Home »
Uncategories »
ชอบดื่มน้ำครั้งละมาก อยากให้รู้ มีข้อมูลมาใหม่มาอีกแล้ว
ชอบดื่มน้ำครั้งละมาก อยากให้รู้ มีข้อมูลมาใหม่มาอีกแล้ว
สถาบันการแพทย์แห่งชาติของสหรัฐฯแนะนำว่าว่า
ผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชาย โดยเฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2.70
ลิตรและ 3.70 ลิตรตามลำดับ (และยังขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวอีกด้วย)
อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำปริมาณมากในช่วงเช้า กลางวัน และตอนกลางวัน
ไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด หรือดีที่สุดต่อร่างกาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของมหาวิทย
าลัยแห่งหนึ่งกล่าวว่า หากคุณดื่มน้ำ และภายใน 2 ชั่
วโมงคุณปัสสาวะออกมาในปริมาณมากและใส นั่นแสดงให้เห็นว่า
ร่างกายของคุณไม่สามารถรั กษ าระดับน้ำในร่างกายได้อย่างเต็มที่
หากคุณไม่ได้ดื่มน้ำพร้อมกับอาหารหรือส า รอาหารใด
น้ำเปล่าที่คุณดื่มเข้าไปนั้น มีแนวโน้มที่จะไหลผ่านระบบย่อยอาหารลงเฉย คือการดื่มน้ำในปริมาณมากช่วงท้องว่างไม่เกิดประโยชน์ใดทั้งสิ้น
แท้จริงแล้ว
ปัสสาวะใสเป็นสัญญาณของการดื่มน้ำมากไป การดื่มน้ำในปริมาณมากเช่นนี้
จึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดของการรั กษ าสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย
การศึกษาในปี 2015
เปรียบเทียบผลระยะสั้นของเครื่องดื่มหลายชนิด ที่มีต่อการรั กษ
าความสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย เครื่องดื่มดังกล่าวมีตั้งแต่น้ำเปล่า
เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา นม ชา และเ บี ย ร์
เมื่อนำปัสสาวะที่เก็บจากอาสาสมัครที่เข้าร่วมการศึกษามาวิเคราะห์
นักวิจัยสรุปว่าเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น นม ชา และน้ำส้มคั้น
โดยไม่รวมเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬา
เป็นเครื่องดื่มที่ดีกว่าน้ำเปล่าในการช่วยให้ร่างกายรั กษ
าความสมดุลของระดับน้ำ
แน่นอนว่าไม่มีใครแนะนำให้ดื่มนมและน้ำส้มคั้นแทนน้ำเปล่า
เพราะไม่ว่าอย่างไร น้ำเปล่าก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การศึกษาปี 2015
สรุปไว้ว่า มีองค์ประกอบของเครื่องดื่มหลายชนิดที่ส่งผลต่อการรั กษ
าความสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย ซึ่งมีตั้งแต่ส า รอาหารในเครื่องดื่ม และ
“diuretic agents” ซึ่งเป็นส า รที่เพิ่มปริมาณปัสสาวะที่ร่างกายผลิตขึ้น
การดื่มน้ำพร้อมกับกรดอะมิโน ไขมันและเกลือแร่
ดูจะช่วยให้ร่างกายดูดซับและกักเก็บน้ำไว้ จึงเป็นการช่วยให้ร่างกายรั กษ
าสมดุลของน้ำได้ดีขึ้น
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นหลังการออกกำลังกายและช่วงที่ต้องหายใจเข้าออกแรง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวอีกด้วยว่า
มีความเป็นไปได้สูงว่า หากดื่มน้ำมากช่วงท้องว่างระหว่างมื้ออาหารหลัก
โดยไม่ได้ดื่มพร้อมกับอาหารนั้น คุณจะแ ค่
ปัสสาวะน้ำที่ดื่มเข้าไปออกมาเท่านั้น แนวความคิดยอดฮิตที่บอกว่า
การดื่มน้ำในปริมาณมากและอย่างต่อเนื่อง เป็นการขับส า รพิ ษหรือส า
รที่ร่างกายไม่ต้องการออกมานั้น มีข้อเท็จจริงอยู่เพียงครึ่งเดียว
ในขณะที่ปัสสาวะมีส่วนช่วยขับส า รข้างเคียงทางเคมีและของเสียออกจากร่างกาย
การดื่มน้ำในปริมาณมากเมื่อท้องว่าง
กลับไม่ได้ช่วยปรับปรุงกระบวนการชะล้างทำความสะอาดนี้แต่อย่างใด
ในบางกรณีที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก การดื่มน้ำในปริมาณมากอาจเป็นอั น ต ร า ย ด้วยซ้ำไป
นักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายเป็นชั่
วโมง หากดื่มแต่น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว
โซเดียมอาจถูกขับออกมาในปัสสาวะมากเกินไป
ทำให้ระดับโซเดียมของร่างกายเกิดความไม่สมดุล
ซึ่งมีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า “hyponatremia” หรือภาวะโซเดียมในเ ลื อ
ดต่ำ และอาจถึงแก่ชีวิตได้ ในกรณีเช่นนี้
เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาและเครื่องดื่มประเภทอื่นที่ มีส่วนผสมของส า
รอาหารและโซเดียมปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่าการดื่มน้ำเปล่า
ถึงแม้ว่าคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬา
อาจไม่ต้องกังวลเ รื่ อ งนี้
แต่การช่วยให้ร่างกายและสมองมีระดับน้ำที่สมดุลยังทำได้อีกหลายวิธีที่นอกเหนือไปจากการอัดน้ำเข้าสู่ร่างกายทั้งวัน
การจิบน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นทีละนิดช่วยป้องกันไม่ให้ไตทำงานมากเกินไป
และช่วยให้ร่างกายสร้างสมดุลของระดับน้ำได้มากขึ้น
การดื่มน้ำก่อนหรือระหว่างรับประทานอาหารหรือขนม
ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายสร้างสมดุลของระดับน้ำ
การดื่มน้ำที่มีกรดอะมิโน ไขมัน เกลือแร่ ช่วยให้ร่างกายรั กษ
าสมดุลของระดับน้ำได้ดีขึ้น
ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเครื่องดื่มอย่างเช่นนมและน้ำผลไม้
มีแนวโน้มที่จะดูดีในการศึกษาเกี่ยวกับการรั กษ าสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย
งานวิจัยบางชิ้นพบว่า ในช่วงที่ร่างกายฟื้นตัวหลังการออกกำลังกาย
การรับประทานกล้วยดีกว่าการดื่มเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา นอกจากนี้
การรับประทานผลไม้พร้อมกับน้ำเปล่า
ยังเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำได้ดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ไม่ได้บอกว่าคนควรดื่มน้ำเปล่าน้อยลง
หรือควรเปลี่ยนจากการดื่มน้ำเปล่าไปเป็นเครื่องดื่มชนิดอื่น แต่ผลของการศึกษาบอกเราว่า การทำให้ร่างกายรั กษ าสมดุลของระดับน้ำนั้น ควรดื่มน้ำทีละนิดและอย่างสม่ำเสมอ และการดื่มน้ำพร้อมกับอาหารนิดหน่อยเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการดื่มน้ำครั้งละมากระหว่างมื้อ
ท้ายที่สุดแล้ว
ความรู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำก็เป็นเ รื่ อ งน่าสนใจ
แต่หากกระหายน้ำเมื่อไหร่ ก็อย่าลังเลที่จะดื่มน้ำ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม
อย่ามัวแต่นึกถึงทฤษฏีอะไรต่ออะไร
จนลืมใส่ใจความต้องการพื้นฐานของร่างกายก็แล้วกัน