Home »
เรื่องน่ารู้
»
กฎหมายจราจรฉบับใหม่ ยกเลิกเงินรางวัลค่าปรับ ห้ามยึดใบขับขี่ ใช้ระบบตัดแต้ม แก้ไขเพิ่มปี 2561
กฎหมายจราจรฉบับใหม่ ยกเลิกเงินรางวัลค่าปรับ ห้ามยึดใบขับขี่ ใช้ระบบตัดแต้ม แก้ไขเพิ่มปี 2561
เพื่อนๆ รู้กันหรือยังว่า จะมีกฎหมายจราจรฉบับใหม่ ยกเลิกเงินรางวัลค่าปรับ ห้ามยึดใบขับขี่ ใช้ระบบตัดแต้ม แก้ไขเพิ่มปี 2561
เรื่องนี้กำลังเป็นข้อถกเถียงในสังคมว่า
การเพิ่มโทษสูงขึ้นอาจทำให้
กลายเป็นการเปิดช่องให้ตำรวจจจราจรเรียกรับผลประโยชน์ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่
เรื่องนี้พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาส ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3
ในฐานะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า
ร่าง
พรบ.ฉบับนี้หากบังคับใช้ พนักงานสอบสวนไม่ได้เปรียบเทียบปรับ
แต่การปรับจะอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล โดยระบุว่า
อยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับให้กับตำรวจจราจร
เพื่อป้องกันข้อครหาว่าตำรวจจราจรเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่ง
ตอนนี้อยู่ในขั้นการพิจารณา คาดว่าแล้วเสร็จต้นปี 2562
สำหรับส่วนแบ่งค่าปรับจราจรปัจจุบัน
ยกตัวอย่าง ปรับ 100 บาท เงินจำนวน 50 บาท จะถูกส่งเข้าท้องถิ่น
เข้ากองทุนค่าใช้จ่ายบำรุงด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจราจร 2 บาท 50 สตางค์
และอีก 47 บาท 50 สตางค์ เป็นส่วนแบ่งให้ตำรวจจราจร
ส่วนแนวคิดในของ
ร่างกฎหมายใหม่ นางสุภา โชติงาม ผู้อำนวยการ สำนักกฎหมาย กรมการขนส่งทางบก
บอกว่า โทษปรับที่หนักขึ้น
จะช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
และช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรียบร้อยแล้ว
และกำลังนำเข้าสู่ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม
เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. พิจารณา 3 วาระต่อไป
ซึ่งหลังจากนี้คณะรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาและคาดว่าจะบังคับใช้เป็นกฎหมายซึ่งมีผลในปี 62 นี้
พล.ต.ต.เอกรักษ์ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล3ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขกฎหมายจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวว่า
สตช.ได้ศึกษาแนวทางการแก้ไขกฎหมายจราจรเพื่อให้ประชาชนเคารพกฎหมายและลดอุบัติเหตุในประเทศไทย
จึงมีการทบทวนนพมาตรการตัดคะแนนความประพฤติใบอนุญาตขับขี่กลับมาให้อีกครั้ง
โดยจะมีการแก้ไขกฎหมายพรบ.จราจรทางบกม.142/1และม.142/2
ทั้งนี้ร่างกฎระเบียบแนวทางการปฏิบัติ
และการควบคุมและบังคับอย่างรัดกุมมากที่สุด
โดยขณะนี้แนวคิดดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ทาง สตช.
จะต้องจัดทำประชาพิจารณ์ฟังความเห็นประชาชนตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด
สำหรับแนวทางบังคับมาตราการตัดคะแนน สตช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ดังนี้
ประชาชนที่มีใบอนุญาตขับขี่จะมีทั้งหมด
12 คะแนนโดยความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทั้งหมดทุกข้อหาจะมีแต้มกำหนดไว้
ซึ่งจะจำแนกกลุ่มข้อหาในการตัดคะแนนไว้ดังนี้
1.กลุ่มการกระทำแล้วส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่นน้อยเช่น ไม่สวมหมวกกันน็อคไม่คาดเข็มขัดนิรภัยถูกตัด 1 คะแนน
2. กลุ่มที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและสาธารณะชนปานกลางเช่น ขับรถฝ่าไฟแดง ขับรถย้อนศรถูกตัด 2 คะแนน
3.
กลุ่มที่ส่งผลกระทบร้ายแรงทั้งต่อตนเองและผู้อื่นเช่นดื่มแล้วขับ
เสพยาเสพติดแล้วขับรถขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดขับรถชนแล้วหนีถูกตัด 3 คะแนน
พล.ต.ต.เอกรักษ์กล่าวต่อว่า
หากประชาชนถูกตัดคะแนนหมดทั้ง 12 แต้มจะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน
และหากถูกพักใบอนุญาตขับขี่ติดต่อกัน3 ครั้ง ครั้งที่ 3
จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 1 ปี
และเมื่อครบกำหนดแล้วกลับมาใช้ใบอนุญาตขับขี่แต่ถูกตัดคะแนนหมด 12
แต้มอีกครั้งจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เป็นระยะเวลา 3 ปี
หลังจากนั้นจึงจะยื่นขอทำอนุญาตใบขับที่กับกรมการขนส่งได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหากประชาชนกระทำความผิดแต่คะแนนยังไม่หมดภายใน 1 ปี
คะแนนจะกลับเข้าสู่ระบบใหม่แต่หากไม่ต้องการรอจนครบ 1 ปี
สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอเจ้ารับการอบรมกับทางโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งฯ
และนำคะแนนมายื่นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้แจ้งว่าถูกตัดคะแนน
คะแนนก็จะกลับเข้าระบบตามเดิม
หลังจากนี้จะนำผลประชาพิจารณ์เสนอไปยังคณะกฤษฎีกาเพื่อเข้าสู่กระบวนการแก้ไขกฎหมายบังคับใช้เป็นกฎหมายคาดว่าจะมีผลในปี
62 นี้
แหล่งที่มา: ข่าว 3 มิติ