ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ!? ลองทำตาม 3 ข้อนี้… ถ้าทำได้น้ำหนักลดแน่นอน!!
ออกกำลังกายก็แล้ว อดอาหารก็แล้ว ทำไมน้ำหนักยังไม่ลดลงเสียที
หรือบางครั้งลดไปเพียง 1 – 2 กิโลกรัม
แต่พอกินเข้าไปนิดเดียวน้ำหนักกลับพุ่งขึ้นมาเป็นเท่าตัว
นั้นเป็นเพราะว่าสิ่งที่คุณทำมันเกินความจำเป็น เช่นว่า อดอาหารมากเกินไป
ลองมาดูกันว่าวิธีที่ถูกต้องเพื่อการลดน้ำหนักที่ได้ผลยั่งยืนนั้นควรปฏิบัติตัวอย่างไร
3 ข้อผิดพลาดที่ทำให้ ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ คุณหมอโภคิน ศักรินทร์กุล
แพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ให้ความเห็นว่า การลดน้ำหนักไม่สำเร็จ
เกิดจากสาเหตุ 3 ประการใหญ่ๆ คือ
ทำไมไม่ผอมเสียที!?
คุณหมอโภคิน ศักรินทร์กุล อธิบายปัญหา 3 ข้อ ที่ทำให้หลายคน ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ ไว้ดังนี้
1. ควบคุมอาหารผิดวิธี บางคนต้องการควบคุมที่ “ปริมาณ” อาหารมากกว่า
“พลังงาน” ที่ได้จากอาหาร เช่น การลดปริมาณข้าว
แต่กลับไปรับประทานขนมปังโฮลวีตเพิ่ม ทั้งๆ ที่ขนมปังโฮลวีต 1
แผ่นให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี เท่าๆ กับข้าวสวย 5 ช้อนโต๊ะ เป็นต้น
ฉะนั้นการควบคุมอาหารที่เหมาะสมคือ การรับประทานอาหารให้น้อยลงวันละ
500-600 กิโลแคลอรี และในแต่ละวันไม่ควรได้รับพลังงานต่ำกว่า 1,200
กิโลคลอรี เพียงเท่านี้ก็จะลดน้ำหนักลงได้สัปดาห์ละ ประมาณ 0.45 กิโลกรัม
2. ออกกำลังกายไม่ได้ระดับความแรงที่เหมาะสม
ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยกว่าการเดินเร็ว
คุณหมอแนะนำให้ออกกำลังกายชนิดแรงปานกลาง เช่น การเดินเร็ว วิ่ง
หรือขี่จักรยาน เป็นระยะเวลา 20-30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน
รวมถึงเพิ่มกิจกรรมทางกายระหว่างชั่วโมงทำงาน เช่น
การเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์ การเดิน 10-15 นาที หลังมื้ออาหาร
แทนการนั่งเล่นอินเทอร์เน็ต
3. ควบคุมจิตใจ แต่ไม่ได้ปรับพฤติกรรม
คือการข่มใจเมื่ออยากรับประทานเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ปรับพฤติกรรม
หรือสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดภาวะอ้วน เช่น
ขาดทักษะการคำนวณปริมาณแคลอรีในอาหาร ไม่ได้จดรายการอาหารที่รับประทาน
รับประทานอาหารเร็วโดยไม่เคี้ยวให้ละเอียด
กำจัดจุดอ้วนด้วยชีวจิตสูตร 2
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว
เรามีเคล็ด(ไม่)ลับในการลดความอ้วนแบบฉบับชีวจิตนั้นเป็นวิธีการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
ที่ทำควบคู่กับการควบคุมน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยการกินอาหารชีวจิตสูตร 2 ซึ่งมีสัดส่วนของอาหารดังนี้
-อาหารจำพวกแป้งไม่ขัดขาวและคาร์โบไฮเดรต มื้อละ 30 เปอร์เซ็นต์
-ผักสดหรือผักสุก มื้อละ 35 เปอร์เซ็นต์
-โปรตีนจากถั่วและผลผลิตจากพืช เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร มื้อละ 25 เปอร์เซ็นต์
-เบ็ดเตล็ด เช่น สาหร่ายทะเล เมล็ดธัญพืช หรือผลไม้ไม่หวาน มื้อละ 10 เปอร์เซ็นต์