เรื่องจริงที่หมอไม่เคยบอก!! จริงๆแล้ว มะเร็งแพ้อะไร อยากเอาชนะมะเร็งต้องทำอย่างไร??
ใครๆก็ไม่อยากเป็นมะเร็ง แต่ถ้าเกิดเป็นไปแล้ว หลายคนก็จำเป็นต้องเลือกวิธีการรักษาด้วยวิธีที่เรียกว่า “คีโม” ซึ่งพวกเรารู้ดีว่าคีโมสามารถฆ่าเชื้อมะเร็งได้เป็นอย่างดี
แต่ก็ต้องแลกมากับการเสียบางสิ่งบางอย่างในร่างกายไปด้วย วันนี้มาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ เรื่องจริงที่หมอไม่เคยบอกเราดีกว่า ว่าคีโมน่ากลัวมากแค่ไหน!
1. ทุกๆคนมีเซลล์มะเร็งในร่างกาย
แต่เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎหรือตรวจสอบไม่ได้จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์มะเร็งอาจจะเกิดขึ้น 6-10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง แต่เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราแข็งแรงมากเพียงพอ เซลล์มะเร็งเหล่านั้นก็จะถูกทำลายหรือฝ่อไป และไม่มีการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอกต่อไป
2. มะเร็งคือความบกพร่องทางโภชนาการ
การเป็นมะเร็งสื่อได้ว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีนสิ่งแวดล้อม อาหาร และปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต
ซึ่งการจะเอาชนะภาวะบกพร่องทั้งหลายเกี่ยวกับโภชนาการได้ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารที่รับประทาน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางอย่างที่จะช่วยเสริมให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นได้
3. คีโมเป็นพิษกับทั้งเซลล์ดีและเซลล์ไม่ดี
การทำคีโม คือ การให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลล์มะเร็งที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลล์ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เซลล์ในไขกระดูก ระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลายไป เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด เป็นต้น
4. มะเร็งแพ้คีโม แต่ยิ่งทำนานยิ่งเป็นโทษ
การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าทำไปนานๆจนถึงจุดหนึ่ง มักจะไม่พบว่ามีผลต่อการทำลายเซลล์เนื้องอกแต่อย่างใด
ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโม หรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจถูกทำลายลงได้ ดังนั้น จึงมักพบว่าผู้ป่วยอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิด และยังทำให้โรคมีความซับ ซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วย
5. มะเร็งแพ้ออกซิเจน
เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีออกซิเจนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การออกกำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นจนลงไปถึงระดับเซลล์ และเป็นวิธีการบำบัดที่ใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี
6. มะเร็งแพ้อาหารแบบไหน
วิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดมะเร็ง คือ การไม่ให้เซลล์มะเร็งได้รับอาหารเพื่อเจริญเติบโต โดยอาหารที่มีผลต่อการโตของเนื้อร้าย ได้แก่
1. น้ำตาล
อาหารโปรดของเซลล์มะเร็ง ก็คือ “น้ำตาล” การตัดอาหารของมะเร็งประเภทนี้ได้จึงนับเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทราย หรือสารทดแทนน้ำตาลอย่าง นิวตร้าสวีต อีควล สปูนฟูล เป็นต้น
2. เกลือสำเร็จรูป
เกลือเหล่านี้ล้วนใช้สารเคมีในการฟอกขาว จึงควรเลือกบริโภค แบรก อมิโน หรือ เกลือทะเลแทน
3. นม
นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเซลล์มะเร็งจะรับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก ดังนั้น จึงควรดื่มเป็นนมถั่วเหลืองชนิดไม่หวาน เพราะจะทำให้เซลล์มะเร็งไม่ได้รับอาหาร
4. เลี่ยงเนื้อสัตว์บางชนิด
เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดีในสภาวะที่เป็นกรด ซึ่งการรับประทานอาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดให้เกิดขึ้นในร่างกาย อีกทั้ง โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยากและต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย หรืออาจจะทำให้เกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้นได้ ดังนั้น จึงควรหันไปรับประทาน ‘ปลา’ จะดีที่สุด รองลงมา คือ เนื้อไก่ ส่วนในเนื้อวัวและเนื้อหมู อาจมียาฆ่าเชื้อหรือฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิตได้
5. เน้นกินผัก
ในทางตรงกันข้าม ต้องพยายามเสริมสภาวะด่างในร่างกาย โดยการทานอาหารประเภทผักสด น้ำผักผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้
6. หลีกเลี่ยงกาแฟ ชา และช๊อกโกแลต
เนื่องจากอาหารพวกนี้มีคาเฟอีนสูง หากต้องการดื่มชาให้เน้นเป็นชาเขียว เนื่องจากชาเขียวมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ ส่วนการเลือกดื่มน้ำให้ดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือน้ำที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา
7. มะเร็งแพ้สารเสริมอาหารที่มีประโยชน์
สารอาหารบางอย่างจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อช่วยให้เซลล์ของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้นได้โดยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินอี ทำให้การตายของเซลล์ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการหรือไม่มีประโยชน์หมดออกไป เป็นต้น
8. มะเร็งแพ้จิตใจที่เข้มแข็ง
มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ การคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดปลอดภัยจากมะเร็งได้ ดังนั้น หากสามารถระงับความโกรธ รู้จักให้อภัย และกดความขมขื่นใจได้ ก็จะทำให้ร่างกายไม่ตึงเครียด ผ่อนคลาย และมีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น
9. เลือกวิธีรักษาผิดเสี่ยงตายได้ง่ายๆ
การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย ส่วนการผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกายได้
จะเห็นได้ว่า การเป็นมะเร็งสามารถหายได้หากได้รับการรักษาหรือดูแลที่ถูกวิธี และจะต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตัวเองอยู่เสมอด้วย…เพียงเท่านี้มะเร็งก็ไม่น่ากลัวแล้วละค่ะ
ที่มา – http://www.thaijobsgov.com/jobs=63755
ใครๆก็ไม่อยากเป็นมะเร็ง แต่ถ้าเกิดเป็นไปแล้ว หลายคนก็จำเป็นต้องเลือกวิธีการรักษาด้วยวิธีที่เรียกว่า “คีโม” ซึ่งพวกเรารู้ดีว่าคีโมสามารถฆ่าเชื้อมะเร็งได้เป็นอย่างดี
แต่ก็ต้องแลกมากับการเสียบางสิ่งบางอย่างในร่างกายไปด้วย วันนี้มาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ เรื่องจริงที่หมอไม่เคยบอกเราดีกว่า ว่าคีโมน่ากลัวมากแค่ไหน!
1. ทุกๆคนมีเซลล์มะเร็งในร่างกาย
แต่เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎหรือตรวจสอบไม่ได้จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์มะเร็งอาจจะเกิดขึ้น 6-10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง แต่เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราแข็งแรงมากเพียงพอ เซลล์มะเร็งเหล่านั้นก็จะถูกทำลายหรือฝ่อไป และไม่มีการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอกต่อไป
2. มะเร็งคือความบกพร่องทางโภชนาการ
การเป็นมะเร็งสื่อได้ว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีนสิ่งแวดล้อม อาหาร และปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต
ซึ่งการจะเอาชนะภาวะบกพร่องทั้งหลายเกี่ยวกับโภชนาการได้ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารที่รับประทาน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางอย่างที่จะช่วยเสริมให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นได้
3. คีโมเป็นพิษกับทั้งเซลล์ดีและเซลล์ไม่ดี
การทำคีโม คือ การให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลล์มะเร็งที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลล์ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เซลล์ในไขกระดูก ระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลายไป เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด เป็นต้น
4. มะเร็งแพ้คีโม แต่ยิ่งทำนานยิ่งเป็นโทษ
การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าทำไปนานๆจนถึงจุดหนึ่ง มักจะไม่พบว่ามีผลต่อการทำลายเซลล์เนื้องอกแต่อย่างใด
ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโม หรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจถูกทำลายลงได้ ดังนั้น จึงมักพบว่าผู้ป่วยอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิด และยังทำให้โรคมีความซับ ซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วย
5. มะเร็งแพ้ออกซิเจน
เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีออกซิเจนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การออกกำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นจนลงไปถึงระดับเซลล์ และเป็นวิธีการบำบัดที่ใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี
6. มะเร็งแพ้อาหารแบบไหน
วิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดมะเร็ง คือ การไม่ให้เซลล์มะเร็งได้รับอาหารเพื่อเจริญเติบโต โดยอาหารที่มีผลต่อการโตของเนื้อร้าย ได้แก่
1. น้ำตาล
อาหารโปรดของเซลล์มะเร็ง ก็คือ “น้ำตาล” การตัดอาหารของมะเร็งประเภทนี้ได้จึงนับเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทราย หรือสารทดแทนน้ำตาลอย่าง นิวตร้าสวีต อีควล สปูนฟูล เป็นต้น
2. เกลือสำเร็จรูป
เกลือเหล่านี้ล้วนใช้สารเคมีในการฟอกขาว จึงควรเลือกบริโภค แบรก อมิโน หรือ เกลือทะเลแทน
3. นม
นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเซลล์มะเร็งจะรับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก ดังนั้น จึงควรดื่มเป็นนมถั่วเหลืองชนิดไม่หวาน เพราะจะทำให้เซลล์มะเร็งไม่ได้รับอาหาร
4. เลี่ยงเนื้อสัตว์บางชนิด
เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดีในสภาวะที่เป็นกรด ซึ่งการรับประทานอาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดให้เกิดขึ้นในร่างกาย อีกทั้ง โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยากและต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย หรืออาจจะทำให้เกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้นได้ ดังนั้น จึงควรหันไปรับประทาน ‘ปลา’ จะดีที่สุด รองลงมา คือ เนื้อไก่ ส่วนในเนื้อวัวและเนื้อหมู อาจมียาฆ่าเชื้อหรือฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิตได้
5. เน้นกินผัก
ในทางตรงกันข้าม ต้องพยายามเสริมสภาวะด่างในร่างกาย โดยการทานอาหารประเภทผักสด น้ำผักผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้
6. หลีกเลี่ยงกาแฟ ชา และช๊อกโกแลต
เนื่องจากอาหารพวกนี้มีคาเฟอีนสูง หากต้องการดื่มชาให้เน้นเป็นชาเขียว เนื่องจากชาเขียวมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ ส่วนการเลือกดื่มน้ำให้ดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือน้ำที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา
7. มะเร็งแพ้สารเสริมอาหารที่มีประโยชน์
สารอาหารบางอย่างจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อช่วยให้เซลล์ของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้นได้โดยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินอี ทำให้การตายของเซลล์ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการหรือไม่มีประโยชน์หมดออกไป เป็นต้น
8. มะเร็งแพ้จิตใจที่เข้มแข็ง
มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ การคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดปลอดภัยจากมะเร็งได้ ดังนั้น หากสามารถระงับความโกรธ รู้จักให้อภัย และกดความขมขื่นใจได้ ก็จะทำให้ร่างกายไม่ตึงเครียด ผ่อนคลาย และมีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น
9. เลือกวิธีรักษาผิดเสี่ยงตายได้ง่ายๆ
การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย ส่วนการผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกายได้
จะเห็นได้ว่า การเป็นมะเร็งสามารถหายได้หากได้รับการรักษาหรือดูแลที่ถูกวิธี และจะต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตัวเองอยู่เสมอด้วย…เพียงเท่านี้มะเร็งก็ไม่น่ากลัวแล้วละค่ะ
ที่มา – http://www.thaijobsgov.com/jobs=63755