Home »
ทั่วไป
»
ปรับเกณฑ์ “บัตรคนจน” เตรียมรับลงทะเบียนรอบ 2 ตอบโจทย์ 100% หลังตรวจพบคนรวยได้บัตร
ปรับเกณฑ์ “บัตรคนจน” เตรียมรับลงทะเบียนรอบ 2 ตอบโจทย์ 100% หลังตรวจพบคนรวยได้บัตร
หลังจากมีข่าวเรื่องคนรวยถือบัตรคนจน ล่าสุด
คลังเตรียมประเมินผลบัตรคนจนใหม่ใน 17 ธ.ค. 61 นี้
พร้อมปรับเกณฑ์ลงทะเบียนรอบใหม่ เตรียมลงทะเบียนเป็นรายครอบครัว
สะท้อนรายได้แท้จริง ต้องเป็นผู้ทีมีรายน้อยเท่านั้น
การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่า มีผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น
11.4 ล้านคน และมีการเก็บตกในรอบ 2 สำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ
และผู้ป่วยติดเตียง เพิ่มอีก 3.1 ล้านคน รวมเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
(บัตรคนจน) ทั้งสิ้น 14.5 ล้านคน ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล
ซึ่งล่าสุด
รัฐบาลได้ใส่เงินเข้าไปในบัตรรวมเกือบ 5 หมื่นล้านบาท
นับจากเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 อย่างไรก็ตาม
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา
อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้มีบัตรคนจนเพิ่มเติมอีก 4 มาตรการ ระหว่างเดือน
ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2562
โดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 61 นี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
กระทรวงการคลังจะประเมินผลการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในวันที่ 17 ธ.ค. 61
นี้ โดยเบื้องต้นพบว่า ใช้ได้ระดับหนึ่ง
แต่ยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงแก้ไขในบางจุด
เช่น
การลงทะเบียนรายบุคคลอาจไม่ตอบโจทย์ 100% เพราะบางครอบครัวรวย
แต่เมื่อลงทะเบียนรายบุคคล
เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติรายบุคคลแล้วจะผ่านคุณสมบัติ เพราะไม่มีรายได้
ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไร จึงมีเหตุการณ์ว่า
ทำไมรวยแล้วยังได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ดังนั้น
ถ้าจะมีการลงทะเบียนรอบใหม่ในปี 2562 ต้องแก้ปัญหานี้ สิ่งที่ดู คือ
ต้องเป็นการลงทะเบียนรายบุคคลและรายครอบครัวด้วย เพื่อจะทำให้เห็นว่า
ครอบครัวไหนรายได้ดีหรือไม่ดี
เพราะการช่วยเหลือบ้านเราอยู่กันเป็นครอบครัวอยู่แล้ว หากทำเช่นนั้น
จะเข้าเป้าหมายมากขึ้น
ซึ่งจะสอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
ทำ คือ ลงทะเบียนเป็นครอบครัวเป็น GPS Map ในบ้าน ซึ่งมีรายได้น้อย
แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์
“เรายังไม่ได้สรุปว่าจะใช้เกณฑ์ไหนเป็นตัววัดรายได้ครอบครัว
เพียงแต่ได้บอกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
ถึงจุดอ่อนของบัตรสวัสดิการรัฐที่ต้องแก้ไขว่า
หากจะลงทะเบียนรอบใหม่แล้วจะต้องใช้แนวคิดนี้
เพราะเชื่อว่ารัฐบาลนี้คงไม่ทัน ต้องรอรัฐบาลใหม่ หากรัฐบาลใหม่เข้ามา
แล้วเห็นผลดีจะเดินหน้าต่อ น่าจะทำตามเกณฑ์นี้ เพียงแต่ยังไม่สะเด็ดนํ้า
ถ้าจะทำต้องลงรายละเอียดอีกทีว่า จะลงทะเบียนอย่างไร เกณฑ์วัดอะไรบ้าง”
นางสาวสุทธิรัตน์
รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า
สำหรับมาตรการเติมเงินบัตรสวัสดิการเพิ่มเติม 4 มาตรการ 2 กลุ่มนั้น
เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 2 มาตรการ คือ ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาล
และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับสุขภาพ
สำหรับผู้ที่มีอายุครบ
65 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อคน เป็นการจ่ายครั้งเดียว
แต่เฉพาะคนที่อายุครบ 65 ปี โดยจะเริ่มจ่ายวันที่ 21 ธ.ค. 61 นี้
ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมจะเริ่มจ่ายวันที่ 5 ม.ค. – 1 ก.พ. 2562
ที่เหลือผู้ถือบัตรรายใด มีอายุครบ 65 ปี ในระหว่างเดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย.
2562 จะได้รับเงินวันที่ 21 ของเดือนเกิด
และมาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน
สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือ 400 บาทต่อคนต่อเดือน
เป็นเวลา 10 เดือน โดยจะโอนเงินให้ทุกวันที่ 12 ของเดือน
เริ่มจ่ายครั้งแรกวันที่ 12 ธ.ค. 61 สำหรับคนที่อายุครบ 60 ปี และวันที่ 5
ม.ค. – 1 ก.พ. 2562 สำหรับผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติม
หากผู้มีบัตรอายุครบ
60 ปีบริบูรณ์ ระหว่างเดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2562
จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรกจนสิ้นสุดมาตรการ ส่วนอีก 2
มาตรการไม่ได้กำหนดอายุ คือ สนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี 500 บาทต่อคน
จ่ายครั้งเดียวทั้ง 14.5 ล้านคน
โดยจะทยอยนำจ่ายเงินเข้ากระเป๋า
e-Money ให้กับผู้มีบัตร 11.4 ล้านคน ในวันที่ 8-10 ธ.ค. 61
และจ่ายให้กับผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติม 3.1 ล้านคน ในวันที่ 5 ม.ค. – 1 ก.พ.
2562
และมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่านํ้าประปา
จะช่วยเหลือกรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อครัวเรือน จะช่วยเหลือไม่เกิน 230
บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และค่านํ้าประปาไม่เกิน 100
บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยจะจ่ายทุกวันที่ 18 ของเดือน
เริ่มจ่ายเดือนแรกวันที่ 18 ก.พ. 61
แหล่งที่มา: tam-nam.com