เหตุผลที่คนอายุ 50ปี ลาออกจากงานเยอะมาก

ช่วงนี้ได้ข่าวคนรู้จักกัน “ลาออก” เยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ อายุเกิน 50 ปี ลูกเรียนจบมีงานทำแล้ว หมดภาระหนี้สินก้อนใหญ่

ไม่ใช่คนเหล่านี้จะตัดช่องน้อยแต่พอตัว แต่ส่วนใหญ่เท่าที่สนทนากัน คือ “เบื่อ”

เบื่อ ระบบ มีแต่ “ตัวชี้วัด” มากมายมากดดัน ทั้งๆเหตุผล ผลลัพธ์ปลายทางเห็นกันจะๆ สร้างตึกเท่าไหร่ไม่เคยพอ คนไข้ ยังล้นเหมือนเดิม แสดงว่าภาวะสุขภาพไม่ได้ดีขึ้น เหมือนภาพที่สร้าง แต่เงินกับคนดันจำกัดมีแต่น้อยลง แล้วก็แค่สั่งด้วยประโยคอุดมการณ์ขั้นสูงสุดเท่ห์ๆแต่กินไม่ได้”ทำงานห้ามพูดถึงเรื่องเงิน”

เบื่อ คนร่วมงาน วุฒิภาวะไม่มี อาวุโสไม่สน บางคน แค่หัวโขนในวิชาชีพ นึกว่าจะด่า จะโวยยังไงก็ได้ ขอถ่ายทอดคำพูดจริงๆให้ฟังละกัน “มึงจ่ายเงินเดือนให้กูเหรอ? ถึงมาวีนอย่างกะนายจ้าง นึกว่าตัวเองใหญ่กว่า .38 เหรอ?(สักวันเกิดแน่ กรณีนี้)”

เบื่อ ความยุติธรรม ต่อให้คิดมาเถอะระบบสุดยอด เกณฑ์ชัดเจน สุดท้ายก็อีหรอบเดิม คือ กลายเป็นซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพื่อน/เจ้านายทรยศ รักใครชอบใครก็ให้คนนั้นเยอะอยู่ดี

เบื่อความเหลื่อมล้ำ เยียวยากันเข้าไป กลัวเด็กใหม่ลาออก ไม่ต้องสนใจตรรกะ ทำไมคนมาทีหลังเงินเดือนเกินคนทำงานมาเป็นสิบปี? พอเงินมันล้ำหน้ากว่า เด็กมันไม่สนหรอกคำว่า “ประสบการณ์” มันคิดว่ามันแน่ สอนยังไงเรื่องอะไรมันจำเป็นต้องฟัง ทีคนเก่านี่จะไปไหนก็ช่างใช่ไหม? ถ้าไม่พอใจก็ออกไปสิ จะได้ไม่ต้องจ่ายค่า เออรี่ รีไทน์

เสียดายฝีไม้ ลายมือ ประสบการณ์หลายๆคนที่ยังเป็นประโยชน์ต่อระบบราชการเยอะ

แต่อย่างว่าแหละ…โลกนี้คนดีอยู่ยาก

ขอบคุณแหล่งที่มา : facebook.com/lifeforlover