอาเรื่องนี้มาโพส แ ช ร์ ประสบการณ์เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถส่วนใหญ่เสียรู้ประกันภัยก็มีการ แ ช ร์ ต่ อ เยอะมากจนตอบกันไม่ไหวเขาเลยเอามาเล่ารายละเอียดในการยื่นขอสินไหมไว้ดังด้านล่างนี้เลย สำหรับใครที่เจอกรณีแบบนี้ก็อย่าเสียสิทธิ์ของตนเองไปนะ

ภาพประกอบ

เอกสารที่ใช้ในการขอสินไหมค่าขาดประโยชน์

– สำเนาใบเคลม

– สำเนาใบรับรถ(จากอู่ที่ซ่อมรถ ซึ่งเขาจะต้องลงวันที่ว่ารับรถวันไหน)

– สำเนาทะเบียนรถ (เพื่อเป็นการแสดงว่า ใครเป็นเจ้าของรถ ถ้ารถติดไฟแนนซ์ ต้องมีสำเนาสัญญาไฟแนนซ์ด้วย)

– สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ

– ใบมอบอำนาจ (ถ้าไม่ได้ไปเอง)

– ใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ไม่มีรถใช้ เช่น ค่าเช่ารถ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร บอกว่าขึ้นแท๊กซี่เอา

จดหมายขอค่าขาดประโยชน์ ดังตัวอย่างของเขียนดังนี้

วันที่ 18 กันยายน 2558

เรื่อง ขอเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

เรียน แผนกสินไหมทดแทน บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)

เอกสารแนบ

– สำเนาใบเคลม, สำเนาใบรับรถ, สำเนาทะเบียนรถ, สำเนาบัตรประชาชน

ข้าพเจ้า นายxxxxx xxxxxxxx เป็นเจ้าของรถยนต์ โตโยโต้ รุ่นแคมรี่ หมายเลขทะเบียน xx xxxx กทม. ถูกรถเทรลเลอร์ยี่ห้อ ISUZU ของบริษัท อาร์ อาร์ เอสทรานสปอร์ต จำกัด หมายทะเบียน 70-8725 ฉะเชิงเทรา เลขกรมธรรม์ 5720425055 ชนท้ายที่ปากซอยรามอินทรา 45 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รถของข้าพเจ้ามีความเสียหายดังนี้

– กันชนหลังบุบและฉีก

– ฝาปิดท้ายบุบบี้

– บังโคลนหลังซ้ายขวาบุบ

– แผงท้ายบุบ

– ไฟท้ายซ้ายขวาแตก

– ไฟทับทิมซ้ายขวาแตก

– ท่อไอเสียแตก

ข้าพเจ้าได้จึงได้นำรถยนต์เข้าซ่อมที่ อู่ของบริษัท พีแอนด์ดับบลิว ออโต้เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นอู่ในเครือของ สินมั่นคงประกันภัย ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซ่อมเสร็จ วันที่ 11 กันยายน 2558 ใช้ระยะเวลาซ่อม 46 วัน

ข้าพเจ้าทำงานเป็นผู้บริหารบริษัท xxxxxxxxxxxx จำกัด โดยปกติจะต้องใช้รถยนต์สำหรับติดต่อลูกค้าทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลทุกวัน ประมาณ 100-200 กม./วัน ในระหว่างที่นำรถเข้าซ่อมนั้น ข้าพเจ้าต้องใช้บริการรถแท็กซี่ในการเดินทางแทนและมีความไม่สะดวกในการเดินทางอย่างมาก

ดังนั้น จึงขอเรียกสินไหมดังต่อไปนี้

– ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ 1,000 บาทต่อวัน เป็นระยะเวลา 46 วัน รวม 46,000 บาท

– ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ 10,000 บาท

รวมทั้งสิ้น 56,000 บาท (ห้าหมื่นหกพันบาทถ้วน) ทั้งนี้ได้แนบตัวอย่างอัตราค่าเช่ารถโตโยต้าแคมรี่มาเพื่อประกอบ

การพิจารณา

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถือ

(นายxxxxxx xxxxxxxx)

ภาพประกอบ

เรื่องราวของเขามีประโยชน์อย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่ที่ใช้รถกันก็เชื่อว่าไม่ค่อยมีใครรู้ว่าในส่วนของการขอค่าสินไหมทดแทนค่าเสียเวลาแบบนี้จะทำได้ จนทำให้เราได้รับเงินก้อนกลับมาใช้ ตรงเวลาที่เราเสียไป ฉะนั้นแล้วก่อนจะทำประกันอะไรควรจะศึกษารายละเอียดให้แบบละเอียดสุด ๆ เลยโดยเฉพาะข้อได้ข้อเสียในแต่ละกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถเอง อะไรที่เราควรจะได้แต่บริษัทประกันไม่บอกและเราไม่ทำเรื่องยื่นขอมันก็จะเงียบไปกับสายลมแบบนั้นนะ อ่านจบแล้วก็อย่าลืมแบ่งความรู้กันไปเยอะ ๆ เลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Somchet J. Mhin ,postsara