เซอร์ไพร์สหนัก ‘อดีตนักร้องลูกทุ่งหนุ่มเสียงดี’ จากเวทีดัง ‘ไทด์ AF8’ ผันตัวเป็นสาวสวย พร้อมใช้ชื่อใหม่ (ชมคลิปท้ายข่าว)
ทำเอาแฟนๆ หลายคนถึงกับเซอร์ไพรส์หนักมาก สำหรับการเปลี่ยนลุคของอดีตนักร้องลูกทุ่งเสียงดีบนเวทีนักล่าฝันเมื่อปี 2554 กับ “ไทด์-วัชรินทร์ พลอยงาม” หรือ “ไทด์ AF8” ออกซิงเกิลเพลงของตัวเอง คือ “ฝันที่เป็นจริง” โดยการเปลี่ยนลุคของนักร้องหนุ่มในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการเปลี่ยนจากหนุ่มหล่อ มาเป็นสาวน้อยน่ารักหน้าตาสะสวย แถมยังใช้ชื่อใหม่ ‘ณพฤฒษภา พลอยงาม’
ไทด์ วัชรินทร์ หรือ ไทด์ AF8 เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเข้าประกวดบนเวทีล่าฝัน True Academy Fantasia ซีซั่น 8 พร้อมกับน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์หนุ่มลูกทุ่ง และถึงแม้เจ้าตัวจะไม่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้สมความตั้งใจ แต่ด้วยทักษะที่มีอยู่ จึงทำให้ ไทด์ ได้มีโอกาสออกซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง
อย่างเพลง ฝันที่ต้องเป็นจริง, รับแซบ, ขอบคุณที่มีเธอ รวมถึงยังเคยร่วมแสดงในละครซิทคอม สถานีพบรัก อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่มีความสามารถรอบด้านจริง เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มน้อยจากภาคอีสาน ที่เจอปัญหาอุปสรรคมากมายเข้ามาในชีวิตตั้งแต่เด็ก ๆ สำหรับหนุ่ม ไทด์ วัชรินทร์ พลอยงาม จากทรู แฟนเทเชีย
ที่วันนี้มาพร้อมงานเพลงซิงเกิลใหม่ ฝันที่ต้องเป็นจริง ที่ตั้งใจอยากแชร์ประสบการณ์แม้จะเจอมรสุมชีวิต ทั้งทางฐานะ ความเป็นอยู่ที่ต่างจากคนอื่น แต่หนุ่มคนนี้ก็มีกำลังใจจากครอบครัวที่อบอุ่น ทำให้เขากล้าที่จะฝันไกลแม้ความฝันนั้นอยู่ห่างไกลจากตัว ซึ่งเจ้าตัวเผยเคยปาดน้ำตา รับลำบากกาย จึงขอหยิบยกเรื่องตัวเองเป็นตัวแทนเพื่อนๆ
กับเนื้อหาที่ขยี้หัวใจนักสู้เพื่อฝันผ่านเพลงครั้งแรก รายละเอียดไปฟังเจ้าตัวเล่ากันเลย “สำหรับงานเพลงซิงเกิลใหม่เป็นแนวเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิตครับ แต่งมาจากความรู้สึกจริง ๆ ของไทด์ ชีวิตที่เราไม่สามารถเลือกได้ เคยลำบาก แต่ไม่ท้อ คือมีใจที่สู้เพื่อครอบครัวและอนาคตที่ดีกว่าวันนี้ (ยิ้ม) ซึ่งตรงกับเพลง ฝันที่ต้องเป็นจริง
แม้เราจากบ้านต่างจังหวัด เพื่อหวังมุ่งตามฝันในกรุงเทพฯ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวสุขสบาย ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนเจอเรื่องราวแบบเดียวกับผม บางครั้งแทบมองไม่เห็นช่องทางที่จะไปต่อ แต่ขอเพียงแค่เรามีกำลังใจที่ดี ทำเพื่อใคร คิดถึงพ่อแม่ที่อยากให้ท่านภูมิใจ ยอมเหนื่อยขอแค่ให้ท่านสบาย จึงจะสามารถขับเคลื่อนแรงกายแรงใจสู้ไปต่อได้
ไม่ให้หัวใจเราท้อ ผมเชื่อว่าเราต้องผ่านมันไปได้ ซึ่งส่วนตัวผมจากบ้านเพื่อจะได้มาเรียนหนังสือหาช่องทางทำกิน พร้อมเดินหน้าทำความฝันการเป็นศิลปิน ไม่ว่าระหว่างทางผมต้องทำงานโรงงาน พนักงานร้านอาหาร ร้านล้างรูป ก่อสร้าง ผมต้องขอบคุณทุก ๆ อาชีพที่สอนให้ผมได้เรียนรู้ ให้ผมได้มีชีวิตต่อไป ยิ่งเราลำบากเรายิ่งมีใจมุ่งมั่น
ทำฝันให้สำเร็จ แม้ตลอดที่ผ่านมาการประกวดร้องเพลงผมแพ้มาตลอด แต่เมื่อผมสามารถเก็บออมมีโอกาสเข้าเรียน โอกาสทางด้านอื่นๆ ก็เข้ามา ซึ่งก็อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ทุกคน ใครที่รู้สึกว่ากำลังเหนื่อย กำลังท้อแท้ มาเติมกำลังใจไปกับเพลงนี้ ฝันที่ต้องเป็นจริง ไปพร้อม ๆ กัน เพราะถ้าฝันอยู่คนเดียวอาจจะเป็นได้แค่ฝัน แต่ถ้ามาฝันด้วยกันมันจะมีพลังที่เป็นจริง เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ”
สำหรับเวที ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย (rue Academy Fantasia) (เดิมชื่อ ยูบีซี อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย) (อังกฤษ: UBC Academy Fantasia) หรือ ปฏิบัติการล่าฝัน เป็นรายการเรียลลิตี้โชว์เพื่อค้นหานักล่าฝันที่ได้รับความนิยมสูงสุด บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน)ซื้อลิขสิทธิ์และรูปแบบของรายการ La Academia จากประเทศเม็กซิโก
ซึ่งมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกับรายการ Star Academy ที่แพร่หลายไปทั่วโลกแต่ปรับเปลี่ยนมาเป็นเรียลลิตี้ 24 ชั่วโมง เป็นลำดับที่ 3 ถัดจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย รูปแบบของรายการ La Academia จากประเทศเม็กซิโก ซึ่งมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกับรายการ Star Academy ที่แพร่หลายไปทั่วโลกแต่ปรับเปลี่ยนมาเป็นเรียลลิตี้ 24 ชั่วโมง
รูปแบบรายการจะเป็นการคัดเลือก 12-24 นักล่าฝันจากทั่วประเทศเข้ามาเพื่อให้ครูในบ้านในแต่ละสาขา ได้แก่ สาขาการร้อง สาขาการแสดง และสาขาการเต้น ขัดเกลาเพื่อให้นักล่าฝันแต่ละคนฝึกซ้อมพร้อมกับรับโจทย์ในแต่ละสัปดาห์เพื่อแสดงคอนเสิร์ตในวันเสาร์ ท่ามกลางบ้านที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อถ่ายทอดให้เห็นทุกสิ่งตลอด 24 ชั่วโมง
ตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งจะใช้วิธีการตัดสินผ่านการโหวตจากผู้ชมทั่วประเทศ ผู้ที่ได้คะแนนโหวตน้อยที่สุดในแต่ละสัปดาห์เมื่อจบคอนเสิร์ตในวันเสาร์จะตกรอบและออกจากบ้าน และในสัปดาห์สุดท้ายของรายการ ผู้ที่ได้คะแนนโหวตสูงสุดจะได้รับรางวัลชนะเลิศ หรือที่มีศัพท์เฉพาะของรายการว่า สุดยอดนักล่าฝัน
เมื่อจบการแข่งขันในทุกซีซั่น นักล่าฝันทุกคนจะได้รับการเซ็นต์สัญญาเข้าสู่สังกัด ทรู แฟนเทเชีย ในอดีตช่วง AF1 – AF10 เป็นเวลา 5 ปี ปัจจุบัน ช่วง AF11 – AF12 เซ็นต์สัญญาเข้าสู่สังกัด ทรู แฟนเทเชีย เป็นระยะเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น แล้วแต่นักล่าฝันจะต่อสัญญา เพื่อดูแลงานศิลปินและสร้างผลงานในบันเทิงในด้านต่างๆ
โดยจะอ้างอิงตามความสามารถของแต่ละบุคคล โดยในฤดูกาลที่ 5 กิติกร เพ็ญโรจน์ กรรมการผู้จัดการในขณะนั้น ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การสร้างศิลปินจากนักล่าฝันจะเน้นสร้างคาแร็กเตอร์ให้แตกต่างกันมากขึ้น และไม่จำเป็นที่ว่าทุกคนจะได้ออกอัลบั้มเดี่ยว สถิติที่น่าสนใจใน AF4 เช่น 80% ของจำนวนคนโหวตมาจากผู้ใช้โทรศัพท์ทรูมูฟ
ระบบ Prepaid, 70-80% ของคนโหวต ไม่ใช่ลูกค้าทรูมูฟ, 15,000 บาทต่อสัปดาห์ คือเงินที่มีผู้มียอดโหวตสูงสุด รายได้ 1 ล้านบาทมาจากค่าแชตสดผ่านจอ ในฤดูกาลที่ 5 เฉพาะค่าสปอนเซอร์ สร้างรายได้ให้กับทรูแล้ว 140 ล้านบาท นอกจากนี้ตั้งแต่ฤดูกาลที่ 5 ยังได้เพิ่มวิธีการโหวตวิธีใหม่คือ ผ่านซิมใหม่ที่เรียกว่า Touch Sim โดยยอดการโหวตในแต่ละฤดูกาล
คลิป