Home »
ทั่วไป
»
สุดติดดิน ‘ปรีชา เรืองจันทร์’ จากเด็กเลี้ยงควายไถนา สู่ผู้ว่าฯ ใช้ชีวิตพอเพียง
สุดติดดิน ‘ปรีชา เรืองจันทร์’ จากเด็กเลี้ยงควายไถนา สู่ผู้ว่าฯ ใช้ชีวิตพอเพียง
บอกเลยว่าความสุขของคนเรานั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่รวยร่ำรวยหรือเรามีรถมีราขับอยู๋มากมาย
มีเงินทองเข้าสังคมมากหน้าหลายตาซึ่งบางครั้งความสุขนั้นก็สามารถสร้างได้ง่ายๆจากพื้นที่เล็กๆจากการทำเกษตรและการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงนั้นเองอย่างเช่นคุณ
ปรีชา เรืองจันทร์
พี่หมายถึงว่ามีระดับดีดีกรีด็อกเตอร์แต่สุดท้ายก็ผ่านชีวิตของตัวเองมาอยู่ในทางด้านของความเศรษฐกิจพอเพียง
โดยคุณปรีชานั้นจะเกิดในวันที่ 4 มิถุนายน 2558
ที่บ้านหนองไผ่ตำบลวังสำโรงอำเภอบางมูลนากจังหวัดพิจิตรโดยครอบครัวนั้นพื้นเพเป็นชาวนา
มีฐานะที่ไม่ค่อยดีนัก
โดยย้อนไปเมื่อสมัยก่อนเด็กชายปรีชานั้นเป็นหนึ่งในเด็กที่ยากจนจะต้องหยุดเรียนเพื่อไปเป็นชาวนา
เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ตามรอยเท้าพ่อถึง 6
ปีเต็มแต่สุดท้ายด้วยความมุ่งมั่นและความใฝ่การเรียนรู้จึงได้กลับมาเข้ามาศึกษาในการศึกษาระบบนอกโรงเรียนหรือกศนและมีการสอบเทียบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่กระทรวงศึกษาธิการจนกระทั่งสามารถเรียนจบในระดับชั้นมหาลัยจนสำเร็จ
โดยได้เรียนจบระดับปริญญาตรี ในปี พ.ศ 2518
คณะรัฐศาสตร์บัณฑิตต่อมาก็เรียนที่จุฬาฯปริญญาโทปี พศ 2522
คณะรัฐศาสตร์มหาบัณฑิตและก็ศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์
โดยนัยต่อมานายปรีชาเรืองจากนั้นก็ได้มีโอกาสเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนระดับ
3 สำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์ในปี 2519
และได้มีการเจริญเติบโตในชีวิตในรัชกาลใดมาตามลำดับโดยดำรงอยู่ในตำแหน่งปลัดอำเภอในพื้นที่เขตอย่าง/อำเภอหนองบัว/อำเภอเมืองนครสวรรค์/อำเภอโกรกพระและยังเป็นผู้ตรวจการส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครสวรรค์
/นักวิชาการการปกครองในอำเภอยางชุม/ผู้อำนวยการกองราชการส่วนตำบลกรมการปกครอง/ผู้อำนวยการกองการข่าวสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและอีกมากมาย
หลังจากที่ทำงานราชการมาแรมปีการสุดท้ายหลังจากที่เกษียณก็ได้หันกลับไปชีวิตใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่บ้านส่วนของตัวเองในจังหวัดบ้านเกิดคือจังหวัดพิจิตร
โดยหันมาใช้ชีวิตแบบเกษตรพอเพียงทำสวนทำนาทำไร่ทำสวนแบบผสมผสานเสียมากกว่าโดยจะเน้นหลักการปลูกทุกอย่างที่กินได้และกินทุกอย่างที่ปลูกจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหาอาหารแต่อย่างใดแต่สิ่งที่ของที่ปลูกไม่ได้ก็จะทำเกษตรแบ่งปันปลาก็มีเลี้ยงไว้รับประทานกินเอง
เหลือก็ขาย
อีกทั้งก็ยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษอยู่ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรและให้ความรู้ตามที่ได้รับเชิญรวมถึงไปบรรยายให้ความรู้จากผู้คนที่ต้องการด้วย
ซึ่งทางด้านด็อกเตอร์ปรีชาการเรียนนั้นก็ได้มีการเปิดเผยกับกับการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีการสำรวจตัวเองก่อนเป็นเริ่มแรกว่าอะไรและใจรักถึงไหนซึ่งหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ทำได้จริงนะสามารถทำได้จริงหรือยังโดยจะต้องมีการใช้การลงมือทำจริงและใช้ชีวิตอย่างพอเพียงโดยมีการลำดับขั้นตอนความคิดดังนี้..
1 ทำอะไรที่ตัวเราไม่เดือดร้อนก็ทำไป
2 ทำในสิ่งที่ครอบครัวเราไม่เดือดร้อนก็ทำไป
3 ทำที่คนข้างเคียงไม่เดือดร้อนก็ทำไป และ
4 สังคมไม่เดือดร้อนก็ทำไป คนที่ไม่ทำไม่ผิด เราลงมือทำ ทำผิดไม่ดีก็แก้ไข
ความสำเร็จต้องลงทำ
ความรู้อย่างเดียวไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าจะประสบความสำเร็จ ความมุ่งมั่น
ตั้งใจและลงมือทำคือสิ่งที่จะบ่งบอกได้
และนี่ก็คือ 1
ตัวอย่างที่ทุกคนนั้นสามารถนำความคิดเอาไปใช้ได้และปรับไปใช้ให้เข้ากับตัวเองได้ซึ่งการใช้ชีวิตแบบสวนเกษตรนั้นนอกจากจะสามารถสร้างชีวิตแบบยั่งยืนได้นั้นเป็นคนที่ดูแลก็ต้องรักในการทำเกษตรด้วยนะคะ