Home »
Uncategories »
เทคนิคการขายคอนโดมือสองให้ได้เร็วที่สุด
เทคนิคการขายคอนโดมือสองให้ได้เร็วที่สุด
ใครที่อยู่คอนโดแล้วอยากจะขายเป็นคอนโดมือสองต่อ
แต่ไม่รู้เทคนิคที่จะขายให้ได้เร็วๆ
วันนี้เราจะพาไปดูไอเดียเทคนิคในการขายคอนโดมือสองให้ได้เร็วทันใจ
เป็นเทคนิคจากสมาชิกพันทิป Neverstops มาแชร์เทคนิคดีให้ชาวคอนโดได้อ่านกัน
โดยระบุว่า...
การที่จะขายคอนโดมือสองออกไปในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยเฉพาะคอนโดขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม. ถ้าราคาของคุณไม่ถูกจริง ขายราคาพอๆ
กับคนอื่นหรือการตกแต่งไม่มีอะไรพิเศษเลย หรือตำแหน่งของห้องไม่โดดเด่น
เช่นอยู่ชั้นต่ำๆ ไม่มีวิวอะไรเลย นอกจากวิวห้องฝั่งตรงข้าม
ก็คงต้องรอไปก่อนค่ะ เพราะตลาดช่วงนี้คือตลาดของผู้ซื้อ
คอนโดทั้งใหม่และเก่าเต็มตลาดไปหมด มองไปทางไหนก็เจอแต่คอนโด ไม่ว่าใน กทม,
ปริมณฑล ตามแนวรถไฟฟ้า หรือตามเมืองท่องเที่ยว อย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต,
หัวหิน และพัทยา
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการขายคอนโดมือสองเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป
ในปี 2016
ดิฉันถือครองคอนโดขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม ทั้งหมด 9 ห้อง คือทยอยซื้อมาเรื่อยๆ
ตั้งแต่ปี 2012 จน ณ ปัจจุบันได้ทยอยขายออกไปบ้างแล้ว เหลืออยู่ตอนนี้ 4
ห้อง และจะพยายามขายออกไปให้หมดภายในปี 2018 นี้
ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ แต่ขายได้อีกซัก 2 ห้องก็พอใจแล้วค่ะ
คอนโดทั้งหมดของดิฉันปล่อยเช่าค่ะ คนเช่าก็มีเต็มทุกห้อง ไม่เคยว่างเลย
แต่เนื่องจากต้องการขายเพราะได้เจอทรัพย์สินตัวอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
ก็ต้องขายตัวที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่ำออกไป ซึ่งมันก็คือวัฏจักรของการลงทุน
มาดูกลยุทธ์การขายคอนโดมือสองของดิฉันกันนะคะ ปี 2016 ขายไปได้ 2 ห้องและปี
2017 ขายไปได้ 3 ห้อง
1. ราคา
ผู้ซื้อส่วนใหญ่หลังจากได้ตัดสินใจแล้วว่า location
นี้แหล่ะที่เค้าต้องการซื้อ
อันดับต่อมาคือการหาราคาให้ได้ถูกที่สุดหรือคุ้มค่าที่สุด
ถ้าหากคุณต้องการที่ขายคอนโดออกไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
การขายให้ได้กำไรคงเป็นไปได้ยากในเวลานี้
ขายได้เท่าทุนที่ซื้อมาก็ดีหนักหนาแล้ว เพราะยิ่งปล่อยไว้
คอนโดก็เก่าไปเรื่อยๆ ยิ่งจะทำให้ขายยากไปอีก ค่าส่วนกลางก็ต้องเสีย
บางคนอาจจะต้องผ่อนธนาคารอีก แถมบางคนไม่ได้อยู่ที่คอนโดแล้ว
คือไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วมีแต่เสียประโยชน์
จะปล่อยเช่าก็ไม่กล้าเพราะกลัวห้องพัง กลัวสาระพัดปัญหา
ฉะนั้นควรขายให้ได้เร็วที่สุดถึงไม่ได้กำไรก็ต้องยอม
ขาดทุนนิดหน่อยก็ยังต้องยอม
ให้คุณสมมุติตัวเองว่าเป็นโรคร้ายอะไรซักอย่างแล้วหมอบอกว่าต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต
ไม่อย่างนั้นโรคร้ายก็จะลุกลาม ในจำนวนคอนโด 5 ห้องที่ดิฉันขายไป
คือได้เท่าทุน 3 ห้อง และได้กำไร 2 ห้อง 2
ห้องที่ได้กำไรเป็นคอนโดที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวและซื้อมาได้ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดทำให้ขายได้กำไร
ส่วน 3
ห้องแรกแถวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ไม่ได้กำไรดิฉันคิดว่ามันคือเนื้อร้ายที่ต้องรีบตัดทิ้ง
อย่ามามัวลังเลนะคะ คอนโดสมัยนี้เหมือนดอกเห็ด เยอะแยะไปหมด
คุณต้องโดดเด่นเรื่องราคาก่อน
2. การตกแต่งห้อง
เมื่อผู้ซื้อเห็นราคาที่โดนใจแล้วติดต่อมาเพื่อดูห้อง
อย่าได้ทำให้เค้าผิดหวังโดยเด็ดขาด
อย่าให้เค้าดูห้องคุณเสร็จแล้วคิดในใจว่า อ่อ ขายถูกเพราะสภาพเน่าๆ
แบบนี้นี่เอง
คอนโดบางห้องของดิฉันที่ขายไปดิฉันก็ได้ลงทุนตกแต่งให้มันดึงดูดใจผู้ซื้อเพื่อที่จะขายได้เร็ว
หลังจากคนเช่าย้ายออกไปแล้วทิ้งสภาพแย่ๆ ไว้ให้เรา
ถ้าจะขายในสภาพไม่ทำอะไรเลย คงจะยากใครที่ไหนจะมาซื้อค่ะ ดูง่ายๆ ค่ะ
พวกโครงการใหม่ๆ ลงทุนตกแต่งห้องตัวอย่างสวยๆ หรูๆ เพื่อเป็นจุดขาย
ฉะนั้นเราก็ใช้เทคนิคเดียวกันค่ะ แต่ต่างกันตรง
เราให้ของตกแต่งทุกอย่างภายในห้อง แต่พวกโครงการใหม่ๆ ไม่ได้ให้
แค่เอามาโชว์ เห็นไหมค่ะ ราคาคอนโดของเราก็ถูกกว่า เฟอร์นิเจอร์ก็ได้ครบ
คนซื้อก็ต้องตัดสินใจซื้อของเราซิค่ะ
การที่จะตกแต่งก็ต้องสำรองเงินสดไปก่อนซึ่งก็อาจราวๆ 50,000 - 100,000 บาท
สำหรับห้องไม่เกิน 30 ตร.ม.
ถ้าคุณจะเลือกทำแบบดิฉันต้องมั่นใจในรสนิยมของตัวเองด้วยนะคะ
แล้วก็อย่าซื้อของถูกเกินไปมาแต่งห้อง อยากขายได้ต้องลงทุน
อย่าให้กลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
นี้คือตัวอย่างห้องที่ดิฉันตกแต่งแล้วก็ขายไปแล้ว
3. การขายห้องพร้อมผู้เช่า
ในจำนวน 5 ห้องที่ดิฉันขายไปได้ เป็นการขายพร้อมผู้เช่า 3 ห้องค่ะ
มีคนจำนวนมากค่ะที่ยังต้องการลงทุนปล่อยเช่าคอนโด
ฉะนั้นแล้วถ้าคำนวณผลตอบแทนค่าเช่าหักค่าส่วนกลางแล้วแล้วได้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า
5% คุณก็พอมีโอกาสขายให้นักลงทุนได้ค่ะ
4. ติดต่อนายหน้า ลงสื่อ
โฆษณาทางอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณอยากจะขายคอนโดให้ได้ แต่แค่ไปฝากขายที่นิติฯ
ฝาก รปภ. ฝากแม่บ้าน มันคงไม่ทำให้คุณขายได้เร็ว ถ้าไม่โชคดีจริงๆ
คนเหล่านั้นเค้าไม่ได้มีหน้าที่ขายคอนโด ความรู้
ความสามารถในการจูงใจก็ไม่มี ปิดการขายก็ไม่เป็น
ให้คำแนะนำอะไรกับผู้ซื้อก็ไม่ได้ ตัวดิฉันเองเป็นนายหน้าเองแท้ๆ
ยังต้องพึ่งนายหน้าให้ช่วยขายเลยค่ะ ในจำนวน 5
ห้องที่ขายไปนายหน้าช่วยขายให้ 2 ห้อง อีก 3
ห้องขายได้เองด้วยสื่อโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต ทั้งฟรี ทั้งเสียเงิน
ดิฉันจัดเต็ม ดิฉันลงไม่ต่ำกว่า 10 เว็ปไซด์
แล้วก็ไม่ใช่ลงทิ้งแล้วหายไปเลย ต้องเข้าไป update ตลอด
เช็คราคาคนอื่นขายกันเท่าไหร่ มีใครขายเพิ่มไหม
ดิฉันดูจนจำได้หมดว่าใครขายเท่าไหร่
ตรวจสอบตลาดอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้ปรับปรุงให้ทันเหตุการณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้เร็ว
5. รูปที่ใช้ในการลงโฆษณา อันนี้
highly recommend เลยนะคะ ก่อนที่จะถ่ายรูปลงโฆษณาหรือส่งให้นายหน้า
ควรจัดห้องให้สวยงาม ดิฉันเห็นเยอะมากค่ะ ที่ไม่จัดห้องเลย
ถ่ายทั้งที่ยังรกๆ
บางคนถ้วยจานไม่ล้างกองอยู่ในอ่างยังอุตสาห์กล้าถ่ายมาลงโฆษณาขาย
ที่นอนก็ควรเก็บให้เรียบร้อย ให้เกียรติเว็ปไซด์เค้าบ้างค่ะ
ที่สำคัญมันไม่จูงใจให้คนซื้อติดต่อมาขอดูห้องเลยค่ะ
ชาติหน้าก็คงจะขายไม่ได้ เวลาที่คุณถ่ายรูปตัวเอง หรือถ่าย selfies ลง
Facebook กว่าคุณจะลงได้เลือกแล้วเลือกอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก
ใช้แอปแต่งไม่รู้กี่แอป ถ้าคุณทำเหมือนกับตอนจะขายคอนโด ถ่ายรูปห้องสวยๆ
คุณก็มีโอกาสได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ
ด้านล่างคือตัวอย่างห้องที่ดิฉันถ่ายรูปลงโฆษณา
และถัดไปเป็นห้องของคนอื่นที่ดิฉันนำมาจากเว็ปอสังหาฯ เว็ปนึง
เพื่อเปรียบเทียบให้ดูว่า คอนโดสองห้องนี้อยู่ที่เดียวกัน
แล้วห้องไหนมันน่าสนใจมากกว่ากัน
จะเห็นได้ว่าการถ่ายรูปให้น่าสนใจก็แตกต่างกันแล้ว
การถ่ายรูปให้สวยถ่ายจากมือถือก็สวยได้ค่ะ พยายามถ่ายให้ได้มุมกว้างๆ
ลงรูปเยอะๆ ไม่ใช่ลงไปสองสามรูป รูปสระว่ายน้ำ ร้านอาหาร
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ต้องลง
คนซื้อเค้าอยากได้ข้อมูลให้มากที่สุดก่อนจะตัดสินใจไปดูห้อง ชั้นอะไร
วิวอะไร ลงไปให้หมดค่ะ รายละเอียดเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี
ถ้าจะขายพร้อมผู้เช่าก็บอกราคาเช่าไปด้วย ผลตอบแทนได้เท่าไหร่
เอาความจริงนะคะ ไม่ใช่ไปหลอกเค้าว่าได้ค่าเช่าสูงๆ
ถ้าคนซื้อเค้ารู้รายละเอียดต่างๆ ครบถ้วนแล้ว
การตัดสินใจนัดดูห้องก็มีโอกาศในการปิดการขายสูง
และอีกอย่างจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาไปเปิดคอนโดด้วย
ดิฉันเคยขายคอนโดไปห้องนึง ดูวันนี้ พรุ่งนี้ตกลงซื้อ ดิฉันเองยังตกใจ
น้องเค้าบอกว่าหนูดูมาเป็นปีแล้วพี่ มีของพี่นี่แหล่ะโดนใจสุด
น้องเค้าซื้อปล่อยเช่าค่ะ เห็นไหมค่ะ ข้อมูลเยอะไว้ก่อนเป็นการสกรีนคนซื้อ
ข้อมูลที่ลงประกาศควรเป็น fact ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ สาธยายอะไรก็ไม่รู้
อย่าลงค่ะ มันไม่สร้างความน่าเชื่อใดๆ
6.
หลังจากที่คนสนใจซื้อดูห้องแล้วไม่ตัดสินใจซื้อของเรา
ก็ควรติดต่อสอบถามว่าเป็นเพราะอะไร
เค้าไปซื้อที่ไหนเพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุง
หรือถ้าเค้าไปซื้อโครงการอื่น
ก็ควรออกไปสำรวจดูว่าโครงการนั้นมันดีกว่าของเรายังไง ไปหาข้อเสียของมันมา
เราได้เอามาโต้แย้งกับคนซื้อรายต่อไปได้ และที่สำคัญอีกอย่างนึง
เวลาคนซื้อมาดูห้องควรถามเค้าว่าไปดูที่ไหนมาบ้างแล้ว
เราจะได้รู้ว่าเรากำลังแข่งกับใครและจะทำยังไงให้ชนะมันได้
การที่เรามีข้อมูลคู่แข่งเยอะๆ มันช่วยเราได้ค่ะ ถ้าคุณไม่รู้อะไรเลย
ก็เหมือนคุณกำลังขายของแบบไม่มีความรู้
คนซื้อที่ไหนจะมั่นใจในสินค้าของคุณค่ะ
ถ้าหากคุณกำลังคิดว่าต้องทำขนาดนี้เลยเหรอถึงจะขายได้ ตอบเลยค่ะว่าใช่
สิ่งที่ดิฉันแนะนำไปคือประสบการณ์ตรง ทดลองขายมาแล้วค่ะ แบบไม่ทำอะไรเลย
ลงแค่โฆษณาแล้วรอคนมาซื้อ มันยากค่ะ มันต้องมีเทคนิคอย่างอื่นเข้ามาช่วย
วิธีการของดิฉันอาจใช้ไม่ได้กับทุกคนด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่แตกต่างกัน
ยังไงขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการขายคอนโดนะคะ คอนโด
ก็เป็นเทคนิคและประสบการณ์ในการขายคอนโดให้ได้รวดเร็ว เป็นสาระดีๆ
สำหรับคนที่อยากขายคอนโด หรือว่าคนที่อยากจะขายบ้านสามารถปรับใช้ได้
ขายได้เร็วทันใจ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกพันทิป Neverstops