ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไหร่ ยิ่งอยู่สูงเท่าไร ยิ่งต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้น

ยิ่งสูงยิ่งต้องโน้มลงต่ำ ผู้คนจะรู้สึกชื่นชมทุกครั้งที่ได้เห็น

ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไหร่ ยิ่งอยู่สูงเท่าไร

ยิ่งต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้น

ความอ่อนน้อมนี่เอง จะสามารถถ่วงน้ำหนัก

ทำให้เท้าของเราให้ติดดิน ไม่ลอยขึ้นฟ้าเพราะความลำพองใจ

การเห็นคุณค่าของตัวเองนั้นไม่ผิด แต่อย่าให้มันหลง…

ถึงขนาดทำให้เรากลายเป็นคน… หลงตัวเอง

เพราะคนหลงตัวเอง ก็คือ คนแพ้ตัวเอง

คนที่แพ้ตัวเอง ก็คือ คนที่แพ้ทุกสิ่งทุกอย่าง…

ส่งเสริมอัตตาตัวตน ตัวกู-ของกูให้มากขึ้น

เลิกอวดรวย อวดเบ่งในอำนาจ อวดบุญบารมี

คนที่อิ่มในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพูดบอกใครต่อใครว่าฉันอิ่ม

แต่คนที่ขาดต่างหาก ต้องอวดเพื่อสร้างเกราะกำบังให้คนอื่นไม่รู้ว่าฉันขาด

ในทางจิตวิทยาจึงบอกว่า… ใครชอบอวดอะไร ลึกๆ คือ เคยขาดสิ่งนั้นมาก่อน

ยิ่งอวดมากเท่าไหร่ ในใจจะเหมือนมีพายุที่ไม่มีวันสงบสิ้นได้ซักที

เก่งได้ แต่ อย่าอวดเก่ง ภูมิใจได้ แต่อย่าให้มากถึงขนาดหลงตัวเอง

ยิ่งคิดว่าตัวเองดีเลิศเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสสูง ที่เราจะลืมตัวมากเท่านั้น

“เจ้าของบริษัท” ยกมือไหว้ “ลูกน้อง” ที่มีอายุมากกว่า

ไม่วางมาดเหมือนเป็นเจ้าชีวิตของพนักงาน

เพราะเชื่อในแนวคิดที่ว่า…

ยิ่งสูงยิ่งต้องโน้มลงต่ำ ยิ่งเป็นผู้นำยิ่งต้องทำตัวติดดิน

เป็นหัวหน้าคนต้องนั่งในใจ ไม่ใช่นั่งบนหัวคน

ผู้นำนั้นไม่ใช่คนที่ขึ้นไปอยู่บนที่สูง แล้วชี้นิ้วสั่งลงมา

แต่คือคนที่ลงมาร่วมลงเดินไปกับลูกน้อง

เจ้าของบริษัทที่แท้จริง ก็ไม่ใช่แค่คนที่จ่ายเงินให้พนักงาน

แต่คือคนที่จ่ายความรักความเมตตาให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา

เพราะเมื่อผู้นำได้ใจผู้ตามไปแล้ว

ทุกคนก็พร้อมจะลุยไหนลุยนั่น ว่าไงว่ากัน

ส่วนใครที่เป็นลูกน้องของเจ้านายแบบนี้

ก็อย่าทำให้เจ้านายเสียกำลังใจนะ

ตั้งใจทำงานให้สมกับที่มีเจ้านายดี ๆ

ไม่มีเจ้านาย ลูกน้องก็อยู่ไม่ได้

ไม่มีลูกน้อง เจ้านายก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ต่างคนต่างต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

ไม่มีใครเหนือใคร ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน

Cr. ratree wasitsurawong