บทเรียนชีวิต ขี้ข้าห้องแอร์หรือนายตัวเอง

จบมาเป็นขี้ข้าห้องแอร์เงินเดือน 15,000เจ้านายก็หน้าหม้อ เพื่อนผู้ร่วมการทำงานก็ริษยาไหนจะลูกค้าโง่เง่า!! ทนๆๆๆๆทนมา3ปี กะจะหาสถานที่สำหรับทำงานใหม่พอใช้อ้าว!!ที่ใหม่ก็ไม่แตกต่างจากที่เก่าพวกเราเพียงแค่เปลี่ยนที่ทุกข์!! ตื่นมาแทนที่จะได้รับประทานกาแฟอ่านหนังสือที่ชอบก่อนจำเป็นต้องรีบเร่งวิ่งไปหาเครื่องตอกบัตร

เที่ยงตรงต้องการรับประทานร้านค้าโปรดก็ไกลทำเป็นเพียงแค่ทานข้าวแกงข้างออฟฟิตเนื่องจากว่ากลัวกลับเข้างานเลยเวลา! ต้องการออกจากงานวันละ3เวลาหลังรับประทานอาหารก็ทำไม่ได้ไพเราะเพราะพริ้ง…ผ่อนรถยนต์

ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก2-3ใบ ลาออกไปมีหวังกลับไปนั่งรถเมลล์ดังเดิม!! ชีวิตค่อยๆเดินลงทะเล ทีละก้าวผ่านไป 10 ปี

มีลูกยิ่งต้องระมัดระวังว่างงานมาไม่ใช่พวกเราผู้เดียวที่อด ไปดำเนินงานด้วยความจำยอมนายจ้างว่ายังยังไงก็จำเป็นต้องทน แต่ว่าก็แปลกอีกนะ….พวกเราพบแบบงี้มา

พวกเราก็ดันไป สอนลูกพวกเราต่ออีกว่า“ตั้งอกตั้งใจเรียนนะโตขึ้นจะได้ดำเนินงานดีๆ”ท้ายที่สุดพวกเรามิได้ทิ้งอะไรใว้ให้ลูกเลยแม้กระนั้นพวกเราทิ้งผู้รับจ้างใว้ให้โลกไว้ดำเนินการให้บริษัทบุคคลอื่นให้บุคคลอื่นมั่งมีนั้นเป็น ลูกพวกเรา นั้นเอง

คิดง่ายๆนะอาเฮียร้านรถจักรยาน เขาทิ้งธุรกิจการค้าร้านค้ารถจักรยานใว้ให้ลูกลูกรุ่นถัดไปเป็น…เถ้าแก่ ลุงดำ ทำงาน ร้านค้ารถจักรยานของอาเฮีย

ลุงดำจะมีอะไรทิ้งใว้ให้ลูก?คนจะมั่งมีคนจะกระทั่งมันมิได้ไม่เหมือนกันที่จำนวนเงินมันแตกต่างกันที่แนวทางคิด!!คุณต้องการมองเห็นตนเองตอนอายุ 60 เป็นอย่างไรมันขึ้นกับการคิดกระบวนการทำในวันนี้

เริ่มจากสิ่งที่ตัวเราเองถูกใจต้องการทำทำแล้วแฮปปี้แรกๆบางครั้งอาจจะเจ๊งเจ๊งก็ตามมันยิ่งเจ๊งยิ่งเก่งเสมือนฝึกหัดปั่นจักรยานนั่นแหละควรจะมีล้มบ้างเลือกเอาจะล้มขณะนี้ในเวลาที่ยังมีแรงลุกได้เร็วหรือล้มตอนอายุ60 ล้มมานี่ห่วยเลยนะอ่านจบแล้วเรียกว่าได้แง่คิด ได้มุมมองใหม่ๆอยู่เสมือน

แม้กระนั้นถึงอย่างไรก็แล้วแต่ก็ขึ้นนอยู่กับคนอ่านเองแล้วละครับ ว่า พวกเราจะเลือกทางไหนดี บางทีก็อาจจะจำต้องทดลองไปทั้งคู่ทาง เนื่องจากอย่างไรแล้วชีวิตก็คือการเรียนไปเรื่อยนั่นละครับ

ขอบพระคุณที่มา Tine Xaou

ฝ้าหาย ไม่ต้องเสี่ยง ดูเองกับตาว่าใช้วิธีไหน