เมื่อปัญหานี้เป็นเรื่องที่หนุ่มๆ หลายคนสนใจ นพ.กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เจ้าของเพจให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเพศชาย Sarikahappymen จึงได้โพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองว่า
“เรื่องช่วงตัวเองบ่อยแล้วมีข้อเสียนู่นนี่นั่น เป็นอะไรที่ส่วนใหญ่เล่าต่อๆ กันมานานแล้วนะครับ มีตั้งแต่ทำแล้วโง่ ทำแล้วตาบอด ทำแล้วอ่อนแอ เป็นสิว มือขึ้นขน แล้วทางการแพทย์จริงๆ เขาว่าไงมั่ง เรามาคุยกันดีกว่า
จริงๆ ทางการแพทย์เขาก็ว่าทำไปเหอะครับ ถือเป็นการผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่ง และถือเป็นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะจะได้ไม่ไปลงที่อื่น ขอแค่ทำในที่ที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสม ทำไปเหอะไม่โง่หรอกครับ อันนี้ทางการแพทย์เขาทดสอบ วิจัยมาหลายรอบแล้วครับ ว่ามันไม่เกี่ยวกับไอคิวหรือความฉลาด ทำมากทำน้อยก็ทำไปเหอะครับ
บางคนอาจเคยเห็นกลุ่ม no fap หรือชมรมงด ชตอ. เขาชอบเอางานวิจัยอันหนึ่งมาอ้างว่าการ ชตอ. มันจะเกิดภาวะ post orgasmic illness syndrome โดยงานวิจัยนี้ถ้าไปอ่านคือเขาเอาคนที่เพิ่งชตอ.เสร็จใหม่ๆ มานั่งบวกลบเลข ให้จำรูป แล้วถามซ้ำ พอจำได้น้อยลงก็รีบบอกว่านี่ไงเห็นไหมว่าทำแล้วสมองเสื่อม ทำแล้วโง่ แล้วก็เอามารณรงค์ให้คนหยุด ชตอ. ซึ่งจริงๆตรงนี้ นักวิทยาศาสตร์และหมอหลายท่านเขาก็แย้งว่า มันน่าจะเกิดจากสมองมันยังปรับตัวไม่ทันมากกว่า หลังจากที่เหนื่อยมากๆ ง่ายๆ เราลองไปเอาคนออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ มาทำข้อสอบสิ เช่นหลังวิ่ง หลังปั่นจักรยานอะไรก็ได้ มันก็ต้องทำถูกมั่งผิดมั่งแหละ แหมร่างกายกำลังหอบ เลือดมันไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ มันก็ก๊งๆ ชั่วคราว แต่เดี๋ยวมันก็ปรับสภาพเข้าสู่ปกติครับ
ดังนั้นอย่าไปเชื่อมากครับ และหลายคนก็ถามอีกว่าช่วยตัวเองวิธีนั้นถูกไหม วิธีนี้ถูกไหม จริงๆ มันก็ไม่มีตายตัวครับ เพราะแต่ละคนรสนิยมไม่เหมือนกัน จะยืน นั่ง นอน ยืน ถู ไถ บด บี้ ขยี้ กัด ไรก็ได้ ขอแค่อย่าไปทำอะไรให้มันรุนแรงกับอวัยวะส่วนนั้นจนกล้ามเนื้อฟองน้ำฉีกขาดและไม่ประเจิดประเจ้อมากก็ทำไปเหอะครับ"
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :facebook.com/sarikahappymen/